https://so01.tci-thaijo.org/index.php/JLASI/issue/feed
วารสารศิลปศาสตร์และอุตสาหกรรมบริการ (Journal of Liberal Arts and Service Industry)
2024-11-23T22:11:24+07:00
Open Journal Systems
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/JLASI/article/view/277069
สมรรถนะของผู้บริหารงานนิติบุคคลอาคารชุดในยุคดิจิทัล
2024-11-23T22:11:24+07:00
ปิยะพงษ์ บุตรี
piyapong.boot@northbkk.ac.th
อนันต์ ธรรมชาลัย
anan.th@northbkk.ac.th
เกรียงศักดิ์ โพยมรัตน์
Kreangsak.pa@northbkk.ac.th
รวีภัทร์ ฉัตรไชยเดช
Raveepat.ch@nortbkk.ac.th
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสมรรถนะของผู้บริหารงานนิติบุคคลอาคารชุดในยุคดิจิทัล โดยมุ่งศึกษาข้อมูล ความสำคัญ ความหมาย องค์ประกอบ แนวคิดของสมรรถนะ และสมรรถนะของผู้บริหารงานนิติบุคคลอาคารชุด ทั้งในด้านการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด ด้านการแก้ไขปัญหาและสนับสนุนองค์การ ด้านภาวะผู้นำในการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด ด้านกฎหมายพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 ด้านการวางแผนกลยุทธ์ในการบริหารจัดการ ชึ่งบทบาทของผู้บริหารองค์การมีสำคัญต่อการบริหารงานนิติบุคคลอาคารชุดอย่างมากในธุรกิจอสังหาริทรัพย์ในประเทศไทยอย่างไรก็ตามเทคโนโลยีได้ Disruption อย่างก้าวกระโดด องค์กรจึงต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลผู้บริหารงานนิติบุคคลอาคารชุดไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จึงเป็นความท้าทายของผู้บริหารงานนิติบุคคลอาคารชุดในยุคดิจิทัลรวมถึงบทบาทของผู้บริหารงานในประเทศไทย ดังนั้นสมรรถนะของผู้บริหารงานนิติบุคคลอาคารชุดในยุคดิจิทัลจึงเป็นสิ่งสำคัญและมีความจำเป็นกับทุกองค์การในการบรรลุเป้าหมายขององค์กรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลตลอดจนการนำไปปฏิบัติในองค์การอย่างยั่งยืนทั้งในหน่วยภาครัฐและภาคเอกชนต่อไป</p>
2024-12-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2024 วารสารศิลปศาสตร์และอุตสาหกรรมบริการ (Journal of Liberal Arts and Service Industry)
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/JLASI/article/view/276158
รูปแบบการวิจัยทางสังคมศาสตร์เพื่อค้นหาแนวทางให้บริษัทเอกชนปฏิบัติตาม ไม่ละเมิดพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
2024-10-05T14:51:08+07:00
อภิญญา ทักศินาวรรณ
aphinya_apo@hotmail.com
บรรพต วิรุณราช
banpot.buu@gmail.com
รดา วงศ์เลิศคุนากร
rhadawon@utcc.ac.th
มนสิชา โพธิสุข
monsicha.po@northbkk.ac.th
นภาวรรณ ลับบัวงาม
napawan.la@northbkk.ac.th
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบงานวิจัยที่จะทำให้ค้นพบวิธีการปฏิบัติของบริษัทเอกชน ที่ไม่ละเมิดกฎหมาย PDPA เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มี 2 ขั้นตอน คือ สัมภาษณ์กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก 6 คน เป็นอาจารย์สอนวิจัย และสนทนากลุ่ม 6 คน กับผู้บริหารทรัพยากรมนุษย์ 6 บริษัทๆ ละ 7 คน เลือกแบบเจาะจง ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการวิจัยทางสังคมศาสตร์ที่เหมาะสมที่จะหาแนวทางการปฏิบัติให้บริษัทเอกชนในการไม่ละเมิดกฎหมาย PDPA ได้แก่ วิจัย R and D (วิจัยและพัฒนา) ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นการค้นหาและพัฒนาทดลองจริงมาแล้วก่อนเผยแพร่ให้มีการปฏิบัติ</p>
2024-11-11T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2024 วารสารศิลปศาสตร์และอุตสาหกรรมบริการ (Journal of Liberal Arts and Service Industry)
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/JLASI/article/view/275125
แนวทางความสำเร็จของพนักงานขาย ผลิตภัณฑ์ กองทุน เงินฝาก สินเชื่อ ธนาคาร ABC ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ
2024-10-24T11:33:14+07:00
จารุวรรณ ศิริพันธ์
phairint@go.buu.ac.th
ศรัณยา เลิศพุทธรักษ์
phairint@go.buu.ac.th
ไพรินทร์ ทองภาพ
phairint@go.buu.ac.th
<p> งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวทางความสำเร็จของพนักงานขาย ผลิตภัณฑ์ กองทุน เงินฝาก สินเชื่อ ธนาคาร ABC ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ 2) เพื่อเสนอแนวทางในการพัฒนาบุคลากรของธนาคารให้ประสบความสำเร็จในการเป็นพนักงานขาย ผลิตภัณฑ์ กองทุน เงินฝาก สินเชื่อ เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกกับ PB Retail และพนักงานธุรกิจ (ที่มีผลงานโดดเด่น) ของธนาคาร ABC ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เป็นการสัมภาษณ์โดยใช้แบบสัมภาษณ์ชนิดมีโครงสร้าง ผู้วิจัยเลือกสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง พนักงานตำแหน่ง PB Retail และตำแหน่งพนักงานธุรกิจ (ที่มีผลงานโดดเด่น) ของธนาคาร ABC ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ เป็นการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาเป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากรของธนาคารให้ประสบความสำเร็จในการเป็นพนักงานขายผลิตภัณฑ์ กองทุน เงินฝาก สินเชื่อ ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการประสบความสำเร็จในการเป็นพนักงานขายเป็นปัจจัยด้านการมีความรู้ผลิตภัณฑ์ พนักงานขายต้องมีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ที่จะนำเสนอขายให้กับลูกค้า และต้องตอบคำถามเกี่ยวกับผลิคภัณฑ์ลูกค้าเข้าใจได้ มีทักษะด้านกระบวนการขาย การสื่อสารกับลูกค้าต้องสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจถึงตัวผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ต้องนำเสนออย่างถูกต้องและครบถ้วนตามหลักความเป็นจริงทุกข้อ ด้านอุปกรณ์ที่เป็นตัวช่วยในการขายนอกสถานที่ ที่ทำให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกรวดเร็ว และโบรชัวร์เพื่อให้ลูกค้าได้กลับไปศึกษาต่อหากมีความสนใจ มีผลต่อการประสบความสำเร็จในการเป็นพนักงานขาย กองทุน เงินฝาก สินเชื่อ ส่วนรูปแบบการพัฒนาบุคลากรเพื่อการประสบความสำเร็จของพนักงาน ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ เพื่อให้พนักงานทุกคนต้องมีความรู้ด้านผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องครบถ้วน การอบรมด้านทักษะที่จะไปนำเสนอขาย การฝึกอบรมด้านทักษะการสื่อสาร เพื่อให้พนักงานสามารถสื่อให้ลูกค้าเข้าใจในผลิตภัณฑ์ได้ การฝึกอบรมการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทำให้ลูกค้าไว้วางใจให้พนักงานได้มีโอกาสได้เข้าไปดูแลเรื่องผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้อย่างเหมาะสมตามความต้องการของลูกค้า การเป็นพนักงานขายต้องมีความน่าเชื่อถือ และการฝึกอบรมบุคลิกภาพในการเป็นพนักงานขาย ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ลูกค้าจะนำมาตัดสินใจว่าพนักงานมีความน่าเชื่อถือหรือไม่</p>
2024-11-19T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2024 วารสารศิลปศาสตร์และอุตสาหกรรมบริการ (Journal of Liberal Arts and Service Industry)
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/JLASI/article/view/276298
บทบาทของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการส่งเสริมการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
2024-10-08T10:39:52+07:00
พัทธ์ธีรา เงินสุข
patteera.nger@northbkk.ac.th
พงศกร ศรีรงค์ทอง
pongsakorn.sr@northbkk.ac.th
อรพินธุ์ คุณธรรมนิธิ
orapin.kh@northbkk.ac.th
ปทิตตา ทวีระวงษ์
patitta.th@northbkk.ac.th
จิตตากานต์ ศรีสุวรรณ
patitta.th@northbkk.ac.th
<p>บทความนี้วิจารณ์บทบาทของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการส่งเสริมการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาจากสถิติการรับเรื่องร้องเรียนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและการละเลยหน้าที่ในหน่วยงานรัฐ พบว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีปัญหาด้านความโปร่งใสและการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างเป็นปัญหาที่พบมาก ทำให้เกิดความเสียหายทางการเงินแก่รัฐ นอกจากนี้ บทบาทของหน่วยงานตรวจสอบภายนอก เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีความสำคัญในการเปิดเผยปัญหาและช่วยในการตรวจสอบ การส่งเสริมการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงควรเน้นไปที่การสร้างความโปร่งใส การปฏิบัติตามกฎหมาย การมีส่วนร่วมของประชาชน และการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร เพื่อป้องกันการทุจริตและเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน</p>
2024-11-19T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2024 วารสารศิลปศาสตร์และอุตสาหกรรมบริการ (Journal of Liberal Arts and Service Industry)
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/JLASI/article/view/274900
สภาพคล่องทางการเงินที่ส่งผลต่อความล้มเหลวทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
2024-07-18T13:54:26+07:00
ปานไพลิน ศรีต่ายขำ
kanda_8004@hotmail.com
กิติยา ห้วยหงษ์ทอง
kanda_8004@hotmail.com
จิรัชญา โชติสุวรรณกุล
kanda_8004@hotmail.com
ผกามาส เบาผล
kanda_8004@hotmail.com
สมิตานัน พิทักษ์ปิยะวรรณ
kanda_8004@hotmail.com
ทิพวรรณ ฤทธิชัย
kanda_8004@hotmail.com
<p> การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ศึกษาลักษณะของสภาพคล่องทางการเงินและความล้มเหลวทางการเงิน และศึกษาสภาพคล่องทางการเงินที่ส่งผลต่อความล้มเหลวทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2563-2565 จากการศึกษานี้ได้ทำการเลือกกลุ่มตัวอย่างของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวนทั้งสิ้น 408 ข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับงานวิจัยฉบับนี้ ได้แก่ การวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณนา สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์สมการถดถอยโลจิสติก ผลการศึกษาพบว่า อัตราส่วนทุนหมุนเวียนและขนาดของกิจการมีผลต่อความล้มเหลวทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในทิศทางเชิงบวก กล่าวคือ บริษัทที่มีอัตราส่วนทุนหมุนเวียนและขนาดของกิจการเพิ่มขึ้น มีผลต่อความล้มเหลวทางการเงินของบริษัทลดลง</p>
2024-11-19T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2024 วารสารศิลปศาสตร์และอุตสาหกรรมบริการ (Journal of Liberal Arts and Service Industry)
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/JLASI/article/view/276852
อิทธิพลของการจัดการความขัดแย้งที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานของพนักงาน
2024-11-07T10:58:45+07:00
สัญญา บริสุทธิ์
sanya_bo@rmutto.ac.th
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อวิเคราะห์ระดับของการจัดการความขัดแย้งและประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานของพนักงาน 2) เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานของพนักงาน ที่มีปัจจัยส่วนบุคคลต่างกัน และ 3) เพื่อทดสอบอิทธิพลของการจัดการความขัดแย้งที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานของพนักงาน เป็นวิจัยเชิงปริมาณ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างคือ พนักงานในสายการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่ง ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 378 ตัวอย่าง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติ ผลการวิจัยพบว่า 1) พนักงานในสายการผลิตมีการจัดการความขัดแย้งและประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานอยู่ในระดับปานกลาง 2) พนักงานในสายการผลิตที่มีระดับการศึกษาและระยะเวลาปฏิบัติงานต่างกันมีประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานในภาพรวมแตกต่างกัน 3) การจัดการความขัดแย้งโดยวิธีการยอมให้ การหลีกเลี่ยง การประณีประนอม และการร่วมมือ มีอิทธิพลเชิงบวกต่อประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานของพนักงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ</p>
2024-12-02T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2024 วารสารศิลปศาสตร์และอุตสาหกรรมบริการ (Journal of Liberal Arts and Service Industry)