เอเชียปริทัศน์ https://so01.tci-thaijo.org/index.php/asianreview <p><strong><em>เอเชียปริทัศน์ </em></strong>เป็นวารสารวิชาการด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ของสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับเอเชียศึกษา เพื่อเปิดพื้นที่สำหรับการอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักวิชาการ และเพื่อเป็นช่องทางในการเผยแพร่ผลงานวิชาการสู่สาธารณะเพื่อประโยชน์แก่สังคมในวงกว้าง</p> <p><strong><em>เอเชียปริทัศน์ </em></strong>เผยแพร่ใน 2 รูปแบบ <strong>รูปแบบที่ 1 การตีพิมพ์</strong> เริ่มเผยแพร่ในปี พ.ศ. 2522 (ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 ตุลาคม – ธันวาคม 2522) ออกเผยแพร่ราย 3 เดือน และในปี พ.ศ. 2545 – ปีปัจจุบันออกเผยแพร่ราย 6 เดือน (มกราคม - มิถุนายน, กรกฎาคม - ธันวาคม) และอาจมีฉบับพิเศษปีละไม่เกิน 1 ฉบับ <strong>รูปแบบที่ 2 ระบบออนไลน์</strong> เผยแพร่บทความในระบบ ThaiJo2.0 (www.tci.thaijo.org) เริ่มในปี พ.ศ. 2560 ฉบับปีที่ 38 โดยตีพิมพ์บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเอเชียศึกษาในมิติทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ชาติพันธุ์ ภาษาและวรรณกรรม และมิติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง</p> <p><strong><em>เอเชียปริทัศน์ </em></strong>ยินดีพิจารณาบทความวิจัย (research article) บทความทางวิชาการที่ไม่ใช่งานวิจัย (non-research academic article) บทความปริทัศน์ (review article) และบทปริทัศน์หนังสือ (book review) ที่อยู่ในขอบเขตเนื้อหาข้างต้น สามารถส่งบทความเพื่อรับการพิจารณาตีพิมพ์ได้ตลอดทั้งปี บทความที่ได้รับการพิจารณาจะได้รับการประเมินแบบไม่เปิดเผยตัวตนสองทาง (double-blind review) โดยผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ท่าน&nbsp;</p> <p>บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน <strong><em>เอเชียปริทัศน์ </em></strong>&nbsp;เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียนบทความเท่านั้น ผู้พิมพ์และกองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกับความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความแต่อย่างใด</p> <p><strong>ลิขสิทธิ์วารสารและบทความเป็นของสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย</strong></p> Institute of Asian Studies Chulalongkorn University en-US เอเชียปริทัศน์ 0125-3638 บทความทุกบทความเป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันเอเชียศึกษา ดูตัวอย่างอื่นประกอบ บทบรรณาธิการ https://so01.tci-thaijo.org/index.php/asianreview/article/view/282243 <p>วารสารเอเชียปริทัศน์ ปีที่ 46 ฉบับที่ 1 ปีพุทธศักราช 2568 ฉบับนี้ได้รวบรวมผลงานวิชาการสามบทความที่ต่างนำเสนอการศึกษาวิเคราะห์ประเด็นทางสังคม วัฒนธรรม และการเมืองผ่านมุมมองที่หลากหลาย ทั้งในระดับสากลและในบริบทไทยร่วมสมัย โดยมีจุดร่วมสำคัญคือการสำรวจบทบาทของสื่อ ภาพยนตร์ และศิลปะพื้นบ้านในการสะท้อนและท้าทายอำนาจทางสังคม</p> <p>บทความแรก “ภาพยนตร์ผีอินโดนีเซีย: จากจุดเริ่มต้นถึงยุคหลังการปฏิรูปการเมืองสู่ภาพยนตร์เรื่องวีนา คืนบาปสาปจากหลุม” โดย ภีรกาญจน์ ไค่นุ่นนา และ สุรศักดิ์ บุญอาจ นำผู้อ่านย้อนสำรวจวิวัฒนาการของภาพยนตร์ผีในอินโดนีเซีย ตั้งแต่ยุคอาณานิคมจนถึงปัจจุบัน เผยให้เห็นการแปรเปลี่ยนของเนื้อหาและความหมายที่สะท้อนปัญหาสังคมร่วมสมัย ทั้งด้านความไม่เท่าเทียมทางเพศ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม</p> <p>บทความที่สอง “4 Kings ทวิภาค: ตระกูลอาชญากรรม ความพ่ายแพ้ และชายแท้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา” โดย วิโรจน์ สุทธิสีมา วิเคราะห์ภาพยนตร์ไทยร่วมสมัยผ่านกรอบแนวคิดตระกูลภาพยนตร์ (genre studies) โดยมุ่งเน้นการถอดรหัสความเป็นชาย ความพ่ายแพ้ และมิตรภาพในกลุ่มชายหนุ่มชนชั้นล่าง ภายใต้บริบททางสังคมและเศรษฐกิจไทยที่เปราะบาง ผลงานนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการวิเคราะห์ภาพยนตร์ในฐานะวัตถุทางวัฒนธรรม แต่ยังสะท้อนภาพโครงสร้างอำนาจและอุดมการณ์ที่ฝังแน่นอยู่ในสังคมไทย</p> <p>บทความที่สาม “มุมมองของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีต่อบทบาทหมอลำการเมือง (พ.ศ. 2557–2565)” โดย บุญทิวา พ่วงกลัด เสนอการศึกษาภาคสนามที่สำรวจความคิด ความรู้สึก และการรับรู้ของนักศึกษาไทยต่อบทบาทของหมอลำการเมือง ทั้งในฐานะเครื่องมือการสื่อสาร ความบันเทิง และการกล่อมเกลาทางการเมือง โดยชี้ให้เห็นถึงพลวัตของศิลปะท้องถิ่นในการสร้างพื้นที่ทางการเมือง ท่ามกลางข้อจำกัดของการแสดงออกในยุคหลังรัฐประหาร</p> <p>ทั้งสามบทความนี้สะท้อนถึงพลังของศิลปะและวัฒนธรรมในฐานะสื่อกลางในการวิพากษ์สังคม เปิดพื้นที่ให้กับเสียงของผู้คนชายขอบ และกระตุ้นให้ผู้อ่านตั้งคำถามต่อโครงสร้างอำนาจที่ดำรงอยู่ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวารสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านในการจุดประกายความคิด วิเคราะห์ และต่อยอดการศึกษาวิจัยในอนาคตต่อไป</p> จิรยุทธ์ สินธุพันธุ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-07-09 2025-07-09 46 1 ภาพยนตร์ผีอินโดนีเซีย https://so01.tci-thaijo.org/index.php/asianreview/article/view/277166 <p>บทความนี้ศึกษาพัฒนาการและบทบาทของภาพยนตร์ผีอินโดนีเซีย ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นภายใต้อิทธิพลของเจ้าอาณานิคมดัตช์และการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ผู้ผลิตชาวจีน ก่อนที่ชาวอินโดนีเซียจะมีบทบาทสำคัญในช่วงทศวรรษ 1920-1950 โดยอุสมาร์ อิสมาอิล บิดาแห่งภาพยนตร์อินโดนีเซียเป็นผู้บุกเบิกไว้ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ภายในประเทศได้หล่อหลอมให้เกิดเรื่องเล่า ตำนาน และความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการสร้างภาพยนตร์และสามารถเข้าถึงผู้ชมในวงกว้าง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมร่วมกัน ปัจจุบัน ภาพยนตร์ผีที่ผสานแนวสยองขวัญได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องราวที่อิงจากเหตุการณ์จริงที่วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศ เศรษฐกิจ และกระบวนการยุติธรรม ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นแรงผลักดันให้เรื่องราวของผียังคงได้รับการนำเสนออย่างต่อเนื่อง "วีนา คืนบาปสาปจากหลุม" เป็นตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนพัฒนาการนี้ โดยนำเสนอเรื่องราวจากคดีอาชญากรรมจริงที่สร้างสะเทือนใจแก่สังคมอินโดนีเซีย และเน้นย้ำถึงประเด็นปัญหาความรุนแรงทางเพศและความอยุติธรรม การผสานความเชื่อเรื่องวิญญาณเข้ากับองค์ประกอบสยองขวัญไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นให้เกิดการตระหนักถึงปัญหาทางสังคมในอินโดนีเซียด้วย</p> ภีรกาญจน์ ไค่นุ่นนา สุรศักดิ์ บุญอาจ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-07-09 2025-07-09 46 1 4 Kings ทวิภาค https://so01.tci-thaijo.org/index.php/asianreview/article/view/277426 <p>บทความนี้วิเคราะห์ภาพยนตร์เรื่อง 4 Kings (พ.ศ.2564) และ 4 Kings II (พ.ศ.2566) โดยใช้กรอบความคิดของตระกูลภาพยนตร์ ผ่านการวิเคราะห์ขนบการเล่าเรื่องซึ่งรวมตัวกันกลายเป็นสูตรในการนำเสนอ องค์ประกอบภายใต้สูตรดังกล่าว 2 ประการใหญ่คือ 1) องค์ประกอบภายใน อันได้แก่ บรรยากาศของเรื่อง เนื้อหาเรื่องราว และตัวละคร 2) บริบทภายนอก อันได้แก่ อุดมการณ์ตามบริบททางสังคม สิ่งที่ค้นพบได้แก่ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีลักษณะทางตระกูลภาพยนตร์แบบอาชญากรรม (crime) โดยใช้แนวทางแบบสหายร่วมรบ (brother in arms) มากกว่าเป็นแนวทางแก๊งสเตอร์ตามที่มักจะเข้าใจกัน ดังนั้นประเด็นมิตรภาพในหมู่คนชั้นล่างจึงกลายเป็นส่วนสำคัญมากกว่าจะเป็นความน่าหลงใหลในทรัพย์สินและความเป็นองค์กรอาชญากรรม ทำให้อุดมการณ์ของตัวละครในภาพยนตร์จึงเป็นในแบบฉบับของชายผู้พ่ายแพ้ตามไปด้วย นอกจากนี้ยังสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นชายในเรื่องซึ่งเป็นชายผู้ตกเป็นเบื้องล่างและคนชายขอบผสมผสานกัน</p> วิโรจน์ สุทธิสีมา ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-07-09 2025-07-09 46 1 มุมมองของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีต่อบทบาทหมอลำการเมือง ในช่วงปี พ.ศ.2557-2565 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/asianreview/article/view/271609 <p>มุมมองของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีต่อบทบาทหมอลำการเมืองในช่วงปี พ.ศ. 2557-2565 มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาบทบาทหมอลำการเมืองในช่วงปี พ.ศ. 2557-2565 2) เพื่อศึกษามุมมองของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีที่มีต่อบทบาทของหมอลำการเมืองในช่วงปี พ.ศ.2557-2565 โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผลการศึกษาพบว่า หมอลำการเมืองในช่วงเวลาดังกล่าวมีบทบาทการต่อสู้ ในลักษณะของการต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ การเรียกร้องประชาธิปไตย โดยมักจะพูดถึงความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น ตลอดจนใช้หมอลำการเมืองเพื่อบรรยายสภาพบริบทสังคมการเมือง และเป็นกระบอกเสียงในการสะท้อนปัญหาเรื่องความทุกข์ยากลำบาก การถูกกดขี่ขมเหง ความเจ็บปวดและความน้อยเนื้อต่ำใจของพี่น้องชาวอีสาน ซึ่งเป็นการต่อสู้ผ่านบทกลอนลำ และบทบาทการกล่อมเกลาทางการเมือง เป็นลักษณะการสร้างความบันเทิงที่สอดแทรกไปด้วยความรู้ทางการเมือง และได้มีการนำหมอลำการเมืองมาใช้ในการหาเสียงให้กับผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งมักจะเป็นการยกย่องชมเชยและนำเสนอนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองเพื่อให้ประชาชนรับรู้ผ่านบทกลอนลำ ในส่วนของมุมมองของนักศึกษาต่อบทบาทหมอลำทางการเมืองในช่วงปี พ.ศ. 2557-2565 พบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่มีมุมมองความคิดเห็นต่อหมอลำการเมืองว่าเป็นเรื่องที่ดีในการนำดนตรีเข้ามาผสมผสานในการสื่อสารทางการเมืองเพื่อให้คนในสังคมรับรู้เรื่องราวทางสังคมการเมือง ที่เป็นลักษณะของการวิพากษ์วิจารณ์การทํางานของรัฐบาล การต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ และการสะท้อนปัญหาในสังคม ตลอดจนการเรียกร้องประชาธิปไตย การรับรู้เรื่องราวทางการเมืองจากหมอลำการเมืองเหล่านี้ส่งผลให้นักศึกษาเกิดความสนใจและต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองเพิ่มขึ้น อีกทั้งนักศึกษายังเห็นว่าหมอลำการเมืองได้สะท้อนภาพของการต่อสู้และสามารถกล่อมเกลาความคิดทางการเมืองของนักศึกษาได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามยังมีนักศึกษาบางส่วนที่มองว่าหมอลำการเมืองเป็นเพียงสื่อที่ให้ความรู้ทางการเมืองและเป็นเครื่องมือการสื่อสารในฤดูเลือกตั้งเพียงเท่านั้น แม้จะเกิดการรับรู้ทางการเมือง แต่นักศึกษาก็ไม่ได้เกิดความสนใจและไม่ได้ต้องการที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง รวมถึงนักศึกษายังไม่เห็น ถึงการต่อสู้และการกล่อมเกลาทางการเมืองอีกด้วย</p> บุญทิวา พ่วงกลัด กรกนก โพธิ์ขาว จิราพร คำด้วง ชินพร อัคเสริญ สรญา โททอง พิมลสิริ นนท์สะเกษ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-07-09 2025-07-09 46 1