TY - JOUR AU - พระครูสาครธรรมประสิทธิ์, PY - 2021/06/24 Y2 - 2024/03/29 TI - การพัฒนาประสิทธิผลการบริหารกิจการคณะสงฆ์ JF - พุทธมัคค์ JA - Buddhamagga VL - 6 IS - 1 SE - บทความวิจัย DO - UR - https://so01.tci-thaijo.org/index.php/bdm/article/view/244581 SP - 177-189 AB - <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาประสิทธิผลของการบริหารกิจการคณะสงฆ์ของคณะสงฆ์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เป็นกรณีศึกษาวัดในเขตจังหวัดสมุทรสาคร 6 ด้าน โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างพระสังฆาธิการจำนวน 385 รูป ผลการวิจัยพบว่าพระสังฆาธิการส่วนใหญ่มี อายุ 41–50 ปี มีพรรษา 21–30 พรรษา จบปริญญาตรีหรือเทียบเท่า จบนักธรรมชั้นเอกและไม่มีวุฒิทางเปรียญธรรม ประสิทธิผลของการบริหารกิจการคณะสงฆ์พบว่าอยู่ในระดับมากในทุกด้าน ได้แก่ ด้านงานสาธารณูปการ ด้านงานการปกครอง ด้านงานศึกษาสงเคราะห์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านงานศาสนศึกษา ด้านงานเผยแผ่ศาสนธรรมและด้านงานสาธารณสงเคราะห์</p><p><strong>ผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ สรุปว่า</strong> ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดประสิทธิผลของการบริหารกิจการคณะสงฆ์ มากที่สุดโดยลำดับได้แก่ ภาวะผู้นำของเจ้าอาวาส(Ŷ = 0.374X<sub>1</sub> + 0.491X<sub>2</sub>) ค่าR Square = 0.805&nbsp; คุณภาพการบริหาร (Ŷ = 0.742X<sub>1</sub> + 0.325X<sub>2</sub> - 0.453X<sub>3</sub> )&nbsp; ค่า R Square = 0.793 และการมีส่วนร่วมสนับสนุน(Ŷ = 0.245X<sub>1</sub> - 0.120X<sub>2</sub> - 0.255X<sub>3</sub>)ค่า R Square = 0.716ตามลำดับ โดยมีสมการพยากรณ์ Ŷ = &nbsp;0.429X<sub>1</sub> + 0.421X<sub>2</sub>+ 0.418X<sub>3</sub> ค่า R Square = 0.761&nbsp;</p><p>การวิจัยนี้ได้ค้นพบทฤษฎีสำคัญที่ส่งผลให้เกิดประสิทธิผลการบริหารกิจการคณะสงฆ์คือทฤษฎีภาวะผู้นำ ทฤษฎีการบริหารและทฤษฎีการมีส่วนร่วมและได้สะท้อนให้เห็นว่าวัดยังมีการบริหารงานตามทฤษฎีองค์การในระบบปิดเพราะประสิทธิผลของการบริหารกิจการคณะสงฆ์ยังขึ้นอยู่กับภาวะผู้นำของเจ้าอาวาสเป็นหลักจึงควรที่จะเปิดการบริหารกิจการวัดให้มีผู้มีส่วนร่วมสนับสนุนจากสภาพแวดล้อมภายนอกตามทฤษฎีองค์การระบบเปิดให้มากยิ่งขึ้นและมีการปรับโครงสร้างการแบ่งงานของการบริหารวัดให้มีรองเจ้าอาวาสหรือผู้ช่วยเจ้าอาวาสผู้รับผิดชอบในด้านต่างๆและมีคณะสงฆ์ปฏิบัติหน้าที่รองรับในแต่ละด้านอย่างเป็นระบบตามหลักการจัดองค์การที่ยึดหลักกฎหมายและเหตุผล</p> ER -