https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/issue/feed
วารสารศิลปกรรมบูรพา
2025-06-12T10:50:48+07:00
ผศ.ดร. ภูวษา เรืองชีวิน
artsbuufa@gmail.com
Open Journal Systems
<p><span data-sheets-userformat="{"2":515,"3":{"1":0},"4":[null,2,16776960],"12":0}" data-sheets-value="{"1":2,"2":"วารสารศิลปกรรมบูรพา มีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการ ผลงานวิจัยและสร้างสรรค์ด้านทัศนศิลป์ ในทุกสาขาและด้านการออกแบบ ดนตรี รวมทั้งด้านการบริหารศิลปะและวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ศิลปะ การจัดการพิพิธภัณฑ์ และมนุษยวิทยา ในลักษณะของบทความวิชาการ บทความวิจัย ผลงานแปลเชิงวิชาการ และผลงานรูปแบบ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะ"}">วารสารศิลปกรรมบูรพา มีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการ ผลงานวิจัยและสร้างสรรค์ด้านทัศนศิลป์ ในทุกสาขาและด้านการออกแบบ ดนตรี รวมทั้งด้านการบริหารศิลปะและวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ศิลปะ การจัดการพิพิธภัณฑ์ และมนุษยวิทยา ในลักษณะของบทความวิชาการ บทความวิจัย ผลงานแปลเชิงวิชาการ และผลงานรูปแบบ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะ</span></p>
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/276666
วัฒนธรรมลัทธิเต๋าและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของวัดหย่งเล่อกง
2024-10-02T17:40:39+07:00
ฉง เฉิน
puvasa@go.buu.ac.th
ภูวษา เรืองชีวิน
artsbuufa@gmail.com
ภรดี พันธุภากร
puvasa@go.buu.ac.th
<p>วัดหยงเล่อกงสร้างขึ้นในยุคราชวงศ์หยวน เป็นบ้านบรรพบุรุษของสำนักฉวนเจินที่มีจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่และหลากหลายที่สุดที่เหลือในสมัยนั้น งานวิจัยนี้มุ่งสำรวจวัฒนธรรมลัทธิเต๋าและคุณค่าทางศิลปะของวัดผ่านการวิเคราะห์เอกสารและการสำรวจภาคสนาม โดยใช้ทฤษฎีความคิดสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมเพื่อวิเคราะห์งานจิตรกรรม สถาปัตยกรรม และภูมิหลังวัฒนธรรม ผลการวิจัยบ่งชี้ว่าจิตรกรรมและสถาปัตยกรรมของวัดมีคุณค่าสูงทางประวัติศาสตร์และศิลปะ สะท้อนความหมายทางศาสนาอย่างลึกซึ้ง สามารถสร้างแนวทางการจัดการด้านการอนุรักษ์จิตรกรรมด้วยการใช้ระบบดิจิทัลและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม สำหรับส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของวัดหยงเล่อกงต่อไป</p>
2025-06-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/270801
หัตถศิลป์เย็บปักถักร้อยแสนงามของเมืองหางโจว: วิธีจัดการความรู้ภูมิปัญญาสู่การออกแบบเนื้อหาหลักของพิพิธภัณฑสถานเพื่อการเผยแพร่
2024-03-27T13:56:03+07:00
มนัส แก้วบูชา
keawmanus@gmail.com
เซี๋ยวฉิน เย้
artsbuufa@gmail.com
<p><strong>บทคัดย่อ</strong></p> <p>ด้วยหัตถศิลป์เมืองหางโจวขาดการสนับสนุนเผยแพร่ จึงเกิดการวิจัยขึ้นดังวัตถุประสงค์ คือ(1)การจัดการความรู้ภูมิปัญญาของกระบวนการสรรสร้างงานเย็บปักถักร้อยแสนงาม (2) ออกแบบวิธีการเผยแพร่กระบวนการเชิงช่างงานหัตถศิลป์เข้าสู่เนื้อหาหลักของพิพิธภัณฑสถานชุมชน ดำเนินการวิจัยโดยประยุกต์ใช้หลักการ หลักวิชาและกฎบัตรของยูเนสโก เพื่อบันทึกข้อมูลการอนุรักษ์พัฒนาและเผยแพร่สู่เนื้อหาหลักของสภาพิพิธภัณฑสถานนานาชาติ</p> <p>ผลการวิจัย คือ (1) มีการจัดการความรู้ภูมิปัญญาขึ้นเป็นลายลักษณ์พร้อมการบันทึกภาพเคลื่อนไหวของการสัมภาษณ์และขณะสร้างสรรค์ผลงาน เครื่องมือ วิธีการและขั้นตอนเย็บปักถักร้อย คือ ก.วัสดุ ข.อุปกรณ์ ค.ขั้นตอนการสร้างงาน 15 ขั้น ง.วิเคราะห์ความงามและคุณค่าหายากของเชิงช่างงานหัตถศิลป์ของผู้เชี่ยวชาญรวม 7 คุณลักษณะพิเศษ (2) การออกแบบเนื้อหาหลักตามแนวคิด หลักการของความยั่งยืน ด้านคุณค่า ความรู้ ทักษะฝีมือและมุมมองใหม่การพัฒนาของยูเนสโกเพื่อนำสู่การจัดการออกแบบเนื้อหาหลักในพิพิธภัณฑสถานวิทยาเพื่อเผยแพร่ ประกอบด้วย ก.ต้นแบบการสื่อความหมายกับผู้ชมผ่านนิทรรศการ การจัดแสดงวัสดุ อุปกรณ์เกี่ยวกับการเย็บปักถักร้อยและผลงานแสนงามของผู้เชี่ยวชาญ ข.ออกแบบเส้นทางการเข้าชม จุดพินิจ จุดกิจกรรม จุดพัก ค.ออกแบบสร้างสรรค์พัฒนาสื่อสมัยใหม่ โฮมเพจ มิวเซียมเว็บไซต์ และ ง.ออกแบบมีเดียสคริปของวิดีทัศน์ เรื่อง การเย็บปักถักร้อยแสนงามเพื่อเผยแพร่สู่ผู้ชมได้เรียนรู้ท่องเที่ยวเมืองหางโจวตามลำดับ</p> <p> </p> <p><strong>คำสำคัญ</strong>: หัตถศิลป์เย็บปักถักร้อยแสนงามของเมืองหางโจว,การจัดการความรู้,ออกแบบเนื้อหาหลักในพิพิธภัณฑสถานเพื่อการเผยแพร่</p>
2025-06-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/277327
การออกแบบชุดตัวพิมพ์อัตลักษณ์สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
2024-12-06T16:32:10+07:00
ผศ.ดร.วิสิทธิ์ โพธิวัฒน์
wisit.po@bsru.ac.th
สุธาทิพย์ หอมสุวรรณ
wisit.po@bsru.ac.th
<div><span lang="TH">บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์อัตลักษณ์มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาเป็นองค์ประกอบภาพ และเพื่อออกแบบตัวพิมพ์อัตลักษณ์มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ผู้วิจัยศึกษาและเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับอัตลักษณ์มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พบว่าองค์ประกอบทางกายภาพ ได้แก่ โลโก้สื่อสารการตลาด </span></div> <div><span lang="EN-US">BSRU </span></div> <div><span lang="TH">อาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มบส. และต้นชงโค องค์ประกอบทางจินตภาพ ได้แก่ ปรัชญาแนวคิดและการรับรู้ความเป็นมหาวิทยาลัยคือ </span></div> <div><span lang="EN-US">“</span></div> <div><span lang="TH">มหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น</span></div> <div><span lang="EN-US">” </span></div> <div><span lang="TH">ด้านบุคลิกภาพของตัวพิมพ์อัตลักษณ์พบว่า บุคลิกตัวอักษรควรมีลักษณะภูมิฐาน/มีจารีตแบบแผน และผ่อนคลาย/ดูเป็นมิตร ผลดังกล่าวนำไปสู่การสังเคราะห์เป็นรูปร่างเรขศิลป์ </span></div> <div><span lang="TH">โดยตีความผ่านทฤษฎีอุปมาอุปไมยและสัญวิทยา กระทั่งได้ตัวแทนความหมายของอัตลักษณ์องค์กรที่บรรจุในตัวอักษร จากนั้นใช้แนวคิดเรื่องบุคลิกภาพของตัวอักษร และแนวคิดเรื่องความชัดเจนและความสามารถในการอ่าน ออกแบบเป็นชุดตัวพิมพ์ </span></div> <div><span lang="EN-US">1</span></div> <div><span lang="TH"> ชุด ประกอบด้วย อักษรแบบปกติ อักษรแบบบาง และอักษรแบบหนา ผลการประเมินประสิทธิภาพของชุดตัวพิมพ์โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่าการออกแบบชุดตัวพิมพ์มีประสิทธิภาพในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย 4.57) จากผลการวิจัย สามารถนำตัวพิมพ์ไปใช้ในการสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรผ่านสื่อต่างๆ ได้หลากหลาย น้ำหนักอักษรแบบบาง เหมาะสำหรับการสื่อสารที่เป็นทางการ สำหรับเนื้อหาที่มีปริมาณมาก ในขณะที่น้ำหนักแบบปกติ และแบบหนา เป็นอักษรในประเภทหัวเรื่อง เหมาะสำหรับการเน้นย้ำและสร้างผลกระทบทางภาพที่แข็งแกร่ง ช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อความสำคัญบนสื่อจะโดดเด่นออกมา</span></div>
2025-06-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/274299
พฤติกรรมการเลือกซื้ออัญมณีและเครื่องประดับจากความเชื่อของนักท่องเที่ยว บริเวณตลาดพลอยจังหวัดจันทบุรี
2024-07-30T16:26:07+07:00
สุภารีย์ เถาว์วงศ์ษา
suparee@go.buu.ac.th
<p>จากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นล้วนสร้างความรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัย ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 อันตรายจากปัญหาสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและการเมือง ผู้คนจึงใช้ “ความเชื่อ” มาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นนี้จึงถูกนำมาเป็นหัวข้อการศึกษาของนักวิชาการหลายแขนง ทำให้เกิดแนวคิดการตลาดโชคลาง คือการนำความเชื่อโชคลางที่มีอยู่ในสังคมไทยมาประยุกต์ใช้กับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ การวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์ในการศึกษาพฤติกรรมการเลือกซื้ออัญมณีและเครื่องประดับจากความเชื่อของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเลือกซื้อบริเวณตลาดพลอยจันทบุรี กำหนดพื้นที่การศึกษาคือตลาดพลอยจันทบุรี อันเป็นตลาดค้าอัญมณีอันดับ 1 ของประเทศ/ อันดับที่ 3 ของโลก ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลนักท่องเที่ยว จำนวน 400 คน แบบสอบถามแบ่งออกเป็น 4 ส่วน หาค่าความเที่ยงตรงของแบบสอบถามเพื่อปรับปรุงแบบสอบถาม จึงหาค่าความเชื่อมั่นจากแบบสอบถามที่ปรับปรุงแก้ไขแล้ว ส่งประเมินจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์จึงนำไปเก็บข้อมูล สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ T-test และ One-Way Anova เพื่อให้ได้ผลข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม, พฤติกรรมในการเลือกซื้ออัญมณีและเครื่องประดับโชคลาง , ความเชื่อที่ส่งผลการเลือกซื้ออัญมณีและเครื่องประดับโชคลาง และพบว่าเพศที่ต่างกัน ส่งผลต่อความเชื่อในการตัดสินใจซื้อเครื่องประดับโชคลางไม่แตกต่างกัน, ปัจจัยส่วนบุคคลด้านศาสนาที่นับถือที่ต่างกัน ส่งผลต่อความเชื่อในการตัดสินใจซื้อเครื่องประดับโชคลางแตกต่างกัน และรายได้ที่ต่างกันส่งผลต่อความเชื่อในการตัดสินใจซื้อเครื่องประดับโชคลางแตกต่างกัน โดยผู้วิจัยได้นำเสนอตัวอย่างการนำความเชื่อโชคลางจากผลการวิจัยมาใช้ประโยชน์ในการออกแบบสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้เกิดความแตกต่างไว้ในข้อเสนอแนะ</p>
2025-06-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/277528
นวัตกรรมการออกแบบพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมทวารวดีเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีใหม่ ชุมชนบ้านกุดโง้ง จังหวัดชัยภูมิ
2024-12-06T15:44:06+07:00
ชนินทร์ ศรีโยยอด
chanin.sriyoyod@gmail.com
สุนันท์ สีพาย
Chanin.sriyoyod@gmail.com
<p>การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ศิลปกรรมทวารวดีชุมชนบ้านกุดโง้ง จังหวัดชัยภูมิ 2) รูปแบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจริงที่เหมาะสมกับการจัดแสดงศิลปกรรมทวารดวีเสมือนจริง และ 3) เพื่อออกแบบพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมทวารวดีเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีใหม่ชุมชนบ้านกุดโง้ง จังหวัดชัยภูมิ โดยมีขั้นตอนการวิจัย 1) ศึกษารูปแบบศิลปกรรมทวารวดี ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกจากหน่วยงานรัฐและปราชญ์ชุมชน รวมจำนวน 5 คน 2) ศึกษารูปแบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจริงที่เหมาะสมด้วยการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง 3) ออกแบบมัลติมีเดียสำหรับจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ 4) ออกแบบระบบการนำเสนอพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง 5) ประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 คนและผู้ใช้ จำนวน 385 คน ผลการศึกษา พบว่า 1) ศิลปกรรมทวารวดี ชุมชนบ้านกุดโง้ง ส่วนใหญ่เล่าเรื่องพุทธประวัติและชาดก 2) รูปแบบพิพิธภัณฑ์ที่เหมาะสม คือ web application และ 3) การออกแบบมัลติมีเดีย ได้แก่ 1) กราฟิก 2) รูปภาพ 3) วีดิทัศน์ 4) เสียง 5) ตัวอักษร ผลการประเมินคุณภาพพิพิธภัณฑ์เสมือนจริงโดยผู้เชี่ยวชาญอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.70) และผลการประเมินโดยผู้ใช้อยู่ในระดับมาก (x̄ = 4.15) เช่นกัน</p>
2025-06-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/275999
การออกแบบของที่ระลึกที่สื่อถึงอัตลักษณ์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ด้วยเทคนิค Glass Forming and Decorating
2025-03-25T15:03:53+07:00
Kanlayanee Phueaknamphol
kanlayanee.ph@buu.ac.th
<p>การออกแบบของที่ระลึกที่สื่อถึงอัตลักษณ์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ด้วยเทคนิคการขึ้นรูปแก้วและการตกแต่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาอัตลักษณ์ ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และ ศึกษาด้านเทคนิคการขึ้นรูปแก้วและการตกแต่งประยุกต์แบบใหม่ เพื่อออกแบบและสร้างสรรค์ของที่ระลึกที่สะท้อนอัตลักษณ์และสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ได้ ผลการศึกษาพบว่าอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของคณะ ได้แก่ ตราคณะ ประติมากรรมหลอดสี และรูปเคารพพระพิฆเนศ เทคนิคการขึ้นรูปแก้วที่เหมาะสมสำหรับการทำของที่ระลึกในการผลิตเชิงพาณิชย์คือการหลอมแก้วรวมกับเซรามิกส์ ของที่ระลึกที่เป็นที่นิยมสำหรับคณะศิลปกรรมศาสตร์ ได้แก่ พวงกุญแจเซรามิกส์หลอดสีประดับแก้วตราคณะศิลปกรรมศาสตร์ และประติมากรรมหลอดสีเซรามิกส์ประดับแก้วขนาดเล็กสำหรับตั้งโชว์ โดยใช้เทคนิคหล่อน้ำสลิป ดินพอสเลนโปร่งแสง ประดับแก้ว เผาที่อุณภูมิ 1,230 องศาเซลเซียส การพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกที่สื่อถึงอัตลักษณ์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ด้วยเทคนิค Glass Forming and Decorating เป็นการค้นหาเทคนิคเหมาะสมในการนำแก้วมาใช้งานในเชิงออกแบบ ผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกทั้งคู่สามารถต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้ พวงกุญแจหลอดสีมีราคาขายอยู่ที่ 199 บาทและประติมากรรมหลอดสีมีราคาขายอยู่ที่ 599 บาท นอกจากนี้สามารถใช้เป็นของที่คณะมอบให้กับผู้มาเยี่ยมชมได้อีกด้วย ผลการประเมินพบว่าประติมากรรมหลอดสีมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( X = 4.63) และพวงกุญแจหลอดสีมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( X = 4.54)</p>
2025-06-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/278005
การวิจัยวิวัฒนาการของการตกแต่งลวดลายดอกไม้และนกบนเครื่องเคลือบกู๋ไฉ่ของสมัยราชวงศ์ชิงในเมืองจิ่งเต๋อเจิ้นในปัจจุบัน โดยมีรูปแบบการเผยแพร่และการสืบทอดในวิทยาลัยศิลปะเป็นตัวอย่าง
2024-12-14T14:34:52+07:00
จุนเจีย เจิ้ง
artsbuufa@gmail.com
ภูวษา เรืองชีวิน
artsbuufa@gmail.com
ภรดี พันธุภากร
artsbuufa@gmail.com
<p>การตกแต่งเครื่องเคลือบกู๋ไฉ่ด้วยลวดลายดอกไม้และนกได้ผ่านการพัฒนาเกือบพันปีและเป็นส่วนสำคัญของศิลปะเครื่องเคลือบจีนแบบดั้งเดิม ซึ่งมีการแบ่งแยกของสีที่ชัดเจน ทำให้เกิดจินตนาการที่กว้างไกล โดยสีมีความกลมกลืนทางศิลปะที่ยอดเยี่ยม สามารถสะท้อนภาษาศิลปะที่หลากหลายตามลักษณะการตกแต่งของชาติพันธุ์ที่แข็งแกร่ง การตกแต่งแบบกู๋ไฉ่จึงเป็นสมบัติประจำชาติของจีนและเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น โดยมีทักษะเป็นที่ยอมรับและมีเทคนิคที่เป็นเสมือนความลับของการทำเครื่องเคลือบที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้สะท้อนถึงลักษณะจีน บุคลิกจีนและรูปแบบจีน ควรค่าแก่การสืบทอดและสืบสานต่อไป การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจการสืบทอดและการพัฒนาของการตกแต่งเครื่องเคลือบกู๋ไฉ่ด้วยลวดลายดอกไม้และนกในวิทยาลัยศิลปะในฐานะพาหะในบริบทของยุคใหม่</p>
2025-06-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/276245
การออกแบบพัฒนา AR เพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวสถาปัตยกรรมชโินโปรตุกส
2024-11-09T16:00:14+07:00
นัทธพัชร์ น้อยสวัสดิ์
natthapat99noisawad@gmail.com
<p><span style="font-weight: 400;">การวิจัยนี้มุ่งเน้นการออกแบบพัฒนาต้นแบบการใช้เทคโนโลยีความจริงเสริม (Augmented Reality - AR) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวสถาปัตยกรชิโนโปรตุกีส โดยเทคโนโลยี AR ได้รับการออกแบบให้สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และศิลปะ ผ่านการแสดงภาพสามมิติ และข้อมูลแบบอินเตอร์แอคทีฟ งานวิจัยนี้ใช้วิธีการศึกษาแบบผสมผสานระหว่างการสำรวจเชิงปริมาณและการสัมภาษณ์เชิงคุณภาพ เพื่อวัดผลกระทบของ AR ต่อการเรียนรู้ ความพึงพอใจ และความเต็มใจในการใช้งานเทคโนโลยี AR ในการท่องเที่ยว</span></p> <p><span style="font-weight: 400;">ผลการวิจัยพบว่าเทคโนโลยี AR ช่วยเพิ่มความเข้าใจและความสนใจในเนื้อหาที่นำเสนอได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้เยี่ยมชม ทั้งนี้ ข้อจำกัดที่พบได้แก่ ความต้องการในด้านเทคนิคที่สูงขึ้น และการเข้าถึงเทคโนโลยีของกลุ่มผู้ใช้งานบางกลุ่ม เช่นการโหลดแอพพิเคชันเก็บไว้ในเครื่องโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น งานวิจัยนี้สรุปได้ว่าเทคโนโลยี AR มีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการเรียนรู้และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส</span></p>
2025-06-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/276285
การออกแบบตัวอักษรจากการถอดแบบพันธุกรรม
2024-10-11T16:59:39+07:00
วีรภัทร สุธีรางกูร
weeraphat.su@spu.ac.th
<p> การวิจัยเรื่องการออกแบบตัวอักษรจากการถอดแบบพันธุกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์สิ่งบ่งชี้การถอดแบบตัวอักษรแบบดั้งเดิม และเพื่อออกแบบตัวอักษรอัตลักษณ์จากการถอดแบบตัวอักษรแบบดั้งเดิม งานวิจัยนี้เป็นการถอดแบบตัวอักษรที่มีอัตลักษณ์เฉพาะในเชิงพาณิชย์หรืออัตลักษณ์องค์กร เพื่อใช้ตัวอักษรในการเผยแพร่ ข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ท่ีมีความเป็นเอกภาพ</p> <p> การวิจัยนี้ได้กำหนดขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่างไว้จากภาพถ่ายหรือสิ่งพิมพ์ ภาพถ่ายหรือสิ่งพิมพ์ที่มีตัวอักษรแบบดั้งเดิม ขอบเขตด้านเนื้อหาจากการออกแบบสร้างสรรค์ชุดรูปแบบตัวอักษรอัตลักษณ์และตัวพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ ประเภทตัวพิมพ์ เป็นตัวพิมพ์พื้นฐาน (Regular) และกำหนดขอบเขตของการวิจัยคือ การสังเคราะห์สิ่งบ่งชี้อัตลักษณ์ของตัวอักษร โดยแบ่งเป็นภาพถ่ายและสิ่งพิมพ์ ขอบเขคด้านหลักการออกแบบกราฟิกอัตลักษณ์ แบ่งเป็นเรื่องของความรู้ ทักษะการออกแบบกราฟิกอัตลักษณ์ กระบวนการสังเคราะห์สิ่งบ่งชี้อัตลักษณ์สำหรับการออกแบบตัวอักษร ต้นแบบตัวอักษร และการประเมินต้นแบบตัวอักษรที่สะท้อนอัตลักษณ์ การออกแบบฟอนต์ ประกอบด้วยการจัดทำตัวอักษรดิจิทัล และการตรวจสอบคุณภาพตัวอักษรจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีการกำหนดรูปแบบตัวอักษรอัตลักษณ์ โดยใช้ตัวอักษรอัตลักษณ์จากตัวอักษรแบบดั้งเดิม</p> <p> สรุปการถอดแบบตัวอักษรโบราณมีหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม การศึกษาประวัติศาสตร์ การวิจัยทางโบราณคดี และการเข้าใจวิวัฒนาการของภาษาและการเขียน การถอดแบบตัวอักษรช่วยให้นักออกแบบสามารถสร้างภาพรวมของประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาต่างๆ และทำความเข้าใจบริบททางวัฒนธรรมและสังคมที่เกี่ยวข้องได้อย่างลึกซึ้ง การถอดแบบตัวอักษรจากตัวอักษรโบราณเป็นกระบวนการที่สำคัญและท้าทายที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่ สามารถนำไปต่อยอดในการออกแบบกราฟิกด้านอื่นๆ ได้</p>
2025-06-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/276784
Forecasting the future of Argentina's Cities via the Literary Method of Urban Design
2025-01-08T10:29:01+07:00
Alan Marshall
alan.mar@mahidol.ac.th
<p>This article applies the Literary Method of Urban Design to forecast the future of three Argentinian cities: Tigre, Buenos Aires, and Mendoza. Using themes from key Argentine literary works—Leopoldo Lugones' <em>Strange Forces</em>, José Mármol's <em>Amali</em>a, and Antonio di Benedetto's <em>Animal World</em>—the study explores in artistic (scenario art) form how these cities might evolve till the end of this century in response to technological, ecological, and socio-political changes. Each novel listed above is employed as a speculative lens to imagine urban futures, intertwining the literary arts with urban studies, future studies, and graphic art. The analysis reveals how literature, by presenting complex, often cautionary tales, can inform urban design and future-thinking, offering insights into the possible challenges and opportunities of urban life. The essay underscores the importance of reimagining urban landscapes by embracing both human and non-human perspectives and balancing technological ambitions with ecological mindfulness.</p>
2025-06-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/272435
ภาพเล่าเรื่องรอยพระพุทธบาทอื่นนอกจากเหนือจาก 5 รอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์ในศิลปะไทย
2024-04-07T17:19:24+07:00
Thanaphat Limhasanaikul
tnplim@gmail.com
<p>แม้ความเชื่อเรื่องรอยพระพุทธบาทในประเทศไทยจะปรากฏมาตั้งแต่สมัยทวารวดี แต่หลักฐานภาพจิตรกรรมที่เล่าเรื่องพุทธประวัตินั้นนั้นกลับพบหลักฐานเก่าสุดในสมัยอยุธยา ซึ่งภาพรอยพระพุทธบาทที่นำมาเขียนในงานจิตรกรรมฝาผนังนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ รอยพระพุทธบาทในคัมภีร์ทางพุทธศาสนา และ รอยพระพุทธบาทในภูมิศาสตร์จริง และมักจะเลือกเฉพาะรอยพระพุทธบาทที่มีความสำคัญหรือมีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่ารอยพระพุทธบาททั่วไปมาเขียน โดยหลักฐานที่พบส่วนใหญ่ที่พบนั้นมักจะเป็นรอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์ 5 แห่งตามความเชื่อที่ปรากฏหลักฐานมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย</p> <p>อย่างไรก็ตาม ในศิลปะไทยยังพบหลักฐานของรอยพระพุทธบาทอื่นนอกเหนือจากรอยพระพุทธบาททั้ง 5 อยู่บ้าง โดยปรากฏหลักฐานทั้งรอยพระพุทธบาทในคัมภีร์ คือ รอยพระพุทธบาทบนเขาสัจจพันธ์คีรีในรูปแบบที่ไม่ได้ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และ รอยพระพุทธบาทในภูมิศาสตร์จริง ได้แก่ รอยพระพุทธบาทแก้วข้าว รอยพระพุทธบาทตะนาว และรอยพระพุทธบาทบนเขาอุสิรทุกข</p> <p>คำสำคัญ : รอยพระพุทธบาท, จิตรกรรม, ศิลปะไทย</p>
2025-06-12T00:00:00+07:00
Copyright (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา