วารสารศิลปกรรมบูรพา https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ <p><span data-sheets-userformat="{&quot;2&quot;:515,&quot;3&quot;:{&quot;1&quot;:0},&quot;4&quot;:[null,2,16776960],&quot;12&quot;:0}" data-sheets-value="{&quot;1&quot;:2,&quot;2&quot;:&quot;วารสารศิลปกรรมบูรพา มีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการ ผลงานวิจัยและสร้างสรรค์ด้านทัศนศิลป์ ในทุกสาขาและด้านการออกแบบ ดนตรี รวมทั้งด้านการบริหารศิลปะและวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ศิลปะ การจัดการพิพิธภัณฑ์ และมนุษยวิทยา ในลักษณะของบทความวิชาการ บทความวิจัย ผลงานแปลเชิงวิชาการ และผลงานรูปแบบ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะ&quot;}">วารสารศิลปกรรมบูรพา มีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการ ผลงานวิจัยและสร้างสรรค์ด้านทัศนศิลป์ ในทุกสาขาและด้านการออกแบบ ดนตรี รวมทั้งด้านการบริหารศิลปะและวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ศิลปะ การจัดการพิพิธภัณฑ์ และมนุษยวิทยา ในลักษณะของบทความวิชาการ บทความวิจัย ผลงานแปลเชิงวิชาการ และผลงานรูปแบบ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมและสาธารณะ</span></p> th-TH <p>ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารศิลปกรรมบูรพา (Burapha Arts Journal) คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยบูรพา ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำเว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร</p> artsbuufa@gmail.com (ผศ.ดร. ภูวษา เรืองชีวิน) artsbuufa@gmail.com (คุณวิมลรัตน์ อึ้งสกุล) Sun, 30 Nov 2025 14:39:49 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 สภาวะความไม่ปกติในอารมณ์ความทุกข์ของข้าพเจ้า https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/284796 <p>ผลงานสร้างสรรค์จิตรกรรมนามธรรมชุด “สภาวะความไม่ปกติในอารมณ์ความทุกข์ของข้าพเจ้า” เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ภายในของข้าพเจ้า ผ่านมุมมองทางศิลปะร่วมสมัย โดยมี “อารมณ์ความทุกข์” เป็นศูนย์กลางของการตีความและแสดงออกเชิงจิตรกรรมนามธรรม ความทุกข์ในที่นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สิ่งเร้าภายนอก หากแต่เป็นปฏิกิริยาซับซ้อนที่สะท้อนถึงการรับรู้ ความรู้สึก และความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในจิตใจและร่างกายของข้าพเจ้าเอง การสร้างสรรค์งานจิตรกรรมนามธรรมในครั้งนี้ จึงเป็นการสำรวจภาวะความปั่นป่วนทางอารมณ์อย่างลึกซึ้ง โดยใช้เทคนิคการจัดองค์ประกอบศิลป์เพื่อสะท้อนสภาพอารมณ์ที่ไม่ปกติ เช่น ความสับสน ความอึดอัด ความไม่แน่นอน และความหวังลางๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใน ความรู้สึกเหล่านี้ถูกถ่ายทอดผ่านภาษาทางศิลปะโดยตรงผ่านพื้นผิว สี รูปทรง และจังหวะของการเคลื่อนไหวของสีในผืนผ้าใบ วัตถุประสงค์ของการสร้างผลงานชุดนี้ เพื่อสร้างสรรค์จิตรกรรมนามธรรมเป็นเครื่องมือในการแสดงออกทางอารมณ์ในช่วงเวลาที่จิตใจอยู่ในภาวะทุกข์ เพื่อเยียวยาและบำบัดตัวตนภายใน ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ ในส่วนของ เทคนิค ข้าพเจ้าเลือกใช้วิธีการเทสีและหยอดสี โดยผสมสีกับทินเนอร์ เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของสีอย่างเป็นอิสระบนพื้นผิวผ้าใบ พร้อมกับการผสมดินสอพองกับกาว เพื่อสร้างพื้นผิวที่หยาบ ขรุขระ หรือแตกร้าวอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งช่วยเสริมความรู้สึกไม่มั่นคงและสะท้อนถึงภาวะอารมณ์ที่แปรปรวน วัสดุเหล่านี้ทำให้เกิดพื้นผิวที่น่าสนใจ และสามารถสื่อถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ได้อย่างเหมาะสม และเป็นทั้งการสำรวจตนเองและการเปิดเผยอารมณ์อย่างตรงไปตรงมา ผลของการสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้ ได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งในด้านการใช้เทคนิคเฉพาะตน การถ่ายทอดอารมณ์ และการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างข้าพเจ้ากับผู้ชม ผ่านภาพสะท้อนของสภาวะภายในใจ ข้าพเจ้าพบว่าเทคนิคและกระบวนการที่ใช้ในงานชุดนี้ ไม่เพียงแค่สร้างผลงานออกมาเท่านั้น หากยังทำหน้าที่เป็น “เครื่องมือบำบัด” ความทุกข์ของข้าพเจ้าได้อย่างดีเยี่ยม ข้าพเจ้าได้นำเสนอผลงานเหล่านี้ในรูปแบบของ บทความสร้างสรรค์ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ด้านกระบวนการสร้างสรรค์ และขยายองค์ความรู้ทางด้านศิลปะร่วมสมัยสู่สาธารณะ ซึ่งหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจในศิลปะเพื่อการบำบัด และการสร้างสรรค์ที่มีรากฐานจากประสบการณ์ส่วนตัว</p> มานัส แก้วโยธา ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/284796 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700 การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดสรรประติมากรรมสาธารณะในเขตเมืองส่านซี สาธารณรัฐประชาชนจีน https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/277799 <p>จากการพัฒนาเศรษฐกิจเมืองในมณฑลส่านซีของจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้จำนวนประติมากรรมสาธารณะในเมืองเพิ่มขึ้นตามไปด้วย การวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรทรัพยากรด้านประติมากรรมสาธารณะ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยสร้างระบบดัชนีชี้วัดการจัดสรรทรัพยากรด้านประติมากรรมสาธารณะในเมืองส่านซี และพัฒนาสูตรคำนวณที่เหมาะสมที่สุด</p> <p>ผู้วิจัยใช้วิธีการวิจัยภาคสนาม การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และการวิเคราะห์อย่างครอบคลุม เพื่อรวบรวมและประมวลผลปัจจัยที่มีอิทธิพลทั้งทางธรรมชาติและมนุษย์ต่อการจัดการประติมากรรมสาธารณะอย่างเป็นระบบ จากนั้นสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อกำหนดเกณฑ์กำลังการผลิต และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างกำลังการผลิตกับความสามารถในการรองรับของสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความสำคัญทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติต่อการพัฒนาการจัดการประติมากรรมสาธารณะอย่างยั่งยืน</p> <p> การศึกษาได้ดำเนินการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงประจักษ์กับประติมากรรมสาธารณะในสวนสาธารณะ ถนน จัตุรัส และสถานีรถไฟใต้ดินในเมืองซีอาน รวมถึงศึกษารายงานประจำปีของรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อเพิ่มความเป็นวิทยาศาสตร์และความเป็นกลางในการพัฒนาแบบจำลองการคำนวณและกำหนดแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการออกแบบประติมากรรมสาธารณะในภูมิภาคนี้</p> Liu Ting , พิชัย สดพิบาล , นรินทรา เกโส ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/277799 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700 การสื่อสารวิกฤตมลพิษทางอากาศผ่านศิลปะสื่อใหม่: กรณีศึกษานิทรรศการ “Polluted Currents” https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/279439 <p>This research examines the use of new media and interactive art to communicate air pollution awareness in the exhibition "Polluted Currents," held at Warin Lab Contemporary from November 29, 2022, to January 25, 2023. The study explores how new media art can effectively address environmental issues, focusing on PM2.5 and PM10 pollution through three interconnected artworks</p> <p>The exhibition included "Data Flow," a generative art piece visualizing real-time air quality data; "Footstep of Impact," an interactive installation where visitors' movements generated pollution effects on a terrain map; and "Visage Reaction," which used facial detection to confront viewers with their environmental impact. Together, these works provided an immersive and educational experience.</p> <p>Non-participant observation and Interviews with gallery executives, curators, academics, artists, and collectors highlighted the effectiveness of digital technology and audience interaction in raising awareness. Experts praised the fusion of art, science, and technology for simplifying complex data, though concerns about costs and maintenance were noted. This study underscores the potential of new media art to drive social change through meaningful aesthetic engagement.</p> พงศ์พันธุ์ สุริยภัทร, ศุภชัย อารีรุ่งเรือง ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/279439 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700 การศึกษาภาพอาหารที่ปรากฏในผลงานทัศนศิลป์ร่วมสมัย สู่การสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมร่วมสมัยชุดส่วนผสมของชีวิต https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/280426 <p>บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์เรื่อง จิตรกรรมร่วมสมัยชุดส่วนผสมของชีวิต ที่ผู้วิจัยทำการค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอาหารและแหล่งที่มา รวมถึงรสชาติทั้ง 4 อันได้แก่ รสหวาน รสเปรี้ยว รสเค็ม รสขม และได้ทำการศึกษาวิเคราะห์ถึงผลงานศิลปะที่มีอาหารเป็นแกนหลักใน 3 กลุ่มอันได้แก่ ศิลปะ</p> <p>ป๊อปอาร์ต ศิลปะไฮเปอร์เรียลลิสม์ และศิลปะร่วมสมัยโดยศิลปินไทย จนเกิดการสร้างสรรค์เป็นผลงงานทดลองทั้งหมด 5 ชิ้น ที่มีความเกี่ยวโยงและสะท้อนถึงรสชาติอาหารทั้ง 4 ของอาหาร โดยได้นำเทคนิคการเขียนภาพให้มีความสมจริงอย่างขีดสุด ประกอบกับการใส่ลวดลายแห่งจินตนาการ และได้นำรูปแบบขององค์ประกอบศิลป์ การใช้โทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารนั้น ๆ และท้ายสุดได้นำเรื่องของแนวคิดการนำเสนอรูปแบบของอาหารในชีวิตประจำวัน และเรื่องของการบริโภคในพื้นถิ่นของผู้วิจัย อันได้จากการศึกษาผลงานศิลปะข้างต้นมาปรับใช้และต่อยอด และหวังว่าจะสามารถส่งต่อข้อมูลหรือความรู้ ทั้งเรื่องราวความสัมพันธ์ของภาพอาหารที่ปรากฏในผลงานทัศนศิลป์ การดึงแนวคิดและเทคนิคของแต่ละลัทธิทางศิลปะมาปรับพัฒนาใช้กับผลงานศิลปะของตนเอง หรือแม้แต่การสร้างชุดสีต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนสู่ผลงานสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี</p> วสุพล ณรงค์ศักดิ์ศิริ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/280426 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700 จิตรกรรมร่วมสมัยชุด: เมื่อฉันกำลังก้าวให้พ้น https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/280836 <p>วิทยานิพนธ์ชุด <em>“</em><em>จิตรกรรมร่วมสมัยชุด เมื่อฉันกำลังก้าวให้พ้น</em><em>”</em> มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาวะทางจิตใจของผู้วิจัยในฐานะศิลปิน โดยใช้กระบวนการทางศิลปะเป็นเครื่องมือในการสำรวจภาวะภายในจิตใจ ถ่ายทอดความรู้สึก อารมณ์ และประสบการณ์ส่วนบุคคลที่สะท้อนความเครียด ความกดดัน และความไม่สมดุลทางอารมณ์ อันมีรากฐานมาจากสภาพแวดล้อมทางสังคมร่วมสมัย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แนวคิดหลักของการสร้างสรรค์ผลงานอ้างอิงจากทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของซิกมุนด์ ฟรอยด์ โดยเฉพาะโครงสร้างของจิตใจ ได้แก่ จิตสำนึก จิตก่อนสำนึก และจิตไร้สำนึก ผนวกกับแนวคิดของคาร์ล จุง ว่าด้วยกระบวนการ “แสวงหาตัวตนที่แท้จริง” (Individuation) ซึ่งเปิดพื้นที่ให้กับการทำความเข้าใจและรับรู้บุคลิกภาพภายในอย่างลึกซึ้ง</p> <p> ผลงานจิตรกรรมในชุดนี้พัฒนาแนวทางภายใต้กรอบของศิลปะเซอร์เรียลลิสม์ (Surrealism) ต่อเนื่องไปถึงนีโอเซอร์เรียลลิสม์ (Neo-Surrealism) โดยให้ความสำคัญกับการเปิดเผยสัญญะทางจิตใต้สำนึกผ่านภาษาทัศนศิลป์ โดยผู้วิจัยใช้วิธีการวิจัยเชิงสร้างสรรค์ (Art-Based Research) ที่เน้นการสังเกตตนเอง การสะท้อนคิด และการวิเคราะห์เชิงคุณภาพในระหว่างกระบวนการสร้างสรรค์</p> <p>ผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ผลงานจิตรกรรมที่สร้างขึ้นไม่เพียงแต่เป็นการแสดงออกทางศิลปะเชิงนามธรรมเท่านั้น หากยังทำหน้าที่เป็นกลไกในการเยียวยาจิตใจ และเป็นสื่อกลางที่ช่วยสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างโลกภายในของศิลปินกับบริบทภายนอกของสังคมและวัฒนธรรมร่วมสมัยได้อย่างลึกซึ้งและมีนัยสำคัญ</p> วิภาวี ภมรพล ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/280836 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700 การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ สำหรับผู้พิการทางกายที่มีความสามารถในการดูแลตัวเองระดับ 3 (ช่วยเหลือตัวเองได้แต่ต้องให้ญาติช่วยเป็นอย่างมาก) https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/281546 <p>การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ สำหรับผู้พิการทางกายที่มีความสามารถในการดูแลตัวเองระดับ 3 (ช่วยเหลือตัวเองได้แต่ต้องให้ญาติช่วยเป็นอย่างมาก) 2) วิเคราะห์รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ สำหรับผู้พิการทางกายที่มีความสามารถในการดูแลตัวเองระดับ 3 (ช่วยเหลือตัวเองได้แต่ต้องให้ญาติช่วยเป็นอย่างมาก) 3) ออกแบบร่างต้นแบบของเฟอร์นิเจอร์ สำหรับผู้พิการทางกายที่มีความสามารถในการดูแลตัวเองระดับ 3 (ช่วยเหลือตัวเองได้แต่ต้องให้ญาติช่วยเป็นอย่างมาก) 4) สร้างต้นแบบเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ สำหรับผู้พิการทางกายที่มีความสามารถในการดูแลตัวเองระดับ 3 (ช่วยเหลือตัวเองได้แต่ต้องให้ญาติช่วยเป็นอย่างมาก) ตามต้นแบบภาพร่างที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Animation ผู้ให้ข้อมูลในการวิจัย ประกอบด้วย ผู้พิการทางกายที่มีความสามารถในการดูแลตัวเองระดับ 3 (ช่วยเหลือตัวเองได้แต่ต้องให้ญาติช่วยเป็นอย่างมาก) หรือผู้ดูแลผู้พิการ หรือนักกิจกรรมบำบัด หรือนักกายภาพบำบัด จำนวน 12 คน ได้มาจากการเลือกตามวัตถุประสงค์ และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ประเมินผลต้นแบบเฟอร์นิเจอร์ จำนวน 385 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย</p> <p> ผลการวิจัย พบว่า 1) การออกแบบเฟอร์นิเจอร์สำหรับผู้พิการประกอบด้วย เตียงนอน โต๊ะเอนกประสงค์ และโถขับถ่าย จะต้องมีขนาดและหน้าที่ใช้งานที่เหมาะสมหลากหลาย 2) ผลการประเมินต้นแบบเฟอร์นิเจอร์สำหรับผู้พิการทางกายที่มีความสามารถในการดูแลตัวเองระดับ 3 (ช่วยเหลือตัวเองได้แต่ต้องให้ญาติช่วยเป็นอย่างมาก) ตามต้นแบบภาพร่างที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Animation จากกลุ่มตัวอย่าง มีผลการประเมินภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.741) และผลการประเมินทั้ง 8 ด้าน ได้แก่ (1) การออกแบบสัดส่วนการใช้งานในพื้นที่ (2) ความเหมาะสมกับการใช้งาน (3) คุณค่าทางความงดงาม (4) ความสามารถนำไปเป็นต้นแบบประยุกต์สร้างในพื้นที่อื่น (5) เป็นผลงานที่คนปกติสามารถใช้พื้นที่ร่วมด้วยได้ (6) เป็นประโยชน์แก่ผู้พิการ (7) มีรูปแบบไม่ซ้ำกับผลงานผู้อื่น และ (8) ความชื่นชอบผลงานการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ สำหรับผู้พิการทางกายที่มีความสามารถในการดูแลตัวเองระดับ 3 (ช่วยเหลือตัวเองได้แต่ต้องให้ญาติช่วยเป็นอย่างมาก) อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.660 – 4.816</p> อุทัย หวังพัชรพล, บุญเสริม วัฒนกิจ, พูลพงศ์ สุขสว่าง, ไกรสิทธิ์ วิไลเลิศ, การุณย์ อินทวาส, นฤทธิ์ วัฒนภู ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/281546 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700 Power of Color: Applying Biophilic Principles to Visual Art https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/271852 <p>This study explores color theory and its manifestations in visual art, uniquely anchored in the dynamic interplay of biophilic principles and cultural contexts, specifically within the terrains of Xinjiang and Gansu. Emphasizing the profound role of biophilia, the research accentuates the emotive potential of color in visual art, enriched by a spectrum of stylistic diversities, avant-garde techniques, and meticulous material choices. With a theoretical foundation in biophilic design, the study examines the intricate balance between nature and culture, manipulating color and diluent proportions to evoke the quintessence of local environments and traditions. Moreover, this paper illuminates the democratization of visual art, championing its therapeutic capacities. It ardently advocates for an interdisciplinary fusion - marrying sociology, visual art, and philosophy - to both amplify and refine the future trajectories of color-centered visual art. In doing so, it positions biophilia as an indispensable lens for understanding and innovating within the broader scope of visual art and cultural interpretation.</p> Puwen Jiang ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/271852 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700 การสร้างสรรค์ศิลปกรรมเซรามิก“ปูรณฆฏะ” https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/284797 <p>การสร้างสรรค์ศิลปกรรมเซรามิก “ปูรณฆฏะ” มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยคือเพื่อศึกษาลวดลายปูรณฆฏะ ที่ใช้เป็นแนวคิดการสร้างสรรค์ และเพื่อสร้างสรรค์ศิลปกรรมเซรามิกจากแนวคิดลายปูรณฆฏะ ใช้วิธีการวิจัยเชิงพัฒนา (Developmental research) มีผลการศึกษาดังนี้ ลวดลายปูรณฆฏะที่ใช้ตกแต่งด้วยวิธีการลงรักปิดทองพื้นสีแดงและสีดำ มีองค์ประกอบของลวดลายคือ กอดอกไม้ หม้อน้ำ เถาไม้เลื้อย และนกบิน หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ กระบวนการสร้างสรรค์ ได้ทำการออกแบบเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองชิ้น คือขนาดใหญ่เป็นฐานอยู่ด้านล่าง และขนาดเล็กวางซ้อนด้านบน มีแนวคิดการออกแบบรูปทรงจากโครงสร้างสถาปัตยกรรมวัดโบราณในภาคเหนือ ลวดลายได้แนวคิดจากลายปูรณฆฏะ ที่ตกแต่งในวิหารน้ำแต้ม วัดพระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง กระบวนการสร้างสรรค์ ได้ใช้เนื้อดินพื้นบ้าน (Earthenware clay) บ้านป่าตาล อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นรูปด้วยวิธีแผ่น (Slab) ทาผิวภายนอกด้วยน้ำดินสีน้ำตาลที่ผสมด้วยเฟอร์ริกออกไซด์ ร้อยละ 5 และตกแต่งด้วยวิธีการกดประทับด้วยน้ำดินสีขาว ผ่านต้นแบบพลาสติกที่ฉลุลวดลายปูรณฆฏะ (Stencil) ที่คลี่คลายลวดลาย เพื่อให้สามารถทำได้โดยกระบวนการทางเซรามิก และเผาที่อุณหภูมิ 1200 องศาเซลเซียส รูปทรงสี่เหลี่ยมและตกแต่งด้วยลายปูรณฆฏะ มีความกลมกลืนเหมาะสมกันและสวยงาม</p> อภิญญา วิไล, ประกรณ์ วิไล, นพวรรณ เดชบุญ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/284797 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700 การศึกษาลวดลายไม้ฉลุแบบขนมปังขิงในแหล่งชุมชนริมน้ำจันทบูร สู่การสร้างลวดลายรูปแบบใหม่ https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/284798 <p>บทความนี้เป็นการศึกษารูปแบบของลวดลายไม้ฉลุแบบขนมปังขิงในแหล่งชุมชนริมน้ำจันทบูรของ จังหวัดจันทบุรีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารวบรวมและคัดลอกรูปแบบของลวดลายไม้ฉลุแบบขนมปังขิงที่ใช้ ประดับตกแต่งอาคารสถาปัตยกรรมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ เพื่อนำมาพัฒนาและออกแบบให้เกิดเป็นลวดลายในรูปแบบใหม่ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายแบบดั้งเดิม โดยใช้ข้อมูลจากผลการศึกษารวบรวมลวดลายไม้ฉลุแบบขนมปังขิง สกุลช่างจันทบุรีและการสำรวจภาคสนาม จากแหล่งชุมชนริมน้ำจันทบูร โดยพบลวดลายไม้ฉลุแบบขนมปังขิงที่ใช้ประดับตกแต่งอาคาร สถาปัตยกรรม แบบเก่าที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันเป็นจำนวน 10 ลวดลาย นำมาทำการวิเคราะห์หาจุดเด่นของลวดลาย และสร้างลวดลายใหม่โดยกำหนดใช้ 4 ทฤษฎีในการออกแบบลวดลาย คือ 1.ทฤษฎีการจัดวางแบบ Translation Symmetry 2.ทฤษฎีการจัดวางแบบ Reflection Symmetry 3.ทฤษฎีการจัดวางแบบ Glide Reflection Symmetry 4.ทฤษฎีการจัดวางแบบ Rotation Symmetry ผลการศึกษา พบว่า "ลวดลายแบบ เดี่ยว" สามารถถอดแบบได้อย่างสมบูรณ์ เหมาะสมในการพัฒนาเป็นลวดลายใหม่มากกว่า "ลวดลายแบบเครือ เถา" ซึ่งมีความต่อเนื่องและซับซ้อนเกินไป โดยเฉพาะลวดลายที่ 7.3 ซึ่งจัดวาง ตามทฤษฎี Glide Reflection Symmetry เป็นลวดลายแบบเดี่ยวที่ถอดแบบจากไม้ฉลุตกแต่งระเบียงบ้านในชุมชนริมน้ำจันทบูร และถูก นำมาประยุกต์ใช้ในการตกแต่งผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา ทำให้ลวดลายที่ได้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นการออกแบบอัตลักษณ์ใหม่ให้กับเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดจันทบุรี โดยผสมผสานลวดลายดั้งเดิมเข้ากับ ความหลากหลายและความงามร่วมสมัยได้อย่างลงตัว</p> บุญฤทธิ์ ศรีอุไร, ศุภฤกษ์ คณิตวรานันท์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/284798 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700 การพัฒนาสิ่งทอแฟชั่นจากผ้าลูกไม้เหลือทิ้งด้วยการผสมผสานเทคนิคโครเชต์ ภายใต้แนวคิดอัพไซเคิลสำหรับกลุ่มเจเนอเรชั่นซี https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/284799 <p>การพัฒนาสิ่งทอแฟชั่นจากผ้าลูกไม้เหลือทิ้งด้วยการผสมผสานเทคนิคโครเชต์ ภายใต้แนวคิดอัพไซเคิลสำหรับกลุ่มเจเนอเรชั่นซี เป็นการศึกษาวิจัยเชิงผสมผสาน (Mixed Methodology Research) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทดลองและพัฒนาเทคนิคการสร้างพื้นผิวสิ่งทอรูปแบบใหม่จากเศษผ้าลูกไม้เหลือทิ้ง ด้วยการประยุกต์ใช้เทคนิคโครเชต์ ภายใต้แนวคิดอัพไซเคิล เพื่อนำไปสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์แฟชั่นสำหรับกลุ่มเจเนอเรชั่นซี การวิจัยประกอบด้วยการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณร่วมกับกระบวนการทดลองเชิงสร้างสรรค์ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเทคนิคโครเชต์สามารถนำเศษผ้าลูกไม้ที่มีพื้นผิวและลวดลายแตกต่างกันมาผสมผสานเป็นสิ่งทอใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับแนวคิดด้านความยั่งยืนโดยการใช้วัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผลิตภัณฑ์ที่ได้สามารถสะท้อนอัตลักษณ์ของกลุ่มเป้าหมายที่ให้ความสำคัญต่อการแสดงออกทางตัวตนและจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม งานวิจัยนี้จึงสามารถเป็นแนวทางในการออกแบบผลิตภัณฑ์แฟชั่นเชิงสร้างสรรค์ที่ต่อยอดจากวัสดุเหลือใช้ให้มีมูลค่าและความเหมาะสมกับกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่</p> ดาลิตา เกตุศักดิ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/284799 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700 Mapping Brand Equity through UGC: A Topic Model Analysis of Bangkok Design Week on Xiaohongshu https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/284802 <p>User-generated content (UGC) is a powerful tool in digital marketing, particularly in</p> <p>shaping brand perception around emotionally and thematically driven public events. This study explores how Bangkok Design Week (BKKDW), a cultural event in Bangkok, Thailand, is portrayed by Chinese-speaking users on Xiaohongshu, a popular travel and lifestyle platform. A total of 1,238 posts and comments spanning a seven-year period were collected using BKKDW-related hashtags. This research employed Biterm Topic Modeling (BTM), a technique optimized for short-text corpora, to identify macro-level thematic clusters in user discourse. Sentiment analysis was conducted using SnowNLP to assess emotional tone. Findings were interpreted through Keller’s (1993) Customer-Based Brand Equity (CBBE) model, mapping identified topics and sentiments to the six brand equity dimensions: brand identity, brand imagery, brand performance, brand feelings, brand judgment, and resonance. Results show that BKKDW is positively associated with creativity, visual aesthetics, and cultural hybridity, but shows weaker associations with brand loyalty and long-term engagement among Xiaohongshu users. This study contributes to cultural branding and cross-cultural digital communication by demonstrating how computational methods can be applied to examine public sentiment and narrative construction in a non-Western social media environment. It also offers practical recommendations for event organizers aiming to increase brand equity through strategic engagement on Chinese platforms.</p> Chuan-Chi Chang, Chiu-Hui Tsai, Shian-Heng Lee ลิขสิทธิ์ (c) 2025 https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/284802 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700 การสร้างสรรค์ผลงานทางดุริยางคศิลป์: เพลงโหมโรงนฤตยบูรพา https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/275882 <p>บทความวิชาการนี้ นำเสนอกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานทางดุริยางคศิลป์: เพลงโหมโรงนฤตยบูรพา บูรพา การสร้างสรรค์ครั้งนี้ผู้ประพันธ์นำทำนองเพลงต้นแบบมาจากตระพระพิฆเนศวรและเพลงสายใยบูรพา อาศัยกรอบแนวคิดการประพันธ์เพลงไทยด้วยวิธี “ขนบภักดิ์สบสมัย” ตามแนวทางของรองศาสตราจารย์พิชิต ชัยเสรี โดยนำทำนองต้นรากจากเพลงตระพระพิฆเนศวรมาขยายทำนองเป็นอัตราจังหวะสามชั้นเป็นทำนองเพลงโหมโรงนฤตยบูรพาท่อนที่ 1 และ 2 มีความยาวท่อนละสี่หน้าทับปรบไก่ สำหรับท่อนที่ 3 นำทำนองร้องเพลงสายใยบูรพามาถอดทำนองสำหรับบรรเลง ไม่มีหน้าทับประกอบ สำหรับทำนองส่วนสุดท้าย คือ <br />“ท้ายเพลง” มีความยาวสองหน้าทับ ประกอบด้วยทำนองที่นำมาจากหัวท่อนที่สองจำนวน 3 บรรทัด และลงจบเพลงโหมโรงด้วยการ “ลงวา” ในบรรทัดสุดท้ายตามขนบการประพันธ์เพลงประเภทโหมโรง</p> สันติ อุดมศรี ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะศิลปกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://so01.tci-thaijo.org/index.php/buraphaJ/article/view/275882 Sun, 30 Nov 2025 00:00:00 +0700