วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ https://so01.tci-thaijo.org/index.php/dpuca <p><strong>นโยบายการพิมพ์ </strong></p> <p>วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์เป็นสื่อกลางในการเผยแพร่บทความวิชาการ และบทความวิจัยที่มีคุณภาพสูงในสาขาวิชานิเทศศาสตร์ (Communications) และสื่อศึกษา (Media Studies) ที่เกี่ยวข้องกับหนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ ภาพยนตร์ วิทยุ โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต สื่อดิจิทัล สื่อสังคม สื่อใหม่ ตลอดจนองค์ความรู้และข้อถกเถียงในประเด็นการสื่อสารการตลาด การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ นวัตกรรมสื่อ และการสื่อสารของมนุษย์ทุกรูปแบบ โดยมีกำหนดตีพิมพ์จำนวน 2 ฉบับต่อปี ได้แก่ ฉบับมกราคม-มิถุนายน (เผยแพร่ในเดือนมิถุนายน) และ ฉบับกรกฎาคม – ธันวาคม (เผยแพร่ในเดือนธันวาคม)</p> <p> </p> <p><strong>วัตถุประสงค์การพิมพ์</strong></p> <p>1. เพื่อเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ผลงานทางด้านวิชาการของอาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย และนักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์</p> <p>2. เพื่อเป็นสื่อกลางในการนำเสนอนวัตกรรม และความเคลื่อนไหวทางด้านวิชาชีพของผู้เกี่ยวข้องในสายงานนิเทศศาสตร์</p> <p>3. เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับบุคคลทั่วไป และผู้สนใจองค์ความรู้ด้านนิเทศศาสตร์</p> <p>4. เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพทางวิชาการของคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์</p> Faculty of Communication Arts, Dhurakij Pundit University th-TH วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ 3057-0719 <p>ลิขสิทธิ์เป็นของวารสาร....</p> ปัจจัยการสื่อสารการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์หรู Chanel ของผู้บริโภคในประเทศไทย https://so01.tci-thaijo.org/index.php/dpuca/article/view/275706 <p style="font-weight: 400;">บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ คือ (1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกันส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์หรู Chanel หรือไม่ (2) เพื่อศึกษาปัจจัยการสื่อสารการตลาดที่แตกต่างกันส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์หรู Chanel หรือไม่ (3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยการสื่อสารการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์หรู Chanel หรือไม่ ใช้การเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามออนไลน์ (Online Questionnaire) ซึ่งกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริโภคที่เคยใช้ซื้อแบรนด์ Chanel อย่างน้อย 1 ครั้ง ระหว่างช่วงปี พ.ศ. 2564 – ปี พ.ศ. 2566 จำนวน 400 คน</p> <ol> <li class="show" style="font-weight: 400;">1. ปัจจัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกันที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์หรู Chanelได้แก่ เพศ อายุ และระดับการศึกษา โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ที่มีอายุระหว่าง 12 - 25 ปี (Gen Z) และมีระดับการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี จากการตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์หรู Chanel มากที่สุด</li> <li class="show" style="font-weight: 400;">2. ปัจจัยการสื่อสารการตลาดทั้ง 4 ด้าน ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์หรูChanel ของผู้บริโภค โดยรวมอยู่ในระดับมาก (= 4.15) โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ด้านการประชาสัมพันธ์ <br>(&nbsp;= 4.21) รองลงมา คือ ด้านการขายโดยใช้พนักงาน (&nbsp;= 4.19) ด้านการโฆษณา (&nbsp;= 4.21) และด้านการส่งเสริมการขาย (&nbsp;= 4.09)</li> </ol> <p><span style="font-weight: 400;">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 3. ปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยการสื่อสารการตลาดไม่มีความสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าแบรนด์หรู Chanel แต่แบรนด์หรูควรให้ความสำคัญกับ</span><span style="font-weight: 400;">กลุ่มชุมชนลูกค้าที่ชื่นชอบ (</span><span style="font-weight: 400;">Community) <br>แบรนด์หรู Chanel มากขึ้น</span><span style="font-weight: 400;">เพื่อที่จะพัฒนาและสื่อสารให้สอดคล้องกับแต่ละปัจจัยและเข้าถึงความแตกต่างของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสม</span></p> ญาณวดี มณีโชติ กัญญรัตน์ หงส์วรนันท์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ISSN 3057-0719 (Online) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-05-24 2025-05-24 19 1 8 22 กลวิธีการเล่าเรื่อง การสร้างสรรค์เนื้อหา และการผลิตเนื้อหา ของอินฟลูเอนเซอร์ท่องเที่ยวแบบอิสระในแพลตฟอร์ม Youtube https://so01.tci-thaijo.org/index.php/dpuca/article/view/276933 <p>บทความวิจัยเรื่อง “การสร้างสรรค์เนื้อหาของผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดด้านท่องเที่ยวด้วยตนเองอย่างอิสระบน YouTube” ได้ศึกษากระบวนการสร้างสรรค์ การผลิตเนื้อหา กลวิธีการเล่าเรื่อง และอิทธิพลของผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดของผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดด้านท่องเที่ยวด้วยตนเองอย่างอิสระ ในการสื่อสารบนแพลตฟอร์ม YouTube โดยการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกรายบุคคล (In-depth interview) ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลจาก ผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดด้านการท่องเที่ยว</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า การสร้างสรรค์เนื้อหาของผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดด้านท่องเที่ยวด้วยตนเองอย่างอิสระบน YouTube พบว่า กลวิธีการเล่าเรื่อง มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดและสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชม โดยการเล่าเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่มีความต่อเนื่อง (Hub) มากที่สุด ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการสร้างและตอกย้ำภาพลักษณ์และตัวตนของผู้สร้างสรรค์เนื้อหามากที่สุด การสร้างสรรค์เนื้อหา พบว่า การทำเนื้อหาให้สนุกผ่านลักษณะที่แตกต่างกัน การผจญภัยในสถานที่แปลกใหม่ มีการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานที่ เส้นทางการเดินทาง วัฒนธรรม สังคม วิถีชีวิตและอาหารการกิน นอกจากนี้ยังมีการบอกเล่าประสบการณ์ส่วนตัวด้วย ส่วนการผลิตเนื้อหาพบว่า มีการลงทุนใช้อุปกรณ์ในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและมีราคาสูง รวมทั้งมีการผลิตเนื้อการท่องเที่ยวที่แตกต่างไปจากเดิม นอกจากนี้จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้รับสาร พบว่า ผู้รับสารเปิดรับสารตามความต้องการของแต่ละบุคคลมากที่สุด รองลงมาคือ เปิดรับช่องอินฟลูเอนเซอร์และเนื้อหาที่ตนเองจะนำไปใช้ประโยชน์ เปิดรับช่องที่มีลีลาในการนำเสนอน่าสนใจ และสุดท้าย เลือกเปิดรับตามทัศนคติและค่านิยมของแต่ละบุคคล</p> ธนริศย์ สุริยพรพินิจ คันธิรา ฉายาวงศ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ISSN 3057-0719 (Online) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-05-24 2025-05-24 19 1 23 41 รูปแบบการสร้างเนื้อหาและอิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์ ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์กีฬากอล์ฟ https://so01.tci-thaijo.org/index.php/dpuca/article/view/275416 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกันส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์กีฬากอล์ฟหรือไม่ 2) เพื่อศึกษารูปแบบการสร้างเนื้อหาที่แตกต่างกันส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์กอล์ฟหรือไม่ 3) เพื่อศึกษาอิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์ที่แตกต่างกันส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์กีฬากอล์ฟหรือไม่ 4) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคล รูปแบบการสร้างเนื้อหา และอิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์ที่แตกต่างกันส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์กีฬากอล์ฟ โดยใช้วิจัยเชิงปริมาณและเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือ ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครที่มีประสบการณ์ซื้ออุปกรณ์กอล์ฟระยะเวลา 1 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2566 – 2567 จำนวน 400 คน</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า 1) ปัจจัยส่วนบุคคลด้านเพศ อายุ อาชีพ รายได้ และระยะเวลาการเล่นกีฬากอล์ฟ ที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์กีฬากอล์ฟ โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุระหว่าง 40 – 49 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี อาชีพพนักงานบริษัท มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001 – 50,000 บาท และเล่นกีฬากอล์ฟในช่วง 1 – 5 ปี 2) รูปแบบการสร้างเนื้อหาที่แตกต่างกันส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์กีฬากอล์ฟแตกต่างกัน โดยด้านการนำเสนอข้อมูลที่ชัดเจนต่อคุณสมบัติของสินค้า เช่น วัสดุที่ใช้ เทคโนโลยีในการผลิต และประโยชน์ที่ผู้ใช้อยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.33) 3) อิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์ด้านผู้เชี่ยวชาญส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์กีฬากอล์ฟระดับมากที่สุด (x ̅ = 3.68) ด้านความเชื่อมั่นต่อความรอบรู้และประสบการณ์ที่มีความรู้เฉพาะทางต่ออุปกรณ์กีฬากอล์ฟ ในขณะที่อิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์ด้านผู้มีชื่อเสียงส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อระดับมาก (x ̅ = 3.67) ด้านการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ให้การยอมรับและส่งผลต่อภาพลักษณ์และความไว้วางใจของแบรนด์ 4) ความสัมพันธ์ปัจจัยส่วนบุคคล รูปแบบการสร้างเนื้อหา และอิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์ พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลด้าน เพศ อายุ อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน มีความสัมพันธ์กับรูปแบบการสร้างเนื้อหาและอิทธิพลของอินฟลูเอนเซอร์ต่อการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์กีฬากอล์ฟที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05</p> นิชฌาน เติมวิทย์ขจร ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ISSN 3057-0719 (Online) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-05-24 2025-05-24 19 1 42 54 การสื่อสารการตลาดแบบเล่าเรื่องที่ส่งผลต่อความยั่งยืนของธุรกิจเพื่อสังคม https://so01.tci-thaijo.org/index.php/dpuca/article/view/275427 <p>การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษากลยุทธ์การเล่าเรื่องเพื่อการสื่อสารการตลาดธุรกิจเพื่อสังคม 2) ศึกษาการสื่อสารการตลาดแบบเล่าเรื่องที่ส่งผลต่อความยั่งยืนของธุรกิจเพื่อสังคม และ 3) ศึกษาแนวทางการเล่าเรื่องเพื่อการสื่อสารการตลาดธุรกิจเพื่อสังคมสู่ความยั่งยืน เป็นการวิจัยแบบผสมผสานทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้แบบสอบถามเก็บรวบรวมข้อมูล จากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้บริโภค จำนวน 400 คน ใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 12 คน</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า</p> <p>1) การเล่าเรื่องเพื่อการสื่อสารการตลาดธุรกิจเพื่อสังคม ทั้งโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า การเล่าเรื่องผ่านคุณประโยชน์ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ การเล่าเรื่องผ่านคุณสมบัติ และการเล่าเรื่องผ่านจุดเด่น ตามลำดับ</p> <p>2) การสื่อสารการตลาดการเล่าเรื่องผ่านคุณสมบัติ การเล่าเรื่องผ่านบริบทของตราสินค้า และการเล่าเรื่องผ่านความหมายเชิงสัญลักษณ์ ส่งผลต่อความยั่งยืนของธุรกิจเพื่อสังคมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01</p> <p>3) แนวทางการสื่อสารการตลาดแบบเล่าเรื่องที่ส่งผลต่อความยั่งยืนของธุรกิจเพื่อสังคม คือ 1.เล่าเรื่องจากความจริงและไม่ส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น 2. การเล่าเรื่องต้องยกระดับภาพลักษณ์และชื่อเสียงขององค์กร 3.การเล่าเรื่องต้องจัดทำแผนขับเคลื่อนกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง 4. การเล่าเรื่องต้องกำหนดจุดมุ่งหมาย และวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน 5. การเล่าเรื่องต้องสร้างบรรยากาศที่จริงใจและอบอุ่น</p> บุญญิสา แก้วประภาค อัญชลี พิเชษฐพันธ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ISSN 3057-0719 (Online) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-05-24 2025-05-24 19 1 55 74 ปัจจัยการสื่อสารทางการตลาดแบบบูรณาการและส่วนประสมทางการตลาดที่มีอิทธิพล ต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลของผู้ใช้ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี https://so01.tci-thaijo.org/index.php/dpuca/article/view/276621 <p class="s12"><span class="s11">ค้นค</span><span class="s11">ว้า</span><span class="s11">ครั้งนี้มี</span><span class="s11">เป้าหมาย</span><span class="s11">เพื่อ</span> <span class="s11">1</span><span class="s11">)</span> <span class="s11">ศึกษาการสื่อสารทางการตลาดแบบบูรณาการต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลของผู้ใช้ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี</span> <span class="s11">2</span><span class="s11">)</span> <span class="s11">ศึกษาส่วนประสมทางการต</span><span class="s11">ลาดต่อการตัดสินใจ</span><span class="s11">ซื้อรถ</span><span class="s11">ยน</span><span class="s11">ต์ส่วนบุคคลของผู้ใช้ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี</span> <span class="s11">3</span><span class="s11">)</span> <span class="s11">ศึกษาการสื่อสารทางการตลาดแบบบูรณาการและส่วนประสมทางการทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลของผู้ใช้ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี</span> <span class="s11">เป็น</span><span class="s11">การ</span><span class="s11">วิจัยเชิงปริมาณ </span><span class="s11">ใช้</span><span class="s11">ขนาดของกลุ่มต</span><span class="s11">ัวอย่าง</span><span class="s11">ผ่าน</span><span class="s11">การใช้สูตรคำน</span><span class="s11">วณของท</span><span class="s11">าโร่ ยา</span><span class="s11">มาเน่</span><span class="s11"> (</span><span class="s11">Taro Yamane</span><span class="s11">)</span> <span class="s11">ประชากรกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ใช้</span><span class="s11">ซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลของผู้ใช้ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี </span><span class="s11">จำนวน 400 คน </span><span class="s11">เก็บ</span><span class="s11">ข้อมูล</span><span class="s11">โดย</span><span class="s11">ทำ</span><span class="s11">แบบสอบถาม</span><span class="s11">เลือกตอบ </span><span class="s11">วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้</span><span class="s11">สถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบ</span><span class="s11">นมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพ</span><span class="s11">หุคูณ</span></p> <p class="s12"><span class="s11">ผลการ</span><span class="s11">ค้นคว้า</span><span class="s11">พบว่า</span> <span class="s11">ผู้ตอบ</span><span class="s11">เป็นเพศชาย ร้อยละ 5</span><span class="s11">8</span> <span class="s11">ยี่ห้อรถ</span><span class="s11">ส่วนใหญ่ซื้อมากที่สุดคือ </span><span class="s11">HONDA</span> <span class="s11">ผลการ</span><span class="s11">ค้นคว้า</span><span class="s11">ตามวัตถุประสงค์พบว่า </span><span class="s11">1) </span><span class="s11">การสื่อสารทางการตลาดแบบบูรณาการต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลของผู้ใช้ในจัง</span><span class="s11">หวัดสุราษฎร์ธานีระดับมากที่สุด (<img src="https://latex.codecogs.com/svg.image?\bar{x}" alt="equation" /> </span><span class="s11">= 4.52 </span><span class="s11">)</span> <span class="s11">ซึ่</span><span class="s11">ง</span><span class="s11">เรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ด้านประชาสัมพันธ์ ด้านการส่งเสริมการขาย ด้านการโฆษณา</span><span class="s11"> ด้านการขายโดยใช้พนักงาน ด้านการตลาดทางตรง</span><span class="s11"> 2</span><span class="s11">)</span><span class="s11"> กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ให้ความสำคัญต่อ</span><span class="s11">ส่วนประสมทางการตลาด </span><span class="s11">ในระดับมากที่สุ</span><span class="s11">ด (<img src="https://latex.codecogs.com/svg.image?\bar{x}" alt="equation" /> </span><span class="s11">= 4.50 </span><span class="s11">)</span> <span class="s11">เรียง</span><span class="s11">จากม</span><span class="s11">าก</span><span class="s11">ไปน้อย </span><span class="s11">ด้านกระบวนการ ด้านลักษ</span><span class="s11">ณะทางกายภาพ </span><span class="s11">3)</span><span class="s11"> กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ใช้</span><span class="s11">กระบวนการตัดสินใจซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลของผู้ใช้ในจังหวัดสุ</span><span class="s11">ราษฎร์ธานีใน</span><span class="s11">ระดับมากที่สุด</span><span class="s11">ทุกด้าน</span><span class="s19">สถิติที่ระดับ </span><span class="s19">.05</span> <span class="s19">และการตลาดแบบบูรณาการและส่วนประสมทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจรถยนต์ส่วนบุคคลของผู้ใช้ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เท่ากับ </span><span class="s19">81.2%</span> <span class="s19">(</span><span class="s19">Adj-R2 .812</span><span class="s19">)</span> <span class="s19">แทนค่าสมการ</span><span class="s19">ได้ดังนี้ </span><span class="s19">Y= 3</span><span class="s19">.</span><span class="s19">494+ .027 (x1) </span><span class="s19">+ 0.066(x2) + -0.019 (x3) + </span><span class="s19">-.</span><span class="s19">019 (x4) + </span><span class="s19">.</span><span class="s19">032 (x5) + </span><span class="s19">-.</span><span class="s19">088 (x6) </span><span class="s19">+ </span><span class="s19">.</span><span class="s19">015 (x7) + </span><span class="s19">-.</span><span class="s19">008 (x8) + </span><span class="s19">-.</span><span class="s19">003(x9) +</span><span class="s19">.</span><span class="s19">048(x10) +</span><span class="s19">.</span><span class="s19">051(x11) +</span><span class="s19">.</span><span class="s19">125(x12)</span></p> จินดารัตน์ เรืองฤทธิ์ อัจฉราวรรณ รัตนพันธ์ ธนายุ ภู่วิทยา ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ISSN 3057-0719 (Online) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-06-30 2025-06-30 19 1 75 92 รูปแบบการสื่อสารสุขภาพของกรมควบคุมโรค ผ่านการเล่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 บนสื่อมัลติมีเดีย https://so01.tci-thaijo.org/index.php/dpuca/article/view/278477 <p>งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา รูปแบบการสื่อสารสุขภาพของกรมควบคุมโรค ผ่านการเล่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 บนสื่อมัลติมีเดีย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ลักษณะกาเล่าเรื่อง องค์ประกอบ และรูปแบบของสื่อมัลติมีเดีย รูปแบบแอนิเมชัน และรูปแบบข่าวสั้นในกรณีโควิด-19 ที่ทำการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ทางการของกรมควบคุมโรค (www.moph.go.th) ทั้งหมด 35 วิดีโอระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ในประเทศไทย ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ควรค่าแก่การศึกษา เป็นการศึกษาควบคู่กับการสัมภาษณ์เชิงลึก โดยผู้วิจัยได้เลือกผู้ให้ข้อมูลแบบเจาะจง แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข 2) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสื่อมัลติมีเดีย 3) ผู้เขียนบท เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน และใช้ในการวิเคราะห์ผลการวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพ</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า ลักษณะการเล่าเรื่องผ่านสื่อมัลติมีเดียที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ของกรมควบคุมโรคได้กำหนดลักษณะในการเล่าเรื่องออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) ลักษณะการเล่าเรื่องแบบให้ความรู้ 2) ลักษณะการเล่าเรื่องแบบแนะนำแนวทางปฏิบัติ 3) ลักษณะการเล่าเรื่องแบบแจ้งเพื่อทราบ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้งาน ในส่วนองค์ประกอบสื่อมัลติมีเดียที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ของกรมควบคุมโรค ทั้งหมด 35 วิดีโอ กรมควบคุมโรคมีการประยุกต์นำเอาสื่อประเภทต่างๆ ได้แก่ เสียง ตัวอักษร ภาพนิ่ง/ภาพเคลื่อนไหว วิดีทัศน์ นำมาประกอบสร้างขึ้นใหม่ ให้เกิดความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ผ่านรูปแบบของสื่อมัลติมีเดียรูปแบบแอนิเมชัน และสื่อมัลติมีเดียรูปแบบข่าวสั้น ตามความเหมาะสมของแต่ละเหตุการณ์ ณ ขณะนั้น</p> อภิภู ออมสิน กิตติมา ชาญวิชัย ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิตย์ ISSN 3057-0719 (Online) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-06-30 2025-06-30 19 1 93 114