https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/issue/feed
วารสารการอ่าน
2025-10-20T18:36:39+07:00
รองศาสตราจารย์ ดร.ภาวิณี แสนชมน์
phawinee.sa@snru.ac.th
Open Journal Systems
<p>วารสารฯ ดำเนินการโดย <strong>Thailand Literacy Association</strong> หรือ ชื่อเดิม <strong>สมาคมการอ่านแห่งประเทศไทย (</strong><span class="aCOpRe"><strong>Thailand Reading Association: TRA)</strong></span> สมาคมการอ่านแห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานทางวิชาการด้านการอ่านในรูปแบบบทความวิจัย บทความวิทยานิพนธ์ บทความวิจารณ์หนังสือ และบทความทั่วไป</p>
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/282250
บทบรรณาธิการ
2025-07-08T15:52:23+07:00
ภาวิณี แสนชนม์
Phawinee.sa@snru.ac.th
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/279044
การสร้างเกมแอปพลิเคชันเพื่อการพัฒนาความคิดเชิงระบบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
2025-10-08T10:07:15+07:00
ธัญภรณ์ ชัยชนะ
sutiwat.sup@kmutt.ac.th
ธัญวรัตน์ เพชรแสงโรจน์
sutiwat.sup@kmutt.ac.th
สุธิวัชร ศุภลักษณ์
sutiwat.sup@kmutt.ac.th
ดารุวรรณ ศรีแก้ว
daruwat.sri@kmutt.ac.th
<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างเกมแอปพลิเคชันเพื่อการพัฒนาความคิดเชิงระบบสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) ประเมินคุณภาพของเกมแอปพลิเคชันฯ 3) ศึกษาความสามารถในการคิดเชิงระบบหลังจากเล่นเกมแอปพลิเคชันสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจต่อเกมแอปพลิเคชันฯ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) เกมแอปพลิเคชันเพื่อการพัฒนาความคิดเชิงระบบสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) แบบประเมินคุณภาพด้านเนื้อหาและด้านสื่อของเกมแอปพลิเคชัน 3) แบบวัดความสามารถในการคิดเชิงระบบสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจต่อแอปพลิเคชัน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนาหลวง กรุงเทพมหานคร ที่ได้จากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยวิธีจับสลากห้องเรียน จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 36 คน ผลการศึกษา พบว่า 1) ผลการประเมินคุณภาพของเกมแอปพลิเคชัน พบว่าคุณภาพด้านสื่ออยู่ในระดับดีมาก ( <img src="https://latex.codecogs.com/svg.image?\bar{x}" alt="equation" /> = 4.59, S.D. = 0.44) คุณภาพด้านเนื้อหาอยู่ในระดับดี ( <img src="https://latex.codecogs.com/svg.image?\bar{x}" alt="equation" /> = 4.33, S.D. = 0.56) 2) ความสามารถด้านการคิดเชิงระบบของกลุ่มตัวอย่าง พบว่ามีค่าเฉลี่ยผลการเรียนรู้สูงกว่าระดับเกณฑ์ ร้อยละ 70 3) ผลการประเมินความพึงพอใจต่อเกมแอปพลิเคชันของกลุ่มตัวอย่างพบว่า มีความพึงพอใจอยู่นะดับมากที่สุด (<img src="https://latex.codecogs.com/svg.image?\bar{x}" alt="equation" /> = 4.51, S.D. = 0.75) ดังนั้นการสร้างเกมแอปพลิเคชันเพื่อการพัฒนาความคิดเชิงระบบสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้นสามารถนำไปใช้ได้จริง</p>
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/279392
แนวทางการสงวนรักษาทรัพยากรสารสนเทศประเภทแผ่นเสียงของพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุ กรมประชาสัมพันธ์
2025-10-08T10:12:38+07:00
วนิสา พัดศรี
wani.mymindmild@gmail.com
น้ำทิพย์ วิภาวิน
namtip.wip@stou.ac.th
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการสงวนรักษาทรัพยากรสารสนเทศ ประเภทแผ่นเสียง ของพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุ กรมประชาสัมพันธ์ และพัฒนาแนวทางการสงวนรักษาทรัพยากรสารสนเทศประเภทแผ่นเสียง ของพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุ กรมประชาสัมพันธ์ วิธีการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักในการวิจัย จำนวน 24 คน ประกอบด้วย บุคลากร 11 คน และผู้ใช้บริการ 13 คน โดยวิธีการเลือกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักแบบเจาะจง ได้แก่ 1) บุคลากรของพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุ กรมประชาสัมพันธ์ จำนวน 5 คน 2) บุคลากรของหอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และห้องสมุดดนตรีทูลกระหม่อมสิรินธร สำนักหอสมุดแห่งชาติ จำนวน 3 คน 3) บุคลากรของห้องสมุดดนตรีสมเด็จพระเทพรัตน์ หอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 3 คน และ 4) ผู้ใช้บริการห้องสมุด จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบบันทึกข้อมูล และแบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพการสงวนรักษาทรัพยากรสารสนเทศ ประเภทแผ่นเสียง ของพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุ กรมประชาสัมพันธ์ แบ่งออกเป็น (1) ด้านการบริหารงาน ปรับเปลี่ยนไปตามโครงสร้างใหม่ของกรมประชาสัมพันธ์ (2) ด้านกระบวนการดำเนินงาน ประกอบด้วย การทำความสะอาดและการดูแล ซึ่งแผ่นเสียงไวนิลดูแลรักษาง่ายกว่าแผ่นเสียงครั่ง การสงวนรักษา เลือกอนุรักษ์แผ่นเสียงครั่งให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลก่อน การจัดทำเครื่องมือช่วยค้น และการให้บริการ มีการให้บริการ ณ ที่ตั้ง และผ่านทางช่องทางออนไลน์ และ 2) การพัฒนาแนวทางการสงวนรักษาทรัพยากรสารสนเทศ ประเภทแผ่นเสียง ประกอบด้วย (1) แนวทางการจัดสรรบุคลากร ด้านแผนการดำเนินงาน งบประมาณ และบุคลากร (2) กระบวนการสงวนรักษา ด้านการจัดหา การจัดเก็บ และการบริการ มีการสำรวจถึงความสมบูรณ์ของทรัพยากร จำแนกประเภทของเนื้อหาทรัพยากร (3) การแปลงข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล ควรสงวนรักษาทั้งกายภาพและเนื้อหา โดยคำนึงถึงประเด็นด้านลิขสิทธิ์ และ (4) การสร้างเครือข่ายและความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้</p>
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/279428
การออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยใช้เทคโนโลยีเออาร์แอปพลิเคชัน เพื่อการสื่อสารทางการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
2025-10-08T10:17:36+07:00
เสาวลักษณ์ บุญรอด
saowaluck.b@rmutsv.ac.th
พนิดา รัตนสุภา
Panida.R@rmutsv.ac.th
เย็นจิต นาคพุ่ม
Yenjit.N@rmutsv.ac.th
<p>การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ชุมชนและองค์ประกอบของกราฟิกบนบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางสำหรับนักออกแบบ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าโดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเออาร์แอปพลิเคชัน ในการออกแบบกราฟิกสำหรับบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัย และมีศักยภาพในการแข่งขันทางการตลาด จากการสร้างความพึงพอใจ ในการให้ข้อมูลการสื่อสารทางการตลาดระหว่างผู้บริโภคและผลิตภัณฑ์สินค้าของผู้ประกอบการในอำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยงานวิจัยนี้ได้ศึกษาเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของชุมชน เพื่อสร้างภาพลักษณ์จากการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่เน้นด้านการสื่อสารทางการตลาด โดยเน้นกลยุทธ์จากการปรับรูปแบบสินค้าด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีเออาร์แอปพลิเคชัน ในการสร้างการรับรู้ เข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับข้อมูลที่สำคัญของสินค้าและผู้ประกอบการ และสร้างมาร์คเกอร์ในการเข้าถึงการใช้งานให้ง่ายและชัดเจน ตอบโจทย์การใช้งาน โดยใช้ประชากรกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคจำนวน 500 คน จากสินค้าของชุมชนในอำเภอฉวาง 5 ผลิตภัณฑ์ พบว่าระดับความพึงพอใจที่มีต่ออัตลักษณ์โครงสร้างและกราฟิกบรรจุภัณฑ์อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยรวม 4.54 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.96 และความพึงพอใจที่มีต่อเทคโนโลยีเออาร์แอปพลิเคชัน อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยรวม 4.66 ส่วนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.80</p>
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/280154
การศึกษาพฤติกรรมการเลือกรับชมซีรีส์จีนในจังหวัดนครปฐมผ่านทางแอปพลิเคชัน iQIYI
2025-10-08T10:22:12+07:00
พิมพ์จุฑา รัตนกุลเสรีเริงฤทธิ์
pimjuthars@gmail.com
จุฑาทิพย์ จันทร์ลุน
chanlun_j@su.ac.th
<p>การศึกษาพฤติกรรมการเลือกรับชมซีรีส์จีนในจังหวัดนครปฐมผ่านทางแอปพลิเคชัน iQIYI มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการเลือกรับชมซีรีส์จีนในจังหวัดนครปฐมผ่านทางแอปพลิเคชัน iQIYI และวิธีการประชาสัมพันธ์ที่มีผลต่อพฤติกรรมการเลือกรับชมซีรีส์จีนผ่านทางแอปพลิเคชัน iQIYI โดยเก็บข้อมูลจากบุคคลทั่วไปในจังหวัดนครปฐม จำนวน 200 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ (Accidental Sampling) เครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน iQIYI ส่วนที่ 3 ข้อมูลเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ได้แก่ ค่าร้อยละ โดยนำข้อมูลจากแบบสอบถามที่ได้มาสรุปผลออกมาในรูปแบบตาราง ผลการวิจัยพบว่า ความหลากหลายของแนวซีรีส์จีนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สามารถเข้าถึงผู้ชมได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เลือกสมัครสมาชิก VIP ส่วนใหญ่คือ รับชมเพื่อความบันเทิง ประเภทที่รับชมมากที่สุดคือ เพศหญิง (ร้อยละ 85) อายุ 18-22 ปี (ร้อยละ 74) อาชีพนักศึกษา (ร้อยละ 80) รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ต่ำกว่า 5,000 บาท (ร้อยละ 33) ส่วนใหญ่พบเห็นสื่อโฆษณาในแพลตฟอร์ม TikTok (ร้อยละ 62) และสมัครสมาชิกประเภท VIP มากที่สุดคือ ประเภท VIP มาตรฐานต่ออายุรายเดือน ราคา 49 บาท (ร้อยละ 66)</p>
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/280479
การสังเคราะห์วิทยานิพนธ์ของหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
2025-10-08T10:27:27+07:00
ศิวาภรณ์ เก่งสุวรรณ์
ppaula.porn@gmail.com
สำราญ กำจัดภัย
ppaula.porn@gmail.com
วิจิตรา วงศ์อนุสิทธิ์
ppaula.porn@gmail.com
<p>หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เปิดรับนักศึกษารุ่นแรกในปี พ.ศ. 2553 ทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ หลักสูตรได้มีการปรับปรุง 3 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2557 พ.ศ. 2562 และ พ.ศ. 2567 วิทยานิพนธ์เรื่องแรกตีพิมพ์เผยแพร่ในปี พ.ศ. 2556 ในช่วงปี พ.ศ. 2556 ถึง 2567 มีวิทยานิพนธ์ได้รับการตีพิมพ์ทั้งหมด 72 เรื่อง ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์วิทยานิพนธ์เหล่านี้ โดยสารสนเทศ ที่ได้จะเป็นประโยชน์ในการพิจารณาปรับปรุงหลักสูตร การพัฒนาหัวข้อวิทยานิพนธ์ของนักศึกษา และการพัฒนากระบวนการทำวิทยานิพนธ์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบบันทึกข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ร้อยละ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยมีดังนี้</p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">1. วิทยานิพนธ์ 72 เรื่อง มีการตีพิมพ์และเผยแพร่มากที่สุดในปี พ.ศ. 2558 (จำนวน 19 เรื่อง ร้อยละ 26.40) รองลงมาคือ พ.ศ. 2559 (จำนวน 17 เรื่อง ร้อยละ 23.60) เป็นวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาภาคพิเศษ (45 เรื่อง ร้อยละ 62.50) และของนักศึกษาภาคปกติ (27 เรื่อง ร้อยละ 37.50) โดยจำแนกตามหลักสูตรปี พ.ศ. 2552 (จำนวน 54 เรื่อง ร้อยละ 75.00) หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2557 (จำนวน 12 เรื่อง ร้อยละ 16.70) และหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562 (จำนวน 6 เรื่อง ร้อยละ 8.30) ส่วนหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2567 ยังไม่มีผู้สำเร็จการศึกษา เมื่อจำแนกกลุ่มตามเป้าหมายหลักของการวิจัย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มมุ่งพัฒนาหลักสูตร (จำนวน 36 เรื่อง ร้อยละ 50.00) และกลุ่มมุ่งพัฒนารูปแบบหรือรูปแบบการเรียนการสอน (จำนวน 34 เรื่อง ร้อยละ 47.20) กลุ่มอื่น ๆ (จำนวน 2 เรื่อง ร้อยละ 2.80) เรื่องแรกมุ่งศึกษาเชิงลึกทางด้านภาษาถิ่น สู่แนวทางการพัฒนาหลักสูตร อีกเรื่องมุ่งศึกษาโมเดลเชิงโครงสร้างพหุระดับ</span></p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">2. วิทยานิพนธ์ 68 เรื่อง จากทั้งหมด 72 เรื่อง (ร้อยละ 94.40) ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบการวิจัยและพัฒนา (R and D) ที่เหลือแบ่งเป็น การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (2 เรื่อง ร้อยละ 2.80) การวิจัยเชิงนโยบายและการวิจัยเชิงคุณภาพ (ประเภทละ 1 เรื่อง ร้อยละ 1.40) แบบแผนการวิจัยที่มีความถี่สูงสุด คือ One Group Pretest Posttest Design (จำนวน 50 เรื่อง ร้อยละ 69.40) รองลงมาตามลำดับ ได้แก่ Pretest-Posttest Control Group Design (จำนวน 9 เรื่อง ร้อยละ 12.50) Randomized Control Group Pretest-Posttest Design (จำนวน 8 เรื่อง ร้อยละ 11.10) Non Experimental Research (3 เรื่อง ร้อยละ 4.20) ที่เหลืออีก 2 เรื่อง (ประเภทละ 1 เรื่อง ร้อยละ 1.40) เป็น Randomized Pretest-Posttest และ Control Group Time-Series Design</span></p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">3. วิทยานิพนธ์ 72 เรื่อง มีการนำแนวคิดหรือทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ทั้งหมด 55 แนวคิดหรือทฤษฎี โดยเรียงตามความถี่ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) การเรียนรู้แบบผสมผสาน (10 เรื่อง ร้อยละ 13.90) 2) การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (9 เรื่อง ร้อยละ 12.50) 3) การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน (7 เรื่อง ร้อยละ 9.70) 4) เมตาคอกนิชัน (6 เรื่อง ร้อยละ 8.30) การเรียนรู้โดยใช้บริบทเป็นฐาน (6 เรื่อง ร้อยละ 8.30) และ 5) การเรียนรู้แบบร่วมมือ (5 เรื่อง ร้อยละ 6.90)</span></p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">4. วิทยานิพนธ์เฉพาะกลุ่มมุ่งพัฒนาหลักสูตร (36 เรื่อง) หลักสูตรที่พัฒนามีความถี่สูงสุดเป็นหลักสูตรเสริม (ร้อยละ 41.70) รองลงมาตามลำดับ เป็นหลักสูตรฝึกอบรม (ร้อยละ 38.90) หลักสูตรรายวิชา (ร้อยละ 16.70) และหลักสูตรบูรณาการ (ร้อยละ 2.80) โดยองค์ประกอบของหลักสูตรที่ระบุไว้ตรงกัน (มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 80) มี 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ชื่อหลักสูตร 2) หลักการและเหตุผล 3) จุดมุ่งหมาย 4) โครงสร้างของหลักสูตร 5) กระบวนการการจัดกิจกรรม และ 6) การวัดและประเมินผล ส่วนองค์ประกอบอื่นที่ปรากฏ เช่น สื่อและแหล่งเรียนรู้ แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน ส่วนองค์ประกอบของรูปแบบหรือรูปแบบการเรียนการสอนที่ระบุไว้ตรงกัน (มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 80) มี 8 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ชื่อรูปแบบ 2) ที่มาและความสำคัญ 3) แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 4) หลักการ 5) จุดมุ่งหมาย 6) โครงสร้างเนื้อหา 7) กระบวนการจัดการเรียนรู้ และ 8) การวัดและประเมินผล ส่วนองค์ประกอบอื่นที่ปรากฏ เช่น สื่อและแหล่งเรียนรู้ การนำรูปแบบไปใช้</span></p>
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/280714
การจัดการเรียนรู้เชิงรุกในการพัฒนาทักษะภาษาจีนของนักเรียนห้องเรียนภาษาจีน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอุเทนพัฒนา จังหวัดนครพนม
2025-10-08T10:30:57+07:00
ณัฐชยา อนุ
natchaya.an.58@ubu.ac.th
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในรายวิชาภาษาจีนของนักเรียนห้องเรียนภาษาจีน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน อุเทนพัฒนา จังหวัดนครพนม 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนหลังได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้องเรียนภาษาจีน โรงเรียนอุเทนพัฒนา จังหวัดนครพนม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ที่ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าที่ (t-test แบบ Dependent) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาจีนของนักเรียนหลังจากได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก สูงกว่าก่อนได้รับการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.14 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ที่ 0.70</p>
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/281312
แนวทางการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและความเป็นพลเมืองดิจิทัล : สาระจากการสัมมนาวิชาการ Thailand Literacy 2025
2025-05-24T23:51:23+07:00
สุภาณี เลิศจิระประเสริฐ
supanee@ndmi.or.th
กนกวรรณ บัวงาม
kbuagam@tu.ac.th
ดาวรัตน์ แท่นรัตน์
dowrat.v@rsu.ac.th
ปรีดี ปลื้มสำราญกิจ
preedee.p@rumail.ru.ac.th
<p><strong> </strong>สาระจากการสัมมนาวิชาการ Thailand Literacy Seminar 2025 ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตและความเป็นพลเมืองดิจิทัล การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นกลไกหนึ่งของการดำรงชีวิตความเป็นมนุษย์ในทุกกลุ่มวัย อยู่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดจนลับจากไป ทักษะที่สำคัญในโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คือ ทักษะการอ่าน ทั้งการอ่านจากตัวเล่มและอ่านทางออนไลน์ โดยเฉพาะการอ่านออนไลน์ ต้องเรียนรู้เทคนิคการอ่านอย่างไรให้ได้เนื้อหาสาระของเรื่อง อ่านอย่างรู้เท่าทันและไม่ตกเป็นเครื่องชักจูงใด ๆ ของเทคโนโลยี การรู้หนังสือ ไม่เพียงแต่รู้การเรียน การอ่าน แต่ต้องรู้ทักษะการเอาตัวรอดในสังคม ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ความรู้ทางการเงิน ความเป็นพลเมืองดิจิทัล แนวคิดแนวปฏิบัติที่ให้พลเมืองได้เรียนรู้และมีความสามารถในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างชาญฉลาด มีการบริหารจัดการ กำกับตนเองได้ รวมถึงรู้เท่าทันและสามารถปกป้องตนเองจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งเคารพสิทธิตนเองและผู้อื่น มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นด้วย</p>
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/281128
เทคนิคเสริมการอ่านประวัติศาสตร์จีนแบบไม่ต้องท่องจำ
2025-10-08T09:19:52+07:00
ธัญลักษณ์ จันทร์กระจ่าง
thanyalak@snru.ac.th
<p>บทความนี้นำเสนอเกี่ยวกับเทคนิคเสริมการอ่านประวัติศาสตร์จีนแบบไม่ต้องท่องจำ การศึกษาและการอ่านประวัติศาสตร์จีนเป็นการทำความเข้าใจทั้งในเชิงเวลา และเชิงวัฒนธรรม เพื่อให้เห็นภาพรวมของพัฒนาการที่มีความหลากหลายและซับซ้อน ผู้เขียนได้ศึกษาเทคนิคที่เสริมการอ่านประวัติศาสตร์จีน เพื่อช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น โดยการเชื่อมโยงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์จีนกับสถาณการณ์โลกไปพร้อมกัน เริ่มต้นจากการเข้าใจภาพรวมของพัฒนาการทางอารยธรรมจีนตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงยุคปัจจุบัน ราชวงศ์จีนที่สำคัญ เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์จีน ทฤษฎีทางการเมืองและปรัชญา การอ่านงานวิจัยและหนังสื่อประวัติศาสตร์จีนจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ การทำความเข้าใจในแง่มุมทางวัฒนธรรมจีน การติดตามข่าวสารและข้อมูลปัจจุบัน ไปจนถึงการทบทวนและเปรียบเทียบเหตุการณ์ในประเทศจีนกับเหตุการณ์ในประเทศอื่น ๆ</p>
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/278927
การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาห้องสมุดคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
2025-10-08T09:28:40+07:00
มณฑิชา เกตุนะ
monticha.k@rumail.ru.ac.th
ณิชชา ชวาลเวชกุล
nitcha.c@rumail.ru.ac.th
สุพิชญา บุรินรัมย์
6403003087@rumail.ru.ac.th
ปรีดี ปลื้มสำราญกิจ
preedee.pluemsamrungit@gmail.com
ธนัตถ์สรณ์ เรขะพรประสิทธิ์
thanutsorn.re@gmail.com
<p>เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญต่อหน่วยงานต่าง ๆ ห้องสมุดเป็นหน่วยงานหนึ่งที่นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการปรับปรุงการปฏิบัติงานและการบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่บรรณารักษ์และผู้ใช้บริการ และเพื่อให้เข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว บทความนี้นำเสนอเทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้ในทั้งการปฏิบัติงานของบรรณารักษ์และเทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้ในการบริการห้องสมุด เพื่อพัฒนาห้องสมุดคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้ทันสมัย</p>
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/281311
การพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักศึกษาบริหารธุรกิจ ผ่านกิจกรรมงานวิจารณ์หนังสือในรายวิชาภาวะผู้นำ
2025-10-20T18:36:39+07:00
ชัยเสฏฐ์ พรหมศรี
chaiyaset.p@rmutp.ac.th
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักศึกษาบริหารธุรกิจผ่านกิจกรรมงานวิจารณ์หนังสือในรายวิชาภาวะผู้นำ โดยให้นักศึกษาเลือกอ่านหนังสือแนวพัฒนาตนเองหรือภาวะผู้นำ และจัดทำสื่อเพื่อนำเสนอผลการวิเคราะห์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ การดำเนินกิจกรรมนี้ช่วยส่งเสริมให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ การประเมินข้อมูล การถ่ายทอดความคิดเห็น และการเชื่อมโยงความรู้กับบริบทของตนเอง นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างแรงจูงใจในการอ่าน ความสามารถในการสะท้อนตนเอง และคุณลักษณะสำคัญของภาวะผู้นำในศตวรรษที่ 21 อาทิ ความเข้าใจผู้อื่น การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และการเปิดรับมุมมองที่หลากหลาย กิจกรรมนี้จึงเป็นแนวทางที่สามารถนำไปปรับใช้ในการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะวิชาการควบคู่กับการพัฒนาทักษะชีวิต</p> <p><strong> </strong></p>
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน
https://so01.tci-thaijo.org/index.php/rdj/article/view/281398
การส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยการอ่านและจัดทำบทวิจารณ์หนังสือ (Book Review)
2025-10-20T18:31:16+07:00
สิทธิรัตน์ รุ่งมี
ake1409@gmail.com
<p>บทความวิชาการนี้นำเสนอความสำคัญของบทวิจารณ์หนังสือ ประโยชน์ของการทำบทวิจารณ์หนังสือที่มีต่อการส่งเสริมการอ่าน และประโยชน์ที่มีต่อผู้อ่าน ผู้ทำบทวิจารณ์ และวงการหนังสือ ตลอดจนประโยชน์ต่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยกิจกรรมบทวิจารณ์หนังสือสามารถพัฒนาทักษะที่เรียกว่า 3Rs, 4cs หรือ 8Cs นอกจากนี้นำเสนอบทบาทของผู้สอนที่สามารถนำบทวิจารณ์หนังสือมาใช้ส่งเสริมการเรียนรู้ในการเรียนการสอนได้ รูปแบบการจัดทำบทวิจารณ์หนังสือตามช่วงอายุ และผลของการทำบทวิจารณ์หนังสือที่ส่งผลต่อทักษะการเรียนรู้ บทความนี้ยังยกตัวอย่างบริการบทวิจารณ์หนังสือของห้องสมุดหรือเว็บไซต์ต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ และสรุปถึงแนวทางการนำไปใช้ในครอบครัว สถาบันการศึกษา และการพัฒนาบริการของห้องสมุด</p>
2025-07-08T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการอ่าน