การศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ ของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนสังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร

สุกัญญา สุดารารัตน์

การศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ ของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนสังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร

ผู้แต่ง

สุกัญญา สุดารารัตน์ RPU University

คำสำคัญ:

ความต้องการจำเป็น, การบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ, ผู้บริหารสถานศึกษาเอกชน, สังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพที่เป็นจริงและสภาพที่พึงประสงค์ในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนสังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร และ 2) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือผู้บริหารและครู ในสถานศึกษาเอกชนสังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาครจำนวน 24 สถานศึกษา รวม 278 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม ค่าสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ค่า PNI โดยใช้สูตรคำนวณด้วยเทคนิค Modified Priority Need Index (PNI _modified)

ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพที่เป็นจริงของพัฒนาการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= 4.25, S.D. = .42) สภาพที่พึงประสงค์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (= 4.64, S.D. = .54) และ 2) ความต้องการจำเป็นในการพัฒนาพัฒนาการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ 3 อันดับแรก ได้แก่ ด้านการมุ่งเน้นบุคลากรครู (PNI _modified=0.239) รองลงมา ได้แก่ ด้านการวัดผล การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ (PNI _modified=0.117) และ ด้านผลลัพธ์ (PNI _modified=0.112)

เอกสารอ้างอิง

Aumiller & Barbara Elaine. (2008). Implementation of the Baldrige Education

Framework for Performance Excellence : A Case Study of One Midwestern School District Leadership Team's Continuous Improvement Efforts.USA : University of Illinois.

Baldrige Performance Excellence Program. (2019). Baldrige Excellence Framework

(Education): Proven Leadership and Management Practices for High

Performance. Gaithersburg, MD: U.S. Department of Commerce, National

Institute of Standards and Technology. Retrieved June 10 2022, Retrieved from https://www.nist.gov/baldrige

Blanchard, K. (2007). Leading at a high – level. New Jersey: Prentice-Hall.

Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research

Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Ministry of Education. (2008). Educational reform proposals in the 2nd decade

(2009 - 2018).Bangkok: Prikwan. (In Thai)

Runcharoren, T. (2007). Professionalism in the organization and administration of education in the era of educational reform. 4th.Ed. Bangkok: Kaofang. (In Thai)

Schermerhorn, J. R., Hunt, J.G. & Osborn,R.N. (2001). Organizational Behavior.

th. ed. New York: Wiley Hardcover.

Waraphanphiphit, P. (2013). Policy proposal for excellence in educational institutions,Fundamentals of the local government organization. (Ph.D. thesis). Khon Kaen: Khon Kaen University. (In Thai)

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-06-17

รูปแบบการอ้างอิง

สุดารารัตน์ ส. (2023). การศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ ของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนสังกัดสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร, 14(1), 87–99. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/AJPU/article/view/262911