การบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน ในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9
คำสำคัญ:
การบริหารจัดการ, การระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9 การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9 2) เปรียบเทียบการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9 จำแนกตามตำแหน่งหน้าที่และประสบการณ์การทำงานของผู้บริหารโรงเรียน ครูที่ปรึกษา และครูที่รับผิดชอบงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และ 3) เสนอแนะแนวทางพัฒนาการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ใช้การสุ่มแบบเจาะจง และกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกน ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 40 คน ครูที่ปรึกษา จำนวน 120 คน และครูผู้รับผิดชอบงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน จำนวน 80 คน ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9 รวมทั้งสิ้นจำนวน 240 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าเอฟ และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
- การบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา ด้านการส่งเสริมนักเรียน ด้านการคัดกรองนักเรียน ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล และด้านการส่งต่อ ตามลำดับ
- ผู้บริหารและครูของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9 ที่มีตำแหน่งหน้าที่ และประสบการณ์การทำงานต่างกัน มีระดับการดำเนินงานในส่วนของการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนไม่แตกต่างกัน
- แนวทางการพัฒนาการบริหารระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9 พบว่า (1) ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ครูควรติดตามดูแลและรู้จักนักเรียนอย่างใกล้ชิด ควรติดตามการเก็บรวบรวมข้อมูลนักเรียนอย่างจริงจังเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ ควรได้รับความร่วมมือที่ดีจากชุมชนและผู้ปกครอง ควรทำเป็นแผนปฏิบัติงานของโรงเรียน จัดกิจกรรมส่งเสริมทักษะ ครูที่ปรึกษาควรสร้างความคุ้นเคยกับผู้ปกครองให้มากขึ้น สนับสนุนทุนการศึกษาให้นักเรียน จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมนักเรียนให้สามารถคิดเป็น แก้ปัญหาได้ และควรวางแผนการดำเนินการกิจกรรมเพื่อส่งเสริมนักเรียนอย่างต่อเนื่อง (2) ด้านการคัดกรองนักเรียน ข้อมูลของนักเรียนควรครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อให้สามารถคัดกรองนักเรียนได้อย่างมีคุณภาพ ครูมีการปรับปรุงข้อมูลของนักเรียนให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ครูและผู้บริหารควรจัดทำเครื่องมือ นวัตกรรม เพิ่มแบบประเมินนักเรียนให้มีความหลากหลาย มีการส่งต่อข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคลให้กับครูที่ปรึกษา และนำโปรแกรมสำเร็จรูป โปรแกรมประเมินพฤติกรรมนักเรียนเข้ามาใช้เพื่อความสะดวกในการเก็บข้อมูล (3) ด้านการส่งเสริมนักเรียน โรงเรียนควรมีการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้เหมาะสมและต่อเนื่อง มีการสนับสนุนการพัฒนานักเรียนในหลาย ๆ ด้าน มีความหลากหลายให้เหมาะสมกับนักเรียน ขอความร่วมมือผู้ปกครองในการพัฒนาพฤติกรรมนักเรียนร่วมกับโรงเรียน ผู้ที่เกี่ยวข้องควรวางระบบการดำเนินงานให้เข็มแข็งและมีความสามัคคีกัน และควรประชุมผู้ปกครองเพื่อชี้แจงให้เห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนานักเรียน (4) ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา ครูควรมีการติดตามบันทึกผลการช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ผู้ปกครองควรให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนในการให้ข้อมูลที่เป็นความจริง ควรแก้ปัญหาด้วยความเข้าใจเพื่อให้นักเรียนไว้ใจและให้ความร่วมมือ ครูควรสร้างความเป็นกันเองและความไว้วางใจกับนักเรียน ทุกฝ่ายที่รับผิดชอบต้องช่วยกันดูแลไม่ควรปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับผิดชอบโดยลำพัง และ โรงเรียนควรให้คำปรึกษาแนะนำเบื้องต้นแก่นักเรียน และ(5) ด้านการส่งต่อ หลังจากดำเนินกิจกรรมควรสรุปผล ติดตามประเมินผล รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ เพื่อนำมาปรับปรุงและนำไปใช้อย่างต่อเนื่อง โรงเรียนควรตรวจสอบ และศึกษาข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานที่จะส่งต่อนักเรียนให้ละเอียดและรอบคอบ โรงเรียนควรติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานที่ส่งต่อนักเรียนอย่างใกล้ชิดและรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะ ควรชี้แจงให้ผู้ปกครองรับทราบและเข้าใจกรณีส่งต่อนักเรียน ผู้บริหารควรติดตามด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการให้กำลังใจแก่คณะทำงานและยังเป็นการสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ปกครองและนักเรียนถึง การแก้ปัญหาอย่างจริงจังของผู้บริหาร และควรเก็บข้อมูลการส่งต่อนักเรียนเป็นความลับ
เอกสารอ้างอิง
กรมสุขภาพจิต. (2564). คู่มือวิทยากรระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ช่วงชั้นที่ 3-ช่วงชั้นที่ 4
(ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6). กรุงเทพฯ: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
กรมสุขภาพจิต. (2564). ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น. สืบค้นจาก https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=30188
ขวัญเนตร มูลทองจาด (2564). การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดอุดมรังสี.วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เทิดศักดิ์ ยะยอ. (2562). การบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนบ้านดอยคา อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่โดยใช้กระบวนการบริหารงานวงจรคุณภาพของเดมมิ่ง. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร มหาบัณฑิต. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
ธนิตา ศุกรสุคนธ์. (2562).การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดเฉลิมพระเกียรติ (พิบูลบำรุง). วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร. นครปฐม.
เบญจรงค์ เที่ยงศรีเกลี้ยง. (2564). ความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ สหวิทยาเขตวิภาวดี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 กรุงเทพมหานคร. Journal of Roi Kaensarn Academi, 6(2), น.140.
ปรมาภรณ์ สนธิ. (2560). แนวทางการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนระดับประถมศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี, ปทุมธานี.
ปรานี เตยอ่อน. (2558). การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนวัดเจ็ดริ้ว (สาครกิจ โกศล). วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.
ศิริพร ขุนภักดี. (2564). คู่มือการปฏิบัติงาน แนวทางการคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9. สืบค้นจาก http://www.mathayom9.go.th/ckeditor/userfiles/files/s001.pdf
สุธิดา พงษ์สวัสดิ์. (2561). การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี.วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.
สุภัสสร สุริยะ. (2562). การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยสยาม, กรุงเทพฯ.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9. (2562). คู่มือแนวทางการคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียนของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9. สืบค้นจาก http://www.mathayom9.go.th/webspm9/index.php
John W. Best. (1981). Research in Education, 4 th ed. New Jersey : Prentice – Hall Inc.
Krejcie, R.V., & D.W. Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3).