แนวทางการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมด้วยหลักสัปปุริสธรรม 7 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก

ผู้แต่ง

  • ฉัตราภัทร์ นามจันดี
  • ไตรรัตน์ สิทธิทูล
  • ธนรัตน์ ตีรสวัสดิชัย

คำสำคัญ:

หลักสัปปุริสธรรม 7 ผู้บริหารโรงเรียน, การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม, การบริหารงานบุคคล

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

สำนักงานคุรุสภาได้กำหนดกรอบมาตรฐานการประกอบวิชาชีพสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาต้องปฏิบัติตนให้มีคุณธรรมและจริยธรรม เนื่องจากผู้บริหารสถานศึกษาจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบุคลากรที่อยู่ภายในโรงเรียน แต่จากผลการศึกษาของนักวิชาการด้านการบริหารการศึกษาพบว่า ผู้บริหารสถานศึกษามีพฤติกรรมการบริหารงานที่ขาดคุณธรรมและจริยธรรม ทำให้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานบุคคล รวมถึงส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน และจากการศึกษาผลงานวิจัยที่ปรากฏในยุคปัจจุบันพบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาสามารถพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมด้วยหลักสัปปุริสธรรม 7 ดังนั้น ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมตามหลักสัปปุริสธรรม 7 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับคุณธรรมจริยธรรมตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก และ 2) นำเสนอแนวทางการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมด้วยหลักสัปปุริสธรรม 7 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก  ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 5 คน โดยการสุ่มผู้บริหารแบบเจาะจง และครูโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของ Krejcie and Morgan ได้ขนาดตัวอย่าง 169 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา จากการสัมภาษณ์ผู้บริหาร

ผลการวิจัย พบว่า 1) ระดับคุณธรรมจริยธรรมตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( X = 4.34) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านความเป็นผู้รู้จักชุมชน (X  = 4.39) รองลงมา คือ ด้านความเป็นผู้รู้จักกาลเวลาอันเหมาะสม  ( X= 4.37) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด คือ ด้านความเป็นผู้รู้จักเหตุ  (X = 4.27) 2) แนวทางการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมด้วยหลักสัปปุริสธรรม 7 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก พบว่า ในการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษาด้วยหลักสัปปุริสธรรม 7 ผู้บริหารต้อง 2.1) ศึกษาและเข้าใจหลักของความจริงอย่างมีเหตุและผล  วิเคราะห์สาเหตุของสถานการณ์ และรับผิดชอบต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่  2.2) มีจุดมุ่งหมายของหลักการปฏิบัติ เข้าใจวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนด ทราบประโยชน์ของสิ่งที่พึงกระทำ สามารถอธิบายกระบวนการที่นำไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ได้ 2.3) เข้าใจและยอมรับความสามารถของตนเอง ยอมรับความเป็นจริงในสิ่งที่ตนเองไม่มีความสามารถ และยอมรับความผิดพลาดของตนเอง มีความสุขุมรอบคอบ สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ วางตนให้เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ เสมอต้นเสมอปลาย ปฏิบัติตนให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่ไว้วางใจของผู้ใต้บังคับบัญชา 2.4) รู้จักวางแผนการทำงานควบคุมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่า มอบหมายงานได้เหมาะสมกับกำลังความรู้ความสามารถของบุคลากร รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และวางตัวอย่างเหมาะสม 2.5) ตรงต่อเวลาในการปฏิบัติงาน จัดลำดับความสำคัญของงาน และดำเนินงานตามเวลาที่กำหนดได้อย่างเหมาะสม ไม่ตำหนิผู้ใต้บังคับบัญชาต่อหน้าผู้อื่น และพัฒนางานให้ก้าวหน้าทันสมัยอยู่เสมอ 2.6) เข้าใจวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคมที่โรงเรียนตั้งอยู่ พร้อมให้การส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น และหาโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับสังคมตามควรแก่บทบาทหน้าที่ 2.7)มอบหมายงานให้บุคคลตามความรู้ความสามารถได้อย่างเหมาะสม เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความสามารถตามความถนัดอย่างเต็มที่ ให้ขวัญกำลังใจแก่ครู ทั้งในด้านส่วนตัวและการปฏิบัติงาน สนับสนุน ส่งเสริมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้พัฒนาตนเองในวิชาชีพ ยกย่อง ชมเชย หรือตำหนิลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาตามระเบียบของทางราชการ

เอกสารอ้างอิง

พระครูใบฎีกาบุญเพ็ง สุตธัมโม (จำปาสุข) และพระมหาสากล สุภรเมธี. (2561). ศึกษาหลัก สัปปุริสธรรม 7 เพื่อพัฒนาพฤติกรรมของมนุษย์ในสังคมตามหลักพุทธปรัชญาเถรวาท. วารสารวิชาการวิทยาลัยบริหารศาสตร์, 1(2).

พระมหาภานุวัฒน์ แสนคำ และ สมชาย บุณศิริเภสัช. (2558). การบริหารตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของ ผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จังหวัดลำปาง. การประชุมสัมนาวิชาการนำเสนองานวิจัยระดับชาติและนานาชาติเครือข่ายบัณฑิตศึกษา ครั้งที่ 15. มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ.

ทวีศักดิ์ สุขกมล. (2560). การใช้หลักสัปปุริสธรรมในการบริหารงานเชิงบูรณาการของผู้บริหารเทศบาลตำบลป่าไหน่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

มารยาท คงเมือง. (2559). คุณธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาตามการรับรู้ของครูจังหวัดอุทัยธานีสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 42. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์. ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2567. จาก http://ns.nsru.ac.th/bitstream/nsru/102/1/ Marayath_Kongmuang.pdf

สุภัชชา รุ่งเรือง. (2560). ความคิดเห็นของครูที่มีต่อการบริหารสถานศึกษาตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ของผู้บริหารโรงเรียนเครือข่ายที่ 10 สังกัดสำนักงานเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร. การค้นคว้าอิสระศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

สุภัททา ปิณฑะแพทย์. (2564). การสัมภาษณ์เพื่อการวิจัยเชิงคุณภาพ. วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม, 1(3).ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2567. จาก https://ojs.kmutnb.ac.th/ index.php/bid/article/viewFile/5681/3869

Boydak Özan, M., Yavuz Özdemir, T., & Yirci, R. (2017). Ethical Leadership Behaviours of School Administrators from Teachers’ Point of View. Foro de Educación, 15 (23).

Cherkowski, S. L., Walker, K. D., & Kutsyuruba, B. (2015). Principals’ Moral Agency and Ethical Decision-Making: Toward a Transformational Ethics. International Journal of Education Policy & Leadership, 10(5).

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-01-08

รูปแบบการอ้างอิง

นามจันดี ฉ., สิทธิทูล ไ., & ตีรสวัสดิชัย ธ. (2025). แนวทางการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมด้วยหลักสัปปุริสธรรม 7 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครนายก. ภาวนาสารปริทัศน์, 4(03), AR 31–44. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/WJR/article/view/276517