ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ของครู กับประสิทธิผลการบริหารงานของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6
คำสำคัญ:
สมรรถนะการบริหารหลักสูตร, การจัดการเรียนรู้, ประสิทธิผลการบริหารงานของสถานศึกษาบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
สมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ของครูเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานและพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ แต่จากการรายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่าโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6 เมื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ย 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2563 มีระดับคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ดังนั้นในฐานะที่ผู้วิจัยเป็นบุคลากรทางการศึกษาดังกล่าว ที่รับผิดชอบต่อการจัดการเรียนการสอนที่เป็นส่วนงานสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา จึงมีความสนใจศึกษาในหัวข้อเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ของครูกับประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับสมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ของครู 2) ศึกษาระดับประสิทธิผลของสถานศึกษา และ 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ของครูกับประสิทธิผลการบริหารงานของสถานศึกษา
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 256 คน เป็นผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 13 คน และครูจำนวน 243 คนได้จากการคำนวณด้วยสูตรของ Yamane เพื่อหาสัดส่วนของครูในแต่ละโรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ที่มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการวิจัย พบว่า 1) สมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6 โดยภาพรวมมีการดำเนินงานอยู่ในระดับมากทุกด้าน (x̅ = 4.30) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า สมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6 อยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยเลขคณิต จากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ (x̅ = 4.34) ด้านการใช้และพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีเพื่อการจัดการเรียนรู้ (x̅ = 4.32) ด้านความรู้ ความสามารถในการออกแบบการเรียนรู้ (x̅ = 4.29) ด้านการสร้างและพัฒนาหลักสูตร (x̅ = 4.28) และด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ (x̅ = 4.27) ตามลำดับ 2) ประสิทธิผลการบริหารงานของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน (x̅ = 4.32) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ประสิทธิผลการบริหารงานของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6 อยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยเลขคณิต จากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านบุคลากรมีมาตรฐาน (x̅ = 4.36) การส่งเสริมการรักษาวินัยของผู้เรียน (x̅ = 4.34) บรรยากาศสนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียน (x̅ = 4.33) การปรับปรุงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน (x̅ = 4.32) การติดตาม กำกับ กระบวนการเรียนการสอน (x̅ = 4.29) และการจัดสภาพแวดล้อมและสวัสดิการทำงาน (x̅ = 4.28) ตามลำดับ และ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ของครูกับประสิทธิผลการบริหารงานของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6 มีความสัมพันธ์ในทางบวกในระดับสูง (rxy=0.83) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยครั้งนี้ พบว่า สมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6 ด้านการสร้างและพัฒนาหลักสูตรควรมีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะด้านการสร้างและพัฒนาหลักสูตร และส่งเสริมให้สถานศึกษาต้องทำงานร่วมกับชุมชน วัด หน่วยงานและสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจ ประสิทธิผลการบริหารงานของสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6 ควรส่งเสริมด้านการจัดสภาพแวดล้อมและสวัสดิการทำงาน มีการสร้างบรรยากาศในการทำงานที่พึงประสงค์เพื่อก่อให้เกิดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานร่วมกัน ทำให้บุคลากรเกิดความพึงพอใจในการทำงาน และผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ของครูกับประสิทธิผลการบริหารงานของสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาควรส่งเสริมและสนับสนุน จัดอบรม ตลอดจนจัดหาวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อพัฒนาความสามารถในการออกแบบการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้กระบวนการคิดและกระบวนการแก้ปัญหาสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งจากผลการวิจัยครั้งนี้ สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่ม 6 อาจต้องพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ และปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานของสถานศึกษาในด้านอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาสมรรถนะของครู และแนวทางในการบริหารจัดการสถานศึกษาให้มีประสิทธิผลสูงขึ้น
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: [ม.ป.พ.].
ขวัญพิชชา มีแก้ว. (2562). การบริหารสถานศึกษาที่ ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาจันทบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
ปิยะรัตน์ มนัญชัย. (2557). สมรรถนะทางวิชาการของครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นทีการศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ปุณฑริกา นิลพัฒน์. (2558). สมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ของครู ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข. (2550). ทักษะ 5C เพื่อการพัฒนาหน่วยการเรียนรู้และการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รัฐศาสตร์ พาณิชย์พงศภัค. (2559). การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะการบริหารหลักสูตรและการ จัดการเรียนรู้ของครูโรงเรียนประถมศึกษาเอกชน. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
วินัย คำวิเศษ และ กฤษณะ ดาราเรือง. (2561). การ บริหารจัดการที่มีประสิทธิผลของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสำนักงานศึกษาธิการภาค กระทรวงศึกษาธิการ. วารสารบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 14(1).
สนิท นันทชัย. (2549). แนวคิดของผู้บริหารสถานศึกษาและครูต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดเชียงราย. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัย ราชภัฏเชียงราย.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานครเขต 1. (2564). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน O-NET ปีการศึกษา 2563. กรุงเทพฯ: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). คู่มือประเมินสมรรถนะครู (ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพฯ: สำนักพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สำนักงานปฏิรูปการศึกษา. (2544). รายงานปฏิรูปการศึกษาต่อประชาชน. กรุงเทพฯ: สำนักงานปฏิรูปการศึกษา.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). เข้าใจสมรรถนะอย่างง่าย ๆ ฉบับประชาชน และเข้าใจหลักสูตรฐานสมรรถนะอย่างง่าย ๆ ฉบับครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : 21 เซ็นจูรี่ จำกัด.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2551). แนว ทางการบริหารจัดการหลักสูตร ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
Austin and Raynolds (1990). “Managing for improved school effectiveness: An international survey.” School Organization,10(2/3).
E. Mark Hanson. Educational Administration and Organization Behavior. (4th ed.). Boston: Allyn and Bacon, 1996.
Hinkle, D. E., Wiersma, W., & Jurs, S. G. (1988). Applied statistics for the behavioral sciences. New York: Harper & Row. Mentz.
Mott, P. E. (1972). The characteristics of effective organization. New York: Harper & Row. Mentz.
Sammons, P., Hillman, J., & Mortimore, P. (1994). Key characteristics of effective school: A review of school effectiveness. New York: Harper & Row. Mentz.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 ภาวนาสารปริทัศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.