การศึกษาพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ทางวิชาการของนักศึกษามหาวิทยาลัย โดยการใช้เทคนิคการตอบสนองเชิงสุ่มของ Warner

Main Article Content

ศิริพร เสริตานนท์

Abstract

การศึกษาครั้งนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อประยุกต์ใช้เทคนิคการตอบสนองเชิงสุ่มของ Warner ในการประมาณค่าสัดส่วนพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ทางวิชาการของนักศึกษามหาวิทยาลัย ใน 4 ด้านหลัก คือ ด้านทุจริตการสอบ  ด้านการลอกแบบฝึกหัด  ด้านความไม่ซื่อสัตย์ในการจัดทำรายงาน และด้านการสร้างข้อมูลเท็จ  รวมทั้งเปรียบเทียบพฤติกรรมดังกล่าวระหว่างนักศึกษาจำแนกตามเพศ ชั้นปีที่เรียน กลุ่มวิชาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  ตัวอย่างวิจัยเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ถึง 4 ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง  จำนวน 244 คน เป็นชาย 103 คน หญิง 141 คน จากกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี 64 คน และกลุ่มวิชามนุษยศาสตร์-สังคมศาสตร์ 180 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามกึ่งสัมภาษณ์จำนวน 18 ข้อ โดยใช้เครื่องมือตารางสุ่มก่อนตอบคำถามแต่ละข้อว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ตามเทคนิคการตอบสนองเชิงสุ่มของ Warner
    ผลการศึกษาพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ทางวิชาการใน 4 ด้านหลัก พบว่า นักศึกษาเคยมีพฤติกรรมด้านการลอกแบบฝึกหัดมากที่สุด ร้อยละ 64.80  ด้านการสร้างข้อมูลเท็จร้อยละ 46.59  ด้านทุจริตการสอบ ร้อยละ 33.17  และด้านความไม่ซื่อสัตย์ในการจัดทำรายงาน ร้อยละ 28.15
    เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างเพศ  ชั้นปี  กลุ่มวิชาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นรายข้อ พบว่า  
    1. นักศึกษาชายเคยมีพฤติกรรมลอกแบบฝึกหัดเพื่อนมากที่สุด ในขณะที่นักศึกษาหญิงเคยให้เพื่อนลอกแบบฝึกหัดมากที่สุด ร้อยละ 77.31 และ 84.73 ตามลำดับ  
    2. นักศึกษาชั้นปีที่ 4 เคยมีพฤติกรรมการนำรายงานของผู้อื่นมาส่งเป็นของตนในสัดส่วนที่สูงกว่านักศึกษาชั้นปีอื่นๆ ในขณะที่พบว่า  พฤติกรรมดังกล่าวนี้เกิดขึ้นน้อยกว่าพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ทางวิชาการรูปแบบอื่นๆในกลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่น้อยกว่า
    3. นักศึกษากลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีเคยให้ผู้อื่นทำแบบฝึกหัดแทน และสร้างข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ค้นคว้ารวบรวมได้ในสัดส่วนที่สูงกว่านักศึกษากลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์อย่างเด่นชัด  โดยนักศึกษาทั้ง 2 กลุ่มวิชาต่างเคยมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงข้อมูลบางส่วนให้เป็นไปตามที่ต้องการในสัดส่วนที่เท่าๆ กัน                                     4. นักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ยสะสมในระดับสูงเคยมีพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ทางวิชาการด้านการจัดทำรายงาน และการสร้างข้อมูลเท็จในสัดส่วนที่สูงกว่านักศึกษากลุ่มอื่นๆ

Article Details

Section
Research Article