เวอร์ชันเก่านี้เผยแพร่เมื่อ 2021-06-30 โปรดอ่าน เวอร์ชันล่าสุด

การปฏิบัติตามนโยบายด้านการศึกษาสู่การพัฒนาสังคม นครหลวงพระบาง แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ผู้แต่ง

  • พุดสะดา อินทะวง นักศึกษา หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
  • ดร.เกรียงศักดิ์ สร้อยสุวรรณ สาขาพัฒนาสังคม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
  • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิชญ์ มะลิต้น สาขาพัฒนาสังคม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการปฏิบัติตามนโยบายด้านการศึกษาของนครหลวงพระบาง   แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่สนับสนุนการปฏิบัติตามนโยบาย ด้านการศึกษาสู่การพัฒนาสังคมนครหลวงพระบาง แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการปฏิบัติตามนโยบายด้านการศึกษาสู่การพัฒนาสังคม นครหลวงพระบาง แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ประชากรได้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและประชาชน 296 คน กลุ่มตัวอย่างได้ 170 คน กลุ่มเป้าหมาย โดยการเลือกแบบเจาะจง ได้แก่ เจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามนโยบายด้านการศึกษา จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม ประเด็นการสัมภาษณ์ ประเด็นการสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา

          ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพการปฏิบัติตามนโยบายด้านการศึกษาของนครหลวงพระบาง แขวงหลวงพระบาง สปป. ลาว ผลการวิจัย พบว่า  มีการสนับการศึกษาต่อ การพัฒนาครูผู้สอน การสร้างโรงเรียนต้นแบบ การบริหารคุณภาพการจัดการศึกษาการสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษา อุปกรณ์กีฬา การกำกับ ติดตามและประเมินผลการเรียนการสอน การฝึกอบรมอาชีพชาวบ้าน การบริหารงบประมาณ การสร้างสังคมให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และตอบสนองต่อแนวทางพัฒนาคุณภาพการศึกษา 2) ปัจจัยที่สนับสนุนการปฏิบัติตามนโยบายด้านการศึกษาสู่การพัฒนาสังคม นครหลวงพระบาง แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว

พบว่า ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านการศึกษา เช่นระดมทุนเพื่อพัฒนาโรงเรียน สร้างกองทุนออมทรัพย์เพื่อการพัฒนาการศึกษา เป็นวิทยากรฝึกอบรมอาชีพการทอผ้า จักสาน  3)     แนวทางการปฏิบัติตามนโยบายด้านการศึกษาสู่การพัฒนาสังคมนครหลวงพระบางแขวงหลวงพระบาง สปป. ลาว พบว่า 1) ควรส่งเสริมการศึกษาต่อให้มากขึ้น 2) พัฒนาการจัดการเรียนการสอน และการวัดประเมินผล 3)ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนการสอนที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีของชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งสามารถพึ่งตนเองได้ 4)ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาให้มากยิ่งขึ้น 5) ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตามบริบทสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของชุมชน

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการและกีฬา. (2558). แผนพัฒนาการศึกษาและกีฬา 2559–2563. นครหลวงเวียงจันทน์ : แผนกพัฒนาการศึกษาและกีฬา.
แขนงการศึกษาและกีฬา. (2557). เอกสารกองประชุมคณะนำเปิดกว้าง และถอดถอนบทเรียนการจัดตั้งปฏิบัติเวียกงาน 3 สร้าง. นครหลวงเวียงจันทน์ : แผนกพัฒนาการศึกษาและกีฬา.
วีรวัฒน์ พัฒนกุลชัย และ สุรีย์มาศ สุขกสิ. (2557). รูปแบบการพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษา. กรุงเทพฯ : เอ็กซเปอร์เน็ท.
อมร สายใจ. (2556). เปรียบเทียบความเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนในเขตอำเภอเมืองสระแก้วสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา.
Wheeler. (2003). Active Learning to Improve Student Performance in Remedial Mathematics. In Paper Present at the annual meeting of the Mathematical Association of America. Retrieved June 18, 2008, from http://www.allacademic.
com/one/www/research.
Senge, P. M. (1990). The fifth discipline :The art and practice of the learning organization. London : Century Pre

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-06-30

เวอร์ชัน

รูปแบบการอ้างอิง

อินทะวง พ. ., สร้อยสุวรรณ เ. ., & มะลิต้น ว. (2021). การปฏิบัติตามนโยบายด้านการศึกษาสู่การพัฒนาสังคม นครหลวงพระบาง แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, 3(2), 21–34. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/husolru/article/view/249104