เวอร์ชันเก่านี้เผยแพร่เมื่อ 2023-08-18 โปรดอ่าน เวอร์ชันล่าสุด

ภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้านในการรักษาอาการปวดหลังส่วนล่าง ในจังหวัดอุบลราชธานี

ผู้แต่ง

  • พิชชานันท์ เธียรทองอินทร์ คณะแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

คำสำคัญ:

ภูมิปัญญา หมอพื้นบ้าน ปวดหลังส่วนล่าง

บทคัดย่อ

อาการปวดหลังส่วนล่าง (Low back pain) พบความชุกของผู้ป่วยทั่วโลกประมาณ ร้อยละ70–85 นับเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจที่สำคัญ การศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมภูมิปัญญา กระบวนการรักษาอาการปวดหลังส่วนล่างของหมอพื้นบ้านในจังหวัดอุบลราชธานีและเพื่อตรวจสอบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของตำรับยาสมุนไพร โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) หมอพื้นบ้านจำนวน 5 คน ที่เป็นสมาชิกชมรมหมอพื้นบ้าน การสังเกตและการตรวจสอบข้อมูลจากฐานข้อมูลทางวิชาการ ผลการวิจัย พบว่า หมอพื้นบ้านทั้งหมดสืบทอดองค์ความรู้มาจากบรรพบุรุษร่วมกับการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม มีขั้นตอนการรักษาเริ่มจาก 1) การคลายกล้ามเนื้อ 2) การกดบีบนวด 3) การขิดเส้น หรือเขี่ยเส้น  4) ยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังการนวด และ 5) การใช้สมุนไพร จากการตรวจสอบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสมุนไพร พบว่าส่วนใหญ่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เช่น กำแพงเจ็ดชั้น (Salacia chinensis L.) ขันทองพยาบาท (Suregada multiflora (A.Juss.) Baill.)  เถาวัลย์เปรียง (Derris scandens (Roxb.) Benth) การศึกษาและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของหมอพื้นบ้าน แสดงให้เห็นว่า หมอพื้นบ้านมีองค์ความรู้ ภูมิปัญญาที่มีสามารถดูแลหรือบรรเทาอาการเจ็บป่วยของคนในชุมชนได้ แต่อย่างไรก็ตามควรมีการศึกษาถึงประสิทธิผลของการนวดและฤทธิ์ของตำรับยาสมุนไพรต่อไป

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก (2562). คู่มือประกอบการรับรองหมอพื้นบ้าน ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน พ.ศ.2562.

ชลวิทย์ สิงหกุล, ไพลวัลย์ โคศรีสุทธิ์ และ อภิมุข ตาอุด (2564). ภูมิปัญญาหมอพื้นบ้านการนวดขิดเส้น : กรณีศึกษา นายบุรี แก้วคำ. วารสารการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ, 1(2), 40-54.

นพวรรณ บัวตูม, มนัสนันท์ เริงสันเทียะ, สิริพร จารุกิตติ์สกุล และ กชกร สุขจันทร์ อินทนูจิตร (2561). การนวดไทยรักษาอาการปวดหลังส่วนล่าง: กรณีศึกษาหมอพื้นบ้านในจังหวัดสงขลา. วารสารมหาวิทยาลัยทักษิณ, 21(1), 21-29.

พงษ์ศิรื ปัดถาวะโร, สรรใจ แสงวิเชียร และ ศุภะลักษณ์ ฟักคำ (2562). ประสิทธิผลของการนวดราชสำนักในการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อหลังสวนล่างเฉียบพลัน. มหาวิทยาลัยการจัดการและเทศโนโลยีอีสเทิร์น, 16(2), 376-387.

มัสยา มนุษย์ (2564). การนวดรักษาอาการปวดหลังส่วนล่าง : การศึกษาตำรานวดจุดวัดราชสิทธาราม

เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร. การประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 14 วันที่ 18 สิงหาคม 2564. 759-767.

มูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิมในพระราชูปถัมภ์ อายุรเวทวิทยาลัย (2555). หัตถเวชกรรมแผนไทย (นวดแบบราชสำนัก). (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: อุษาการพิมพ์.

ราชันย์ ภู่มา (2559). สารานุกรมพืชในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระพรรษา กรุงเทพฯ : สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษณ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.

ราตรี พระนคร และ เจน พระนคร (2560). การศึกษาภูมิปัญญาของการนวดรักษาอัมพฤกษ์-อัมพาต: กรณีศึกษาแม่จันลี เปลี่ยนเอก. วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, 15(1), 30-44.

สำนักคณะกรรมการอาหารและยา. (2564). คู่มือประกอบการใช้บัญชียาแห่งชาติด้านสมุนไพร พ.ศ. 2564. พระนครศรีอยุธยา: เกรทเทส จำกัด.

Chaingam, J., Choonong, R., Juengwatanatrakul, T., Kanchanapoom, T., Putalun, W & Yusakul, G (2022). Evaluation of anti-inflammatory properties of Eurycoma longifolia Jack and Eurycoma harmandiana Pierre in vitro cultures and their constituents. Food and Agricultural Immunology, 33(1), 530-545.

Chaniad, P., Tewtrakul, S., Sudsai, T., Langyanai, S & Kaewdana, K (2020). Anti-inflammatory, wound healing and antioxidant potential of compounds from Dioscorea bulbifera L. bulbils. Plos One, 15(12), 1-14.

Chhetri, HP., Yogol, NS., Sherchan, J., Anupa, KC., Mansoor, S & Thappa P (2008). Phytochemical and antimicrobial evaluations of some medicinal plants of Nepal. Journal of Science Engineering and Technology, 4(1), 49-54.

Juntakarn, C., Prasartritha, T & Petrakard, P (2017). The effectiveness of Thai massage and joint mobilization. International journal of therapeutic massage and bodywork, 10(2), 1-8.

Kahere, M., Hiongwa, M & Ginindza, TG (2022). A Scoping Review on the Epidemiology of Chronic Low Back Pain among Adults in Sub-Saharan Africa. International Journal of Environmental Research and Public Health, 19(5), 1-22.

Khamchun, S & Tananchai, C (2020). Anti-inflammatory activity of Salacia chinensis L. extracts throughthe inhibition of nitric oxide secretion by macrophages. Journal of Medicine and Health Sciences, 27(3), 1-14.

Tewtrakul, S., Subhadhirasakul, S., Cheenpracha, S., Yodsaoue, O., Ponglimanont, C & Karalai, C (2011). Anti-inflammatory principles of Suregada multiflora against nitric oxide and prostaglandin E2 releases. Journal Ethnopharmacology, 133(1), 63-66.

Wongsinkongman, P., Bansiddhi, J., Sanluangin, S., Thongjin, T & Sothanapun, U (2013). Bioactive compounds of Derris scandens (Roxb.) Benth. Extract. Journal of Thai Traditional & Alternative Medicine, 11(3), 267-279.

Xu, WH., Liu, WY & Liang, Q (2018). Chemical constituents from Croton species and their biological activities. Molecules, 23(9), 1-38.

Puttarak, P., Sawangjit, R & Chaiyakunapruk, N (2016). Efficacy and safety of Derris scandens (Roxb.) Benth. for musculoskeletal pain treatment: A systematic review and meta-analysis of randomized controlled trials. Journal of Ethnopharmacology, 194(24), 316-323.

The government public relations department (2019). Nuad Thai on the UNESCO List of Intangible Cultural Heritage of Humanity. Retrieved from https://thailand.prd.go.th/ mobile detail.php?cid=4&nid=8758.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-08-18

เวอร์ชัน

รูปแบบการอ้างอิง

เธียรทองอินทร์ พ. (2023). ภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้านในการรักษาอาการปวดหลังส่วนล่าง ในจังหวัดอุบลราชธานี. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, 5(2). สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/husolru/article/view/268177