มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในบริบทกฎหมาย: การเปรียบเทียบระหว่างอนุสัญญา UNESCO 2003 กฎหมายประเทศไทย และกฎหมายประเทศจีน

ผู้แต่ง

  • เอกพงษ์ สารน้อย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
  • ณภัชนันท์ เลื่อมประเสริฐ นักวิจัยอิสระ
  • สุทัศนีย์ นิธิตรีรัตน์ นักวิจัยอิสระ

คำสำคัญ:

มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม, การอนุรักษ์, การสืบทอด

บทคัดย่อ

บทความ “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในบริบทกฎหมาย การเปรียบเทียบระหว่างอนุสัญญา UNESCO 2003 กฎหมายประเทศไทย และกฎหมายประเทศจีน” ฉบับนี้ เป็นการศึกษาบทกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ได้แก่ อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) ปี ค.ศ. 2003 พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2559 และกฎหมายมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของสาธารณรัฐประชาชนจีน ปี ค.ศ. 2011 (Intangible Cultural Heritage Law of the People’s Republic of China) เมื่อศึกษา วิเคราะห์ และนำข้อมูลมาเปรียบเทียบ ทำให้เห็นจุดเด่นและข้อบกพร่องของกฎหมายแต่ละฉบับ จากการวิเคราะห์เปรียบเทียบพบว่า อนุสัญญาของ UNESCO เน้นความหลากหลายในการสงวนรักษา     มรดกวัฒนธรรมเพียงเท่านั้น ขณะที่กฎหมายของไทยและจีนมีแนวปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายที่ชัดเจน นอกจากการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบแล้ว คณะผู้ศึกษาได้มีการนำเสนอแนวทางการปรับปรุงกฎหมาย        เพื่อให้กฎหมายไทยและกฎหมายจีนมีประสิทธิภาพและความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นในการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ซึ่งแนวทางการปรับปรุงจะมุ่งเน้นไปที่ระบบการเก็บข้อมูลเพื่อการอนุรักษ์และเผยแพร่ พร้อมทั้งความต่อเนื่องของการมีส่วนร่วมของชุมชน

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงวัฒนธรรม. (2562). นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 จาก http://www.culture.go.th/off_secretary/ewt_dl_link.php?nid=642

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. (2559). พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2559 และอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. ๒๐๐๓. สืบค้นจาก http://book.culture.go.th/newbook/ich/ich2559.pdf

ธัญญกานต์ บุษบรรณ (2565). มาตรการทางกฎหมายในการปกป้องและส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาทาง

วัฒนธรรม. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

เปรม ถาวรประภาสวัสดิ์. (2559). พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

พ.ศ. 2559: การรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม้ได้. [ออนไลน์].

สืบค้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566, จาก: https://old.parliament.go.th/ewtadmin/

ewt/parliament_parcy/ewt_dl_link.php?nid=54975&filename=house2558_2

ลิขิต ฮุนตระกูล (2495). ประวัติการสัมพันธ์ระหว่างชาติไทยและชาติจีนแต่ยุคโบราณจนถึงสมัยชาติไทยได้มาตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งประเทศไทย. โรงพิมพ์ไทยพิทยา.

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง (2568). ความสัมพันธ์ไทย – จีน. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568, จาก: https://thaiembbeij.org/th/republic-of-china/thai-relations-china/?utm_source=chatgpt.com

สุวรรณา สังข์สุกใส. (2547). วัฒนธรรมไทย-จีน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วนิดา อินทรอํานวย. (2560). พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม. [ออนไลน์].

สืบค้นเมื่อ วันที่ 18 ตุลาคม 2567, จาก: https://cdc.parliament.go.th/ewtadmin/

ewt/elaw_parcy/ewt_dl_link.php?nid=1761

Blake, J. (2009). UNESCO’s 2003 Convention on Intangible Cultural Heritage: The Implications of Community Involvement in ‘Safeguarding’. (p. 45-58). สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 จาก https://www.taylorfrancis.com/chapters/edit/10.4324/978020

-8/unesco-2003-convention-intangible-cultural-heritage-implications-community-involvement-safeguarding-janet-blake

Chen, Y. (2015). Cultural Relics Protection in China: Development and Challenges. Journal of Chinese Cultural Studies, 12(3), 45-58.

Etzkowitz and Leydesdorff. (1995, 2000). The Triple Helix: University–industry–government

innovation in action. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 จาก

https://www.researchgate.net/publication/254394246_The_Triple_Helix_University-industry-government_innovation_in_action_-_By_Henry_Etzkowitz

Lenzerini, F. (2011). Intangible Cultural Heritage: The Living Culture of Peoples. European

Journal of International Law, 101-120. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 จาก https://shorturl.asia/X3TZD

Rong Chai & Hao Li. (2019). A Study on Legislation for Protection of Cultural Relics in China: Origin, Content and Model. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 จาก

https://www.researchgate.net/publication/335451191_A_Study_on_Legislation_for_Protection_of_Cultural_Relics_in_China_Origin_Content_and_Model

Sun Nuo Zhu Ma & Badaruddin Bin Mohame. (2023). Heritage Tourism an Cultural Identity in China: Challenges and Opportunities for Development. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 จาก https://www.researchgate.net/publication/372300363_Heritage_Tourism_

and_Cultural_Identity_in_China_Challenges_and_Opportunities_for_Development

The Supreme People’s Court of the People’s Republic of China. (2015). Law of the People’s Republic of China on Protection of Cultural Relics. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 จาก http://www.npc.gov.cn/zgrdw/englishnpc/Law/200712/13/content_1384

htm

UNESCO. (2003). Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage.

สืบค้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 จาก https://english.court.gov.cn/2015-07/17/c_761516_3.htmhttps://ich.unesco.org/doc/src/15164-EN.pdf

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-30

รูปแบบการอ้างอิง

สารน้อย เ., เลื่อมประเสริฐ ณ., & นิธิตรีรัตน์ ส. . (2025). มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในบริบทกฎหมาย: การเปรียบเทียบระหว่างอนุสัญญา UNESCO 2003 กฎหมายประเทศไทย และกฎหมายประเทศจีน. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, 7(2), 102–114. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/husolru/article/view/280065