สถานการณ์และปัญหาของธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับไทยที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนทางตรงในต่างประเทศ: ศึกษาการลงทุนทางตรงของธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับไทยในประเทศเวียดนาม

Main Article Content

Chanisa Ngamapichon

บทคัดย่อ

ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอัญมณีและเครื่องประดับที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของโลกในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องไปถึงในอนาคตโดยเฉพาะการผลิตเครื่องประดับในกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงระดับบน เนื่องด้วยความโดดเด่นทางด้านทักษะฝีมือแรงงานที่มีความประณีต ส่งผลให้ชิ้นงานมีลวดลายและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากสถานการณ์อุตสาหกรรมเครื่องประดับของไทยนั้นมีปัจจัยผลักจากในประเทศที่ผลักดันให้ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับไทยออกไปลงทุนทางตรงในต่างประเทศอยู่หลายปัจจัย กล่าวคือ การขาดแคลนวัตถุดิบภายในประเทศทำให้ผู้ประกอบการย้ายฐานการผลิตไป ณ ประเทศที่มีวัตถุดิบอุดมสมบูรณ์และมีราคาถูกกว่า การเพิ่มขึ้นของค่าแรงภายในประเทศและมีค่าแรงสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และการที่ตลาดภายในประเทศไม่เติบโตเท่าที่ควร ผู้ประกอบการอาจตัดสินใจไปลงทุนทางตรงในต่างประเทศโดยพิจารณาประเทศที่มีทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตและค่าแรงที่ต่ำกว่าในกรณีที่ต้องการไปตั้งฐานการผลิต หรือในกรณีต้องการขยายตลาดก็อาจไปตั้งร้านค้าเครื่องประดับเพื่อขยายตลาดตราสินค้าของตนเอง โดยจะต้องพิจารณาตลาดเครื่องประดับของประเทศนั้นๆ ว่ามีความสามารถในการซื้อเครื่อง ประดับซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยหรือไม่ ซึ่งเมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมานี้ หนึ่งในประเทศที่มีความน่าสนใจในการไปลงทุนทางตรง ได้แก่ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าเวียดนามจะเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับไทย แต่ก็ยังมีอุปสรรคต่อการลงทุนทางตรงต่อผู้ประกอบการไทยหลายประการที่ควรได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนโดยใช้เครื่องมือทางกฎหมาย มาตรการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย
ประวัติผู้แต่ง

Chanisa Ngamapichon, คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อาจารย์ประจำ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330  น.บ. (เกียรตินิยม) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, น.บ.ท., LL.M. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, LL.M. University of King’s College London, LL.M. La Trobe University