Legal Form for Establishing Maritime Knowledge Management Organization

Main Article Content

Voraphol Malsukhum
Dulyawat Chaowadee

Abstract

This article demonstrates methodology and findings of a research on a legal form of
maritime knowledge management organization in Thailand. As each form of state organ
has different legal status and framework, it is then necessary to consider the one most
suitable and effective for maritime knowledge management in the Thai context. By this,
the essential elements leading to the findings include an analysis of objective, characteristic,
and function of a maritime knowledge management organization which Thailand supposed
to have, an investigation on the necessity of establishing a maritime knowledge management
organization both internationally and domestically, as well as background and impediment
encountered during the establishments of past maritime knowledge management
organizations in Thailand. In addition, it is crucial to conduct a comparative study of the
good legal framework of international maritime knowledge management organizations.
The research then studies a possible form of maritime knowledge management organization
under the Thai legal system along with samples of established knowledge management
organization for other affairs. Finally, comments from experts in maritime domain are
integrated into this study.



The findings demonstrate that, at the beginning, the organization should focus
on managing knowledge instead of creating it on their own. Its main function shall be
cooperating, gathering, and integrating knowledge from various organization to support
useful academic reason for decision and policy makers in practice. The most suitable
legal form of organization for such duty is foundation or institute under public university.
In the future, the form of establishment of knowledge management organization could
be improved to public organization, so as to become a more well-rounded organization
in terms of being able to cover more knowledge management competence.

Article Details

Section
Research Articles

References

1. กองทัพเรือ, “ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล,” วิสัยทัศน์กองทัพเรือพุทธศักราช 2567, หน้า 6.

2. Geoffrey Till, Seapower A Guide for the Twenty-First Century, 2nd ed. (UK : Routledge, 2009), pp 23-33.

3. Geoffrey Till, Seapower A Guide for the Twenty-First Century, pp 286-322.

4. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ, แผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล พ.ศ.2558-2564, (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ, 2558), หน้า 4.

5. เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์, “รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการสถานการณ์และข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศไทยเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน,” (กรุงเทพมหานคร : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย, 2562), หน้า 27.

6. คณะอนุกรรมการจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล (อจชล.) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี, ทะเลและมหาสมุทรและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล, หน้า 11-14.

7. นวรัตน์ ไกรพานนท์ กัญติยา สดใส และวรัชยา สุวรรณเนตร, “ช่องว่างทางนโยบายกับการจัดการผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลของประเทศไทย : ความท้าทายการจัดการผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลไทยภายใต้กติกาสากล,” (กรุงเทพมหานคร : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย, 2555), หน้า 201-231.

8. สำนักงานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ, ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580, (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ, 2561), หน้า 11-63; สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี, แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560-2564, (29 ธันวาคม 2559), หน้า 63-18

9.ฐานข้อมูลเว็บไซต์ความรู้ทางทะเล (Marine Knowledge Hub), “กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทะเล,” สืบค้นจากhttp://www.mkh.in.th/index.php?option=com_content&view=article&id=48&Itemid=154&lang=th
เข้าถึงเมื่อ 6 มิถุนายน 2563

10. เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์และคณะ, “รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล,” (กรุงเทพมหานคร : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย, 2553), หน้า 141-145.

11. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ, แผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล พ.ศ. 2558-2564, หน้า 64.

12. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี “เรื่อง การประกาศแผนการปฏิรูปประเทศ,” หน้า 202-206.

13. ฐานข้อมูลเว็บไซต์ RSiS Nanyang Technological University Singapore, “About the Institute of Defence and Strategic Studies,” สืบค้นจาก https://www.rsis.edu.sg/research/idss/about-the-centre/about-the-institute-of-defence-and-strategic-studies-idss/#.X8H9l7MxXws เข้าถึงเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2563

14. ฐานข้อมูลเว็บไซต์ University of Wollongong Australia, “About,” สืบค้นจาก https://www.uow.edu.au/ancors/about/ เข้าถึงเมื่อ 28 ตุลาคม 2563

15. รวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ Korea Maritime Institute สืบค้นจาก https://www.kmi.re.kr/eng/contents/contentsView.do?rbsIdx=215 เข้าถึงเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2563

16. รวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ Korea Institute of Ocean Science & Technology สืบค้นจาก https://www.kiost.ac.kr/eng/sub01_01.do เข้าถึงเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2563

17. ฐานข้อมูลเว็บไซต์ The Ocean Policy Research Institute, “About OPRI,” สืบค้นจาก https://www.spf.org/en/opri/profile/ เข้าถึงเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2563

18. ฐานข้อมูลเว็บไซต์ MIMA Martine Institute of Malaysia, “MIMA Overview,” สืบค้นจาก https://www.mima.gov.my/about-us/about-mima/mima-overview เข้าถึงเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2563

19. ฐานข้อมูลเว็บไซต์ National Maritime Foundation, “The Foundation Genesis,” สืบค้นจาก https://maritimeindia.org/the-foundation/#toggle-id-1 เข้าถึงเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2563

20. ชาญชัย แสวงศักดิ์, องค์การมหาชน, (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์นิติธรรม, 2542), หน้า 99-110.

21. ชาญชัย แสวงศักดิ์, คำอธิบายกฎหมายปกครอง, พิมพ์ครั้งที่ 28 (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์วิญญูชน, 2562), หน้า 205-206.

22. ประยูร กาญจนดุล, คำบรรยายกฎหมายปกครอง, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพมหานคร : คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2549), หน้า 120-121.

23. ชาญชัย แสวงศักดิ์, องค์การมหาชน, หน้า 99-110.

24. ชาญชัย แสวงศักดิ์, คำอธิบายกฎหมายปกครอง, หน้า 218.

25. สมยศ เชื้อไทย, หลักกฎหมายมหาชนเบื้องต้น, พิมพ์ครั้งที่ 14 (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์วิญญูชน, 2563), หน้า 160-161.

26. กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, คู่มือการดำเนินงานมูลนิธิและสมาคม, หน้า 17.