การเรียกพยานเอกสารในคดีความรับผิดในสินค้าที่ไม่ปลอดภัยในประเทศญี่ปุ่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
แม้กฎหมายว่าด้วยความรับผิดจากสินค้าไม่ปลอดภัยของประเทศญี่ปุ่นจะถูกแก้ไขเพิ่มเติมในปี ค.ศ. 1994 โดยยกเลิกบทบัญญัติซึ่งบังคับให้โจทก์ต้องพิสูจน์ความจงใจหรือประมาทเลินเล่อจำเลยออกไปแล้ว แต่โจทก์ก็ยังคงต้องพิสูจน์ว่าสินค้าที่พิพาทนั้นมีความชำรุดบกพร่องอยู่ดี ประการนี้นำมาสู่ประเด็นปัญหาที่ว่าบทบัญญัติกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในปัจจุบันเอื้อต่อการพิสูจน์ดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากอุทาหรณ์เกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดกับรถยนต์ ซึ่งเอกสารภายในของผู้ผลิตรถยนต์มีส่วนสำคัญมากต่อการพิสูจน์ความบกพร่องในการออกแบบรถยนต์ การนี้ทำให้เห็นว่าโจทก์จะมีความยากลำบากในการเรียกพยานเอกสารในกระบวนการพิสูจน์ความชำรุดบกพร่องไม่น้อย
นอกเหนือจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ยังมีบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาแพ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการได้มาซึ่งเอกสารการพิสูจน์ความชำรุดบกพร่องอื่น ๆ อีก ได้แก่ มาตรา 196 และ 220 ซึ่งปกป้องการได้มาซึ่งเอกสารที่มีข้อมูลอันเป็นความลับทางการค้าของปัจเจกชน ทั้งนี้ ความพยายามในการขยายขอบเขตการเรียกพยานเอกสารให้ครอบคลุมกรณีเหล่านี้โดยความเห็นของคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (the Justice Reform Council) ในปี ค.ศ. 2001 ก็ยังไม่สามารถขจัดปัญหาเหล่านี้ไปได้
บทความนี้นำเสนอความจำเป็นในการแก้ไขเพิ่มเติมและขยายขอบเขตของการเรียกพยานเอกสารในข้อพิพาทเกี่ยวกับสินค้าไม่ปลอดภัยข้างต้น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 196 และ 220 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาแพ่ง โดยความคิดเห็นที่โต้แย้งแนวคิดดังกล่าว ได้แก่ ความพยายามจำกัดบทบาทหน้าที่ของผู้พิพากษาอันเป็นผลมาจากนิติวิธีในระบบกฎหมายซีวิลลอว์ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากระบบกฎหมายโรมัน และการจำกัดขอบเขตในการอนุญาตให้คู่ความเข้าถึงเอกสารของผู้อื่นได้ ตลอดจนความกังวลว่าการเข้าถึงเอกสารเช่นนี้จะก่อให้เกิดการใช้สิทธิโดยไม่ชอบเพื่อเข้าถึงเอกสาร ดังที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเหมือนในประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเห็นว่าข้อกังวลเหล่านี้เป็นข้อกังวลที่พอรับมือได้
ประสบการณ์จากประเทศอเมริกาบ่งชี้ว่าการใช้สิทธิโดยมิชอบเพื่อเข้าถึงเอกสารของผู้อื่นเช่นนี้เป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้ ทั้งนี้ โดยความร่วมมือกันระหว่างศาลและสภาวิชาชีพนักกฎหมาย อาทิ การให้อำนาจศาลในการกำหนดสภาพบังคับอย่างจริงจัง ทั้งการกำหนดความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลและความผิดลหุโทษอื่น ๆ เพื่อลงโทษการใช้สิทธิโดยมิชอบเพื่อเข้าถึงเอกสารของผู้อื่น ส่วนสภาวิชาชีพนักกฎหมายนั้นก็ต้องมีความตื่นตัวในการกำหนดสภาพบังคับในทางวิชาชีพต่อนักกฎหมายที่ใช้สิทธิโดยมิชอบเพื่อเข้าถึงเอกสารของผู้อื่นตามที่ศาลสั่งด้วย
Article Details
ลิขสิทธิ์และเนื้อหาในเว็บไซต์ของวารสารกฎหมาย (รวมถึง โดยไม่จำกัดเฉพาะ เนื้อหา รหัสคอมพิวเตอร์ งานศิลป์ ภาพถ่าย รูปภาพ ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ) เป็นกรรมสิทธิ์ของวารสารกฎหมาย และผู้ได้รับการโอนสิทธิทุกราย
1. วารสารกฎหมาย ให้อนุญาตให้คุณใช้สิทธิอันไม่เฉพาะเจาะจงที่สามารถถูกถอนเมื่อใดก็ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในการ
- เยี่ยมชมเว็บไซต์และเอกสารในเว็บไซต์นี้ จากคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือสื่อสารผ่านเว็บบราวเซอร์
- คัดลอกและจัดเก็บเว็บไซต์และเอกสารในเว็บไซต์นี้บนลงคอมพิวเตอร์ของคุณผ่านระบบความจำ cache
- สั่งพิมพ์เอกสารจากเว็บไซต์นี้สำหรับการใช้ส่วนตัวของคุณ
- ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์โดยวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกคุ้มครองภายใต้ Creative Commons Attribution 4.0 International License ซึ่งอนุญาตให้ทุกคนสามารถคัดลอก แจกจ่าย ดัดแปลง ส่งต่อ ผลงานได้ ก็ต่อเมื่อผลงานและแหล่งข้อมูลได้รับการอ้างอิงอย่างเหมาะสม
2. วารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้คุณใช้สิทธิอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์และเอกสารบนเว็บไซต์นี้ เช่น การคัดลอก ดัดแปลง เปลี่ยนแปลง ส่งต่อ ตีพิมพ์ แจกจ่าย เผยแพร่ จัดแสดงในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม ซึ่งเว็บไซต์หรือเอกสารบนเว็บไซต์ โดยไม่อ้างอิงถึงแหล่งข้อมูลหรือโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3. คุณอาจขออนุญาตที่จะใช้เอกสารอันมีลิขสิทธิ์บนเว็บไซต์นี้โดยการเขียนอีเมลล์มายัง journal@law.chula.ac.th
4. วารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้มงวดกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์อย่างมาก หากวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่าคุณได้ใช้เอกสารอันมีลิขสิทธิ์บนเว็บไซต์นี้โดยไม่ถูกต้องตามการอนุญาตให้ใช้สิทธิ ดังที่กล่าวไปข้างต้น วารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอาจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อคุณได้ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่เป็นตัวเงินและคำขอชั่วคราวให้คุณหยุดการใช้เอกสารดังกล่าว ทั้งนี้ คุณอาจถูกสั่งให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายนี้
หากคุณพบเห็นการใช้เอกสารอันมีลิขสิทธิ์ของวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขัดหรืออาจขัดต่อการอนุญาตให้ใช้สิทธิดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น โดยเชื่อว่าได้ละเมิดลิขสิทธิ์ของคุณหรือของผู้อื่น สามารถร้องเรียนมาได้ที่ journal@law.chula.ac.th