มาตรการทางกฎหมายคุ้มครองลูกจ้างหญิงหลังคลอด : ศึกษากรณีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
Main Article Content
บทคัดย่อ
ช่วงเวลานับแต่ตั้งครรภ์ไปจนถึงช่วงเวลาหลังคลอดเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของผู้กำลังก้าวเข้าสู่บทบาทการเป็นมารดา โดยเฉพาะช่วงระยะหลังคลอดหญิงต้องเผชิญกับภาวะการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพร่างกายอย่างรวดเร็ว ประกอบกับแรงกดดันทางสังคมจากคนใกล้ชิด และภาระหน้าที่ในสถานที่ทำงาน ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์ขณะกำลังปรับตัวดำรงบทบาทมารดา ปัญหาที่พบเจอบ่อยครั้งในกลุ่มมารดาที่ต้องทำงานในโลกปัจจุบัน คือ ปัญหาภาวะซึมเศร้าหลังคลอด จากการศึกษากฎหมายของประเทศไทยเฉพาะในภาคเอกชน พบว่ายังคงมีข้อบกพร่องในประเด็นปัญหาข้อกฎหมายที่สำคัญเกี่ยวกับสิทธิและความคุ้มครองแรงงานแก่กลุ่มลูกจ้างที่เป็นมารดา ดังนี้ ประการแรกเรื่องสิทธิวันลาคลอดบุตร ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดมีความเคร่งครัดมากเกินไป ประการที่สองเรื่องค่าตอบแทนช่วงวันลาคลอด กฎหมายจำกัดรายละเอียดเรื่องระยะเวลาการจ่าย และประการที่สามเรื่องสิทธิในการพักให้นมระหว่างวันของมารดา ยังไม่มีกฎหมายในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด โดยศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญ คือ อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานหญิงเกี่ยวกับสิทธิความเป็นมารดาและการคลอดบุตร ค.ศ.2000 และกฎหมายต่างประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐสโลวัก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และประเทศสหรัฐอเมริกา มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีทั้งประเทศที่เข้าเป็นภาคีสมาชิกและไม่ได้เข้าเป็นภาคีสมาชิกแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานหญิงเกี่ยวกับสิทธิความเป็นมารดาและการคลอดบุตร ค.ศ.2000 ดังนั้น บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอแนวแนวทางแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานของไทย เพื่อมุ่งหมายที่จะพัฒนาข้อกฎหมายให้สิทธิและความคุ้มครองลูกจ้างที่เป็นมารดาได้อย่างครอบคลุม และชัดเจนมากขึ้นกว่าที่มีอยู่
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์และเนื้อหาในเว็บไซต์ของวารสารกฎหมาย (รวมถึง โดยไม่จำกัดเฉพาะ เนื้อหา รหัสคอมพิวเตอร์ งานศิลป์ ภาพถ่าย รูปภาพ ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ) เป็นกรรมสิทธิ์ของวารสารกฎหมาย และผู้ได้รับการโอนสิทธิทุกราย
1. วารสารกฎหมาย ให้อนุญาตให้คุณใช้สิทธิอันไม่เฉพาะเจาะจงที่สามารถถูกถอนเมื่อใดก็ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในการ
- เยี่ยมชมเว็บไซต์และเอกสารในเว็บไซต์นี้ จากคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือสื่อสารผ่านเว็บบราวเซอร์
- คัดลอกและจัดเก็บเว็บไซต์และเอกสารในเว็บไซต์นี้บนลงคอมพิวเตอร์ของคุณผ่านระบบความจำ cache
- สั่งพิมพ์เอกสารจากเว็บไซต์นี้สำหรับการใช้ส่วนตัวของคุณ
- ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์โดยวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกคุ้มครองภายใต้ Creative Commons Attribution 4.0 International License ซึ่งอนุญาตให้ทุกคนสามารถคัดลอก แจกจ่าย ดัดแปลง ส่งต่อ ผลงานได้ ก็ต่อเมื่อผลงานและแหล่งข้อมูลได้รับการอ้างอิงอย่างเหมาะสม
2. วารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้คุณใช้สิทธิอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์และเอกสารบนเว็บไซต์นี้ เช่น การคัดลอก ดัดแปลง เปลี่ยนแปลง ส่งต่อ ตีพิมพ์ แจกจ่าย เผยแพร่ จัดแสดงในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม ซึ่งเว็บไซต์หรือเอกสารบนเว็บไซต์ โดยไม่อ้างอิงถึงแหล่งข้อมูลหรือโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3. คุณอาจขออนุญาตที่จะใช้เอกสารอันมีลิขสิทธิ์บนเว็บไซต์นี้โดยการเขียนอีเมลล์มายัง journal@law.chula.ac.th
4. วารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้มงวดกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์อย่างมาก หากวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่าคุณได้ใช้เอกสารอันมีลิขสิทธิ์บนเว็บไซต์นี้โดยไม่ถูกต้องตามการอนุญาตให้ใช้สิทธิ ดังที่กล่าวไปข้างต้น วารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอาจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อคุณได้ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่เป็นตัวเงินและคำขอชั่วคราวให้คุณหยุดการใช้เอกสารดังกล่าว ทั้งนี้ คุณอาจถูกสั่งให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายนี้
หากคุณพบเห็นการใช้เอกสารอันมีลิขสิทธิ์ของวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขัดหรืออาจขัดต่อการอนุญาตให้ใช้สิทธิดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น โดยเชื่อว่าได้ละเมิดลิขสิทธิ์ของคุณหรือของผู้อื่น สามารถร้องเรียนมาได้ที่ journal@law.chula.ac.th