การปรับใช้หลักการหน่วยทางเศรษฐกิจเดียวกัน ตามพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560
Main Article Content
บทคัดย่อ
หลักการหน่วยเศรษฐกิจเดียวกัน เป็นหลักการพื้นฐานหลักการหนึ่งในกฎหมายการแข่งขันทางการค้า โดยที่หลักการหน่วยเศรษฐกิจเดียวกัน คือ หลักการที่ใช้ในการพิจารณาความสัมพันธ์ของบุคคลหรือนิติบุคคลหลายรายที่มีสถานะทางกฎหมายแยกต่างหากจากกัน ถ้าหากพบว่าบุคคลหรือนิติบุคคลเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กันในลักษณะที่ฝ่ายหนึ่งมีอิทธิพลเด็ดขาดต่อการตัดสินใจดำเนินธุรกิจของอีกฝ่ายหนึ่ง เช่นนี้ หลักการดังกล่าวจะถือว่าบุคคลหรือนิติบุคคลหลายรายนั้นมีสถานะเป็นหน่วยธุรกิจเดียวกันหรือเป็นผู้ประกอบธุรกิจรายเดียวกัน ขึ้นอยู่กับกฎหมายการแข่งขันทางการค้าของแต่ละประเทศ ซึ่งการศึกษาพบว่าแต่ละประเทศนั้นมีแนวทางการกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาความเป็นผู้ประกอบธุรกิจรายเดียวกันตามหลักการนี้ และมีขอบเขตการปรับใช้หลักการดังกล่าวกับบทบัญญัติของกฎหมายการแข่งขันทางการค้าที่แตกต่างกัน
การปรับใช้หลักการหน่วยเศรษฐกิจเดียวกันอย่างถูกต้องและเหมาะสม ช่วยส่งเสริมให้การบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้านั้นเป็นอย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ โดยเมื่อพิจารณาจากพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 แล้ว พบว่าหลักเกณฑ์การพิจารณาการเป็นหน่วยธุรกิจเดียวกันภายใต้หลักการหน่วยเศรษฐกิจเดียวกันตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้าของประเทศไทยนั้น มีลักษณะที่ชัดเจนซึ่งสอดคล้องกับการที่บทบัญญัติบางประการนั้นมีโทษทางอาญา แต่หลักเกณฑ์ดังกล่าวยังไม่สะท้อนอำนาจในการควบคุมการประกอบธุรกิจในบางกรณี อีกทั้งขอบเขตการปรับใช้หลักการหน่วยเศรษฐกิจเดียวกันโดยคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้านั้นยังมีความจำกัด ส่งผลให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 อาจเป็นไปโดยลำบาก จึงควรมีการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์และพิจารณาตีความขยายขอบเขตการปรับใช้หลักการนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ของกฎหมาย
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์และเนื้อหาในเว็บไซต์ของวารสารกฎหมาย (รวมถึง โดยไม่จำกัดเฉพาะ เนื้อหา รหัสคอมพิวเตอร์ งานศิลป์ ภาพถ่าย รูปภาพ ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ) เป็นกรรมสิทธิ์ของวารสารกฎหมาย และผู้ได้รับการโอนสิทธิทุกราย
1. วารสารกฎหมาย ให้อนุญาตให้คุณใช้สิทธิอันไม่เฉพาะเจาะจงที่สามารถถูกถอนเมื่อใดก็ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในการ
- เยี่ยมชมเว็บไซต์และเอกสารในเว็บไซต์นี้ จากคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือสื่อสารผ่านเว็บบราวเซอร์
- คัดลอกและจัดเก็บเว็บไซต์และเอกสารในเว็บไซต์นี้บนลงคอมพิวเตอร์ของคุณผ่านระบบความจำ cache
- สั่งพิมพ์เอกสารจากเว็บไซต์นี้สำหรับการใช้ส่วนตัวของคุณ
- ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์โดยวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกคุ้มครองภายใต้ Creative Commons Attribution 4.0 International License ซึ่งอนุญาตให้ทุกคนสามารถคัดลอก แจกจ่าย ดัดแปลง ส่งต่อ ผลงานได้ ก็ต่อเมื่อผลงานและแหล่งข้อมูลได้รับการอ้างอิงอย่างเหมาะสม
2. วารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้คุณใช้สิทธิอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์และเอกสารบนเว็บไซต์นี้ เช่น การคัดลอก ดัดแปลง เปลี่ยนแปลง ส่งต่อ ตีพิมพ์ แจกจ่าย เผยแพร่ จัดแสดงในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม ซึ่งเว็บไซต์หรือเอกสารบนเว็บไซต์ โดยไม่อ้างอิงถึงแหล่งข้อมูลหรือโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3. คุณอาจขออนุญาตที่จะใช้เอกสารอันมีลิขสิทธิ์บนเว็บไซต์นี้โดยการเขียนอีเมลล์มายัง journal@law.chula.ac.th
4. วารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้มงวดกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์อย่างมาก หากวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่าคุณได้ใช้เอกสารอันมีลิขสิทธิ์บนเว็บไซต์นี้โดยไม่ถูกต้องตามการอนุญาตให้ใช้สิทธิ ดังที่กล่าวไปข้างต้น วารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอาจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อคุณได้ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่เป็นตัวเงินและคำขอชั่วคราวให้คุณหยุดการใช้เอกสารดังกล่าว ทั้งนี้ คุณอาจถูกสั่งให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายนี้
หากคุณพบเห็นการใช้เอกสารอันมีลิขสิทธิ์ของวารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขัดหรืออาจขัดต่อการอนุญาตให้ใช้สิทธิดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น โดยเชื่อว่าได้ละเมิดลิขสิทธิ์ของคุณหรือของผู้อื่น สามารถร้องเรียนมาได้ที่ journal@law.chula.ac.th