ขอบเขตความรับผิดทางอาญาตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

Main Article Content

ตรีภพ โสวรรณรัตน์

บทคัดย่อ

การฟอกเงิน คือ การนำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด มาเปลี่ยนสภาพให้เป็นเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาอย่างถูกต้อง ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อวงการธุรกิจและสังคม ตลอดจนเศรษฐกิจของประเทศ รัฐจึงต้องกำหนดให้การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดเพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรม อย่างไรก็ดีการดำเนินคดีอาญาฟอกเงินกลับมีจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับการดำเนินมาตรการทางแพ่งเกี่ยวกับการฟอกเงิน ทั้ง ๆ ที่ ลักษณะในการดำเนินมาตรการทางแพ่ง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต้องเข้าไปข้องเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และย่อมต้องคาดเห็นถึงผู้ที่อาจเป็นผู้กระทำความผิดฐานฟอกเงินได้ โดยสาเหตุส่วนหนึ่งของปัญหาการบังคับใช้ความผิดฐานฟอกเงินเป็นจำนวนน้อย อาจเป็นเพราะการขาดความรู้ความเข้าใจรูปแบบของการฟอกเงินที่บัญญัติเป็นความผิดอาญา รวมถึงปัญหาความไม่ชัดเจนของบทบัญญัติความผิดฐานฟอกเงิน ว่าควรตีความกว้างแค่ไหน อย่างไร


ด้วยเหตุนี้ บทความนี้จึงมุ่งที่จะศึกษาขอบเขตของความผิดตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยศึกษาปัญหาในการบังคับใช้ ศึกษาแนวความคิดและเจตนารมณ์ในการบัญญัติความผิดฐานฟอกเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดตามมาตรา 5 (3) และนิยามของทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ตามมาตรา 3 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542ที่แก้ไขเพิ่มเติมเมื่อปี พ.ศ. 2558 และวิเคราะห์ขอบเขตการบังคับใช้และการบัญญัติความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรฐานสากล รวมถึงแสวงหาขอบเขตที่เหมาะสมในการบังคับใช้และบัญญัติความผิดฐานฟอกเงินของประเทศไทย เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย