ทิศทางการเปลี่ยนแปลงสู่ระเบียบภาษีโลกใหม่ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

Main Article Content

ธิดาพร ศิริถาพร

บทคัดย่อ

การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในหลายด้านอย่างฉับพลัน (disruptive technology) ทำให้โลกก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล (digital economy) อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นแกนหลักที่ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ พัฒนาการของระบบเศรษฐกิจดิจิทัลดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมอย่างกว้างขวางในหลากหลายมิติ รวมถึงมิติของการจัดเก็บภาษีอากร จึงทำให้เกิดประเด็นว่าหลักการจัดเก็บภาษีอากรที่ใช้อยู่ในปัจจุบันในประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีจากกิจการข้ามชาติ มีลักษณะที่ล้าสมัย และไม่สามารถรองรับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน (disruptive environment) ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้ ดังนั้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจึงเกิดกระแสการปฏิรูปหลักการภาษีอากร (tax reform) ขึ้นทั่วโลก เพื่อให้การจัดเก็บภาษีอากรในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นไปอย่างเหมาะสม งานวิจัยนี้จึงมุ่งศึกษาถึงกระแสการปฏิรูปหลักการภาษีอากรดังกล่าวที่ทำให้เกิดการบูรณาการด้านภาษี (tax harmonisation) ทั้งนี้เมื่อศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงด้านภาษีที่เกิดขึ้นทั้งในระดับประเทศ (national level) ระดับภูมิภาค (regional level) และระดับสากล (global level) แล้วพบว่ากระแสการปฏิรูปและการบูรณาการดังกล่าวมีทิศทางการเปลี่ยนแปลงเป็นวิถีสู่ระเบียบภาษีโลกใหม่ (new world tax order) ที่มุ่งสร้างปทัสถานสากลด้านภาษี (global tax norms) มารองรับการจัดเก็บภาษีอากรในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลให้เป็นไปอย่างสอดคล้องและเหมาะสม งานวิจัยนี้ได้ทำการวิเคราะห์ทิศทางการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และได้นำเสนอว่าถึงแม้กระแสการปฏิรูปและการบูรณาการด้านภาษีดังกล่าวจะมีวิถีแห่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระเบียบภาษีโลกใหม่ แต่ก็ยังพัฒนาไปไม่ถึงขั้นการกำหนดหลักเกณฑ์ที่บังคับใช้ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างเป็นเอกรูป (unification) ผ่านองค์กรเหนือรัฐ (supranationalism) ทั้งนี้ทิศทางการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันยังคงอยู่ในลักษณะของความร่วมมือระหว่างรัฐ (intergovernmental approach) ที่มีมาตรการบูรณาการที่เกี่ยวข้องหลายระดับขั้นการบูรณาการ (degree) ทั้งในรูปแบบทวิภาคี (bilateral approach) และรูปแบบพหุภาคี (multilateral approach) โดยดำเนินไปแบบผสมผสานควบคู่กับการใช้มาตรการฝ่ายเดียว (unilateral approach) โดยอาศัยเครื่องมือการบูรณาการทั้งที่อยู่ในรูปแบบ “ไม้แข็ง” ที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย (hard law) และในรูปแบบ “ไม้นวม” ที่ไม่ได้มีผลผูกพันทางกฎหมาย (soft law) ทั้งนี้แนวทางการบูรณาการระเบียบภาษีโลกใหม่จะเน้นให้ความสำคัญกับมาตรการแบบพหุภาคี (multilatearl approach) มากกว่ายุคดั้งเดิมอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้งานวิจัยนี้ได้นำเสนอว่าทิศทางการเปลี่ยนแปลงสู่ระเบียบภาษีโลกใหม่จากกระแสปฏิรูปและการบูรณาการด้านภาษีดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเขตอำนาจรัฐในการจัดเก็บภาษี (tax jurisdiction) รวมถึงอำนาจอธิปไตยของรัฐในการจัดเก็บภาษี (national tax sovereignty) ด้วย ซึ่งอาจก่อให้เกิดทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนอันนำไปสู่ปัญหาอุปสรรคและโอกาสที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ จึงควรศึกษาวิจัยสืบเนื่องต่อไปในอนาคต

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย