การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมและการสอนภาษาอังกฤษสำหรับครูผู้สอนช่วงชั้นที่ 2 ในจังหวัดนครราชสีมา
คำสำคัญ:
การพัฒนาหลักสูตร, การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม, การสอนภาษาอังกฤษบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานเพื่อใช้ในการสร้างหลักสูตรฝึกอบรมการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้ Active Learning สำหรับครูผู้สอนช่วงชั้นที่ 2 ในจังหวัดนครราชสีมา 2) เพื่อสร้างหลักสูตรฝึกอบรมการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้ Active Learning สำหรับครูผู้สอนช่วงชั้นที่ 2 ในจังหวัดนครราชสีมา 3) เพื่อประเมินผลการใช้หลักสูตรฝึกอบรมการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้ Active Learning สำหรับครูผู้สอนช่วงชั้นที่ 2 ในจังหวัดนครราชสีมาโดยมีวิธีการดำเนินวิจัย 4 ขั้นตอน คือ 1) การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน 2) การพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรม 3) การทดลองใช้หลักสูตรฝึกอบรม และ 4) การประเมินผลการใช้หลักสูตรฝึกอบรม กลุ่มผู้เข้ารับการฝึกอบรม ได้แก่ ครูสอนภาษาอังกฤษในช่วงชั้นที่ 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 จำนวน 100 คน โดยใช้วิจัยแบบ One Group Pretest-Posttest Design โดยเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนความรู้ ความเข้าใจหลักสูตรและการสอนภาษาอังกฤษ ก่อนและหลังการฝึกอบรม และแบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อหลักสูตรการฝึกอบรม ทำการวิเคราะห์โดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test dependent) ผลการวิจัย พบว่า 1. หลักสูตรฝึกอบรมการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้ Active Learningสำหรับครูผู้สอน ประกอบด้วย จุดมุ่งหมาย เนื้อหา วิธีการฝึกอบรม อุปกรณ์และสื่อ การวัดและประเมินผล เนื้อหาหลักสูตรประกอบด้วย 1) แนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับหลักสูตร 2) แนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 3) การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้ Active Learning และ 4) การเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและตัวอย่างแผนการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ 2. ก่อนและหลังการฝึกอบรม ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ มีความรู้ ความเข้าในหลักสูตรฝึกอบรมการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้ Active Learning แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 คือ มีความรู้ ความเข้าใจดีขึ้น 3. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความคิดเห็นว่า หลักสูตรมีความเหมาะสมทุกด้านในระดับมาก (X= 19) และสามารถนำไปปรับปรุงและพัฒนาการสอนให้มีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
Carroll, B. (1974). Learning theory for the classroom teacher. In Jarvis G.A. (ed.). the challenge of communication. Illinois : National Textbook Company.
Good, C.V. (2005). Dictionary 0f Education: (Online). Accessed 15 April 2005. Available from https://www.2/current.html.
Jutamas, P., Benjamas, N., Amnat, R., Boonsin, J., & Tepin, P. (2017). Curriculum Development in English Communication Course for Community-Based Tourism in Chumphon Province. Area Based Development Research Journal, 9(1), 38-51. (in Thai)
Lamie, J.M. (2004). Presenting a model of change. Language Teaching Research, 8 (2), 115-142.
Piangchan P. (2001). The Development of Training Program on Teaching English by Using Integrated Project Work for English Primary School. Bangkok: Srinakharinwirot University. (in Thai)
Saranporn N., (2011). Using English Camp Activities to English Enhance Communicative English Speaking Abilities of Mattayomsuksa 3 Students of Princess Chulabhorn’s College Chonburi. Bangkok : Srinakharinwirot University. (in Thai)
Thongphon, P., Chidchanok, C.,& Kasetchai, L. (2017).Development Guideline for Government Units to Management of English language education in Three Southern Border Provinces. Journal of Education Prince of Songkhla University,
Pattani Campas, 28(3). 25-36. (in Thai)
Taba, H. (1962). Curriculum Development: Theory and Practice. New York: Harcourt Brace and World.
Varunee, A., (2011). Development of an English Communication Curriculum for Non-Academic Personnel of Srinakharinwirot University. Bangkok: Srinakharinwirot University. (in Thai)
Wette, R. (2009). Making the instructional curriculum as an interactive, contextualized process: Case studies of seven ESOL teachers. Language Teaching Research, 13(4), 337-365.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
"บทความวิชาการในวารสารฉบับนี้ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนเท่านั้น"
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
