การศึกษาวิธีการฝึกออกเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีนกลางให้ถูกต้อง กรณีศึกษานักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

Main Article Content

เนี่ย จิน

Abstract

ภาษาจีนและภาษาไทยต่างก็เป็นภาษาที่มีเสียงวรรณยุกต์ โดยภาษาจีนมี 4 เสียงและภาษาไทยมี 5 เสียง การออกเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีนและภาษาไทยมีทั้งความคล้ายและความต่างกัน เมื่อนักเรียนไทยเรียนเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีนมักจะได้รับอิทธิพลจากภาษาไทย โดยเสียงวรรณยุกต์ภาษาแม่ของนักเรียนไทยมีการถ่ายโอนทางลบต่อการเรียนเสียงวรรณยุกต์ในภาษาจีน ในการเรียนภาษาจีนนักเรียนไทยส่วนใหญ่สามารถแยกแยะเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีนกลางได้อย่างชัดเจน แต่เนื่องจากได้รับอิทธิผลการถ่ายโอนทางลบจากภาษาแม่ นักเรียนไทยบางคนเกิดความผิดพลาดในการออกเสียงและเสียงวรรณยุกย์จีนกลาง เมื่อเรียนวรรณยุกต์ภาษาจีนกลางจะออกเสียงวรรณยุกต์จีนเป็นวรรณยุกต์ไทยและกลายเป็นสาเนียงพิเศษของคนไทย ดังนั้นจะพัฒนาทักษะการออกเสียงภาษาจีนของนักเรียนไทยอย่างไรให้ออกเสียงได้ถูกต้อง จุดประสงค์การวิจัยของบทความนี้คือศึกษาพิจารณาว่าจะให้นักเรียนไทยเรียนรู้เสียงวรรณยุกต์จีนกลางได้อย่างถูกต้องในเวลาที่กาหนดในห้องเรียนภาษาจีนของนักเรียนชาวต่างชาติได้อย่างไร บทความนี้ใช้การวิเคราะห์ความผิดพลาดของเสียงวรรณยุกต์จีนกลาง ซึ่งก็คือการวิเคราะห์ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการเรียนรู้ภาษาที่สอง และหารู้แบบความผิดพลาดที่เกิดขึ้นของผู้เรียนรวมถึงการหาประเภทความผิดพลาดและสาเหตุที่เกิดความผิดพลาดเป็นต้น ในการวิเคราะห์ความผิดพลาดนอกจากการใช้วิธีดั้งเดิมที่ใช้การบอกระดับเสียงสูงต่า 5 ระดับเพื่อเปรียบเทียบความเหมือนความต่างของทั้งสองภาษาและ ยังใช้ทฤษฎีการรับภาษาของแครชเชน ซึ่งก็คือสมมติฐานตัวป้อน(The Input Hypothesis)เพื่อเสนอว่าจะฝึกให้นักเรียนไทยออกเสียงวรรณยุกต์อย่างถูกต้องได้อย่างไรในการเรียนภาษาที่สอง อีกทั้งยังเพิ่มความน่าสนใจในการเรียนภาษาจีนของนักเรียนไทย ข้อสรุปของบทความนี้อาศัยประสบการณ์การสอนภาษาจีนให้นักเรียนชาวต่างชาติของผู้เขียน โดยเฉพาะประสบการณ์ด้านการสอนวิชาสนทนาภาษาจีนให้นักเรียนชาวต่างชาติกว่าสิบปีของผู้เขียน

Article Details

Section
Articles
Author Biography

เนี่ย จิน

สาขาภาษาจีนธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กรุงเทพมหานคร 10240