การบริหารจัดการ การพัฒนาบุคคล และประสิทธิผลการปฏิบัติงาน ของพนักงานโรงงานอะไหล่รถยนต์

ผู้แต่ง

  • พรศักดิ์ พรสุขสว่าง -
  • ชาญเดช เจริญวิริยะกุล บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
  • สโรชินี ศิริวัฒนา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
  • สุดา สุวรรณาภิรมย์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

คำสำคัญ:

การบริหารจัดการ, การพัฒนาบุคคล, ประสิทธิผลการปฏิบัติงาน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับของการบริหารจัดการ และการพัฒนาบุคคลของพนักงานโรงงานอะไหล่รถยนต์ และ 2) เปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลของพนักงานกับประสิทธิผลการปฏิบัติงาน รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างคือ หัวหน้างานและพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ทดแทน จำนวน 400 คน ใช้วิธีคัดเลือกแบบระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ T-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว

ผลการวิจัยพบว่า 1) โรงงานอะไหล่รถยนต์มีการบริหารจัดการของโรงงานอะไหล่รถยนต์ภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านการบังคับบัญชามีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านการวางแผน ด้านการควบคุม ด้านการจัดองค์กร และด้านการประสานงาน ตามลำดับ การพัฒนาบุคคลของโรงงานอะไหล่รถยนต์ภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านความรู้มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านทักษะ ด้านวิธีการทำงาน และด้านทัศนคติ ตามลำดับ และ 2) พนักงานโรงงานอะไหล่รถยนต์ที่มีเพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน แตกต่างกัน มีประสิทธิผลการปฏิบัติงานแตกต่างกัน ข้อค้นพบจากงานวิจัยนี้ ผู้ประกอบการโรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์สามารถใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการบริหารจัดการองค์กร และการกำหนดกลยุทธ์การพัฒนาบุคคล เพื่อให้เกิดประสิทธิผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานและองค์กรมากขึ้น

References

คารมณ์ เพียรภายลุน. (2558). ความเป็นผู้บริหารมืออาชีพ. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: บี. เค. อินเตอร์ปริ้น.

บายศรี จั่นอาจ. (2563). ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนในนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดปทุมธานี (วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2559). จิตวิทยาการบริหารงานบุคคล. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.

พอพันธุ์ ยุวเกียรติกุล. (2559). การศึกษาแนวทางการบริหารจัดการการขนย้าย/เคลื่อนย้ายชิ้นส่วนและข้อมูล ด้วยระบบ MIFC. วารสารการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานรามคำแหง, 3(1), 1-15.

มยุรี วรรณสกุลเจริญ และชาญณรงค์ รัตนพนากุล. (2563). ประสิทธิผลขององค์การ. วารสารศิลปการจัดการ, 4(1), 193-204.

มารวย วิชาญยุทธนากูล. (2560). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพนักงานโรงแรมระดับ 5 ดาว (การค้นคว้าอิสระศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

วรารัตน์ ชูทอง. (2561). ปัจจัยต่อการพัฒนาศักยภาพข้าราชการศาลยุติธรรมในเขตอำนาจศาล ท้องที่จังหวัดนครศรีธรรมราช (การค้นคว้าอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

วลัยพรรณ พรไพรสาร. (2559). ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์กับประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มอะไหล่รถยนต์ จังหวัดนครราชสีมา (การศึกษาค้นคว้าอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน.

วัชระ แย้มชู. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานใหญ่ (การค้นคว้าอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเกริก.

สุกัญยา แก้วขาว, เฉลิมพงศ์ มีสมนัย และจำเนียร ราชแพทยาคม. (2561). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ของกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยธนบุรี, 12(27), 111-121.

Dubois, D. D. & Rothwell, W. J. (2004). Competency-Based Human Resource Management Palo Alto. CA: Davies - Black Publishing.

Griffin, R.W. (1999). Management (6th ed.). USA: Houghton Miffin.

Koontz, H. (1974). Principles of Management. New York: McGraw Hill.

Lawrence, P. R., & Lorsch, J. W. (1967). Organization and environment. Boston, MA: Cambridge.

Robbins, S. P., & Decenzo, D. A. (2005). Management (6th ed.). New York: Prentice Hall.

Schein, E. H. (1970). Organizational Psychology (2nd ed.). NJ: Prentice-Hall.

Yamane, T. (1973). Statistic: An Introductory Analysis. (3rd ed.). New York: Harper and Row.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-09-30