การพัฒนาโปรแกรมการเสริมสร้างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คำสำคัญ:
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21, การบริหารสถานศึกษา, โรงเรียนมัธยมศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) การศึกษาองค์ประกอบของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษ
ที่ 21 ของผู้บริหารสถานศึกษา มี 2 ขั้นตอนคือ 1.1) ศึกษาเอกสาร แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
1.2) กรณีศึกษาแบบพหุกรณี กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 3 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง 2) การสำรวจสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็น มี 2 ขั้นตอนคือ 2.1) การวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 274 คน ครูผู้สอนจำนวน 548 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 822 คน โดยใช้เกณฑ์การกำหนดขนาดตัวอย่างของ Krejcie and Morgan เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม
2.2) วิเคราะห์และจัดลำดับข้อมูล 3) สร้างโปรแกรมการเสริมสร้างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21
ของผู้บริหารสถานศึกษา มี 3 ขั้นตอนคือ 3.1) จัดทำร่างคู่มือประกอบโปรแกรม 3.2) ตรวจสอบคุณภาพร่างคู่มือ ด้วยการสนทนากลุ่มเป้าหมาย 3.3) สร้างเครื่องมือที่ใช้ประเมินกลุ่มทดลองในภาคสนาม และ 4) การทดลองใช้และประเมินผลโปรแกรม มี 4 ขั้นตอนคือ 4.1) การทดลองใช้โปรแกรมและประเมินผลกลุ่มทดลองในภาคสนาม
เป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 5 คน 4.2) สรุปผลการทดลองและปรับปรุงแก้ไขโปรแกรม 4.3) ประเมินผลโปรแกรมด้วยการประเมินอิงเกณฑ์โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบประเมิน และ
4.4) เขียนรายงานและเผยแพร่
ผลการวิจัยพบว่า
1. องค์ประกอบของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารสถานศึกษามีองค์ประกอบ 5 ด้านคือ 1) การนำและการสื่อสาร 2) การสร้างและส่งเสริมวัฒนธรรมการเปลี่ยนแปลง 3) การสร้างความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม 4) การมีวิสัยทัศน์และกำหนดเป้าหมาย และ 5) การสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้
2. สภาพปัจจุบันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด สภาพที่พึงประสงค์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และมีค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นเรียงลำดับจากค่ามากไปหาน้อยดังนี้ 1) การนำและการสื่อสาร 2) การสร้างและส่งเสริมวัฒนธรรมการเปลี่ยนแปลง 3) การสร้างความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม 4) การมีวิสัยทัศน์และกำหนดเป้าหมาย และ 5) การสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้
3. โปรแกรมการเสริมสร้างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 มีองค์ประกอบ 7 ข้อ คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการพัฒนา 4) โครงการ/กิจกรรม 5) การประเมินผล 6) โครงสร้างเวลา และ 7) สื่อ/แหล่งเรียนรู้ โดยได้นำหน่วยที่ 1 การนำและการสื่อสาร เพื่ออบรมและพัฒนาเสริมสร้างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ของผู้บริหารสถานศึกษา ควรใช้กระบวนการบริหารโปรแกรมตามวงจรคุณภาพ PDCA ในการวางแผนการอบรมและพัฒนาตามคู่มือประกอบโปรแกรม ควรมีการประยุกต์ใช้ความรู้ในภาคสนาม ด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กิจกรรมการสะท้อนผล มีการตรวจสอบและประเมินผล เพื่อการปรับปรุงและพัฒนา
4. การทดลองใช้โปรแกรมฯ ก่อนการทดลองใช้มีการปฏิบัติโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ทุกด้าน เช่นผู้บริหารสถานศึกษามีความกระตือรือร้นที่จะสร้างเจตคติที่ดีและทัศนคติเชิงบวกในการทำงาน ผู้บริหารสถานศึกษาละเว้นการวิพากษ์วิจารณ์ผู้ตามในที่สาธารณะ และผู้บริหารสถานศึกษาทำให้ผู้ตามอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เกิดความรู้สึกมั่นคงในอาชีพการงาน และหลังการทดลองใช้โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยพบว่าระดับการปฏิบัติหลังการทดลองใช้สูงกว่าก่อนการทดลองใช้
เอกสารอ้างอิง
กนกอร สมปราชญ์. (2562). ภาวะผู้นำกับคุณภาพสถานศึกษา Leadership And School Quality. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
กรรณิกา กันทำและพระครูธรรมาภิสมัย. (2561). ทักษะภาวะผู้นำในศตวรรษที่ 21 สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 12 (2), 21-27.
ดาวรุวรรณ ถวิลการ. (2562). ศาสตร์และศิลป์ทางการบริหารการศึกษา. ขอนแก่น :มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ปริญญา มีสุข. (2552). ผลของการออกแบบโปรแกรมการพัฒนาทางวิชาชีพแบบมีส่วนร่วมของครู. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พระราชบัญญัติการศึกษา พ.ศ. 2542. (19 สิงหาคม 2542). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 116 ตอนที่ 74ก, หน้า 3.
พิมพ์ศนิตา จึงสุทธิวงษ์. (2563). โปรแกรมการพัฒนาภาวะผู้นำเชิง สร้างสรรค์ สำหรับนักวิชาการศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
รัตนะ บัวสนธ์. (2563).การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วิโรจน์ สารรัตนะ. (2556). การวิจัยทางการบริหารการศึกษา แนวคิดและกรณีศึกษา. กรุงเทพฯ: ทิพยวิสุทธ์.
ศิริชัย กาญจนวาสี. (2559). การการวิจัยและพัฒนาการศึกษาไทย. วารสารศิลปากร ศึกษาศาสตร์วิจัย, 8 (2), 1-17.
สุกัญญา แช่มช้อย. (2562). การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล (School Management in Digital Era). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. ค้นเมื่อ 29 สิงหาคม 2562, จาก http://www.lampang.go.th/public60/EducationPlan2.pdf
ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580). (13 ตุลาคม 2561). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 135 ตอนที่ 82ก, หน้า 1.
อรสา มาสิงห์. (2562). การพัฒนาทักษะภาวะผู้นำในศตวรรษที่ 21 สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี, 13(2), 105.
Hoy, W.K. and Miskel, C.G. (2013). Educational administration: Theory, research, and practice. 6th ed. New York : McGraw-Hill.
Monisha Rosby. (2020). Examining Transformational Leadership and Organizational Change in High-Poverty Urban Schools (Ph.D. Dissertation, Department of Education degree, St). Thomas University.
Renae Bryant. (2017). Teacher Leader Behaviors: A Quantitative Study of A Teacher Leadership Development Academy and Teacher Leaders’ Five Practices of Exemplary Leadership Behaviors (Ph.D. Dissertation, Department of Education in Organizational Leadership). California University La Verne.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และคณาจารย์ท่านอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
