บุพปัจจัยที่ส่งผลต่อการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการขยะชุมชน ในเขตภาคตะวันออก

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับนวัตกรรมการจัดการ การสร้างความตระหนักรู้ในการบริหารจัดการขยะ การมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะและการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการขยะในภาคตะวันออก 2) ศึกษาอิทธิพลของนวัตกรรมการจัดการ การสร้างความตระหนักรู้ในการบริหารจัดการขยะ
การมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะที่มีผลต่อการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการขยะในภาคตะวันออกและ3) พัฒนาแบบจำลองการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการขยะในภาคตะวันออก งานวิจัยนี้ใช้การวิจัยแบบผสานวิธีระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ ในการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างคือสมาชิกของหน่วยงานการจัดการขยะชุมชน จำนวน 300 คน ขนาดของกลุ่มตัวอย่างกำหนดโดยใช้เกณฑ์ 20 เท่าของตัวแปรสังเกต ใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน ใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยแบบจำลองสมการโครงสร้าง ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักคือผู้นําชุมชนและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านการจัดการขยะ รวมจำนวน 20 คน ผลการวิจัยพบว่า 1) นวัตกรรมการจัดการ การสร้างความตระหนักรู้ในการบริหารจัดการขยะ การมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะอยู่ในระดับมาก และการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการขยะในภาคตะวันออก อยู่ในระดับปานกลาง  2) นวัตกรรมการจัดการ การสร้างความตระหนักรู้ในการบริหารจัดการขยะ การมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะที่มีผลต่อการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการขยะในภาคตะวันออก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3 ) แบบจำลองการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการขยะในภาคตะวันออก ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น มีชื่อว่า “The Eastern Region's Outstanding Waste Management Model” ประกอบด้วยนวัตกรรมการจัดการ การสร้างความตระหนักรู้ การมีส่วนร่วม การส่งเสริมพฤติกรรมและศักยภาพในการบริหารจัดการ นอกจากนี้ผลการวิจัยเชิงคุณภาพยังพบว่า ในการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการขยะในภาคตะวันออกนั้น หน่วยงานภาครัฐควรมีการสนับสนุนให้ชุมชนมีการวางแผนจัดการขยะอย่างถูกวิธีมีมาตรฐานตามหลักสุขอนามัย มีการใช้เครื่องคัดแยกขยะอัตโนมัติ มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการเผาขยะเพื่อผลิตพลังงาน ส่งเสริมการใช้ขยะเหลือทิ้งในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จัดการอบรมและการทำสื่อประชาสัมพันธ์ การสื่อสารเชิงรณรงค์ในการให้ความรู้ในโรงเรียนและประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้และซึมซับความรู้เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุดผลของงานวิจัยนี้สามารถนำไปเป็นแนวทางกำหนดนโยบายในการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการขยะในภาคตะวันออกอย่างยั่งยืนในอนาคต