การประยุกต์ใช้สภาวะความเชื่อในอุดมคติตามหลักโหราศาสตร์ในการเมืองไทย
คำสำคัญ:
สภาวะความเชื่อในอุดมคติ, โหราศาสตร์, การเมืองไทยบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) แนวคิดสภาวะความเชื่อในอุดมคติด้านโหราศาสตร์ผ่านตำราโหราศาสตร์ไทย พ.ศ 2475-2565 กับการนำมาประยุกต์ใช้ในการเมืองไทย 2) การสื่อสารทางการเมืองของชนชั้นนำด้านโหราศาสตร์ของไทย พ.ศ 2475-2565 ในลักษณะปฏิสัมพันธ์ตัวแสดง และ 3) อิทธิพลของสภาวะความเชื่อในอุดมคติในด้านโหราศาสตร์ที่มีผลกระทบทางด้านการเมืองไทย พ.ศ 2475-2565. โดยการวิจัยเชิงคุณภาพ แบบการวิจัยเอกสาร โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลแบบการตีความ และการพรรณนาเชิงวิเคราะห์
ผลการวิจัย พบว่า 1) แนวคิดสภาวะความเชื่อ ประกอบด้วย ความเป็นมาของการศึกษาโหราศาสตร์ส่งผลให้เกิดการพัฒนาตําราที่เพียบพร้อมไปด้วยประสิทธิภาพมีความแม่นยําและเที่ยงตรงมากขึ้น ความเชื่อเรื่องของโหราศาสตร์กับชนชั้นนำทางการเมืองไทยโหราศาสตร์ยังคงมีความสำคัญในการกำหนดกฎเกณฑ์บางอย่างที่สำคัญในทางการเมือง การตีความและการประยุกต์ใช้ความเชื่อจากตำราโหราศาสตร์ไทยมาใช้ในแนวทางการเมืองการปกครอง ได้ถูกประยุกต์ ค้นพบ รวบรวมหลายยุคหลายสมัยจนเป็นตำราของโหราศาสตร์ชั้นครูที่นักโหราศาสตร์นำมาใช้ในการเมืองไทย 2) การสื่อสารทางการเมือง ประกอบด้วย ปฏิสัมพันธ์ระหว่างชนชั้นนำกับโหรในด้านโหราศาสตร์กับการเมืองไทย ชนชั้นนำมีความใกล้ชิดกับโหรและมีความสัมพันธ์ในการขอรับคำปรึกษาทางการเมืองตามความเชื่อส่วนบุคคล ปฏิสัมพันธ์ระหว่างชนชั้นนำกับโหรในต่างประเทศด้านการเมืองคำทำนายของโหรในต่างประเทศชื่อดังมีผลกระทบให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง ปฏิสัมพันธ์ระหว่างโหรกับสื่อมวลชนและประชาชนในด้านโหราศาสตร์ทางการเมืองสื่อมวลชนเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการเผยแพร่คำพยากรณ์ผ่านพื้นที่สื่อ และ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างโหรกับพรรคการเมือง มีความสัมพันธ์กันในลักษณะที่โหรให้คำปรึกษาทางโหราศาสตร์ให้กับพรรคการเมือง และ 3) อิทธิพลของสภาวะความเชื่อ ประกอบด้วย (1) โหราศาสตร์กับการรัฐประหารทางการเมืองไทยมีความสัมพันธ์กันด้านการให้ฤกษ์ในการรัฐประหาร (2) โหราศาสตร์กับการกำหนดพิธีการที่สำคัญทางศาสนาโดยมีลักษณะของคำนวณการโคจรของดวงดาวเพื่อการทำนาย ซึ่งมีความสำคัญต่อการเมืองการปกครอง (3) บทบาทของโหรในทางโหราศาสตร์ที่สำคัญ คือ ด้านการเป็นที่ปรึกษาและนายพิธี และ (4) อิทธิพลความเชื่อของโหราศาสตร์ไทย มี 4 ด้านที่ส่งผลกระทบด้านการเมืองไทยมีมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
เอกสารอ้างอิง
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. (2561). การคิดเชิงประยุกต์. กรุงเทพฯ: Success Publisher.
ขวัญเรือน พันธ์พีระพิชย์ และ พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างโหราศาสตร์กับการทำรัฐประหารในการเมืองไทย. วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์, 4(2), 115-132.
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ (2552). หนึ่งศตวรรษ: รัฐธรรมนูญและรัฐประหารกับการเมืองสยามประเทศไทยจากกบฏ ร.ศ. 130 ถึงรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 หรือประชาธิปไตยกับอำมาตยาธิปไตย. กรุงเทพฯ: มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์.
เทพย์ สาริกบุตร. (2511). โหราศาสตร์ปริทรรศน์ ภาค 1. กรุงเทพฯ: เกษมบรรณกิจ.
เทพย์ สาริกบุตร. (2513). โหราศาสตร์ปริทรรศน์ (จันทรวินิจฉัย ฉบับมาตรฐาน). กรุงเทพฯ: อุตสาหกรรม.
ประยูร พลอารีย์. (ม.ป.ป.). คัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ. กรุงเทพฯ: โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ.
พระครูสุภัทรวชิรานุกูลและคณะ. (2563). การประยุกต์ ใช้หลักโหราศาสตร์ตามแนวพระพุทธศาสนา. วารสารพุทธศาสตร์ศึกษา, 11(2), 410-426.
รุจิกาญจน์ สานนท์ และคณะ. (2560). การบูรณาการโหรา ศาสตร์กับจิตวิทยาให้คําปรึกษาในประเทศไทยวารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์, 7(3), 1-15.
เว็บโหรเลขศาสตร์มาตรฐาน. (2567). โหราศาสตร์คืออะไร. ค้นเมื่อ 5 มกราคม 2567, จาก https://www.mahamongkol .com/content.php?id=418
สรชัย ศรีนิศานต์สกุล. (2563). อิทธิพลของโหราศาสตร์ในสังคมและการเมืองไทย (รายงานผลการวิจัย). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
สาคร สังฆะณา. (2557). การศึกษาการพยากรณ์กับการให้คำปรึกษาเชิงพุทธ เพื่อบำบัดความเครียดของผู้มารับบริการจากสมาคมโหรภาคเหนือ. Rajabhat Chiang Mai Research Journal, 15(1), 137-145.
สิงห์โต สุริยาอารักษ์. (2511). แนะนำการศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยเบื้องต้น ผูกดวงชาตาพยากรณ์. กรุงเทพฯ: สุขสะอาด.
สุพัตรา สุภาพ. (2518). สังคมและวัฒนธรรมไทย. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพาณิช.
อรอนงค์ อิงชำนิ. (2566). การตีความและสื่อความหมายในบทเพลงไทย. Journal of Roi Kaensarn Academi, 8(11), 363–380.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และคณาจารย์ท่านอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
