แนวทางการพัฒนาการจัดการแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย

Abstract

การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงบรรยายมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาในการจัดการแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยและเพื่อนำเสนอแนวทางการจัดการแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วยผู้บริหารสถานศึกษา 3 คน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 9 คน ครูตัวแทนจากแต่ละกลุ่มสาระ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 42 คน รวม 60 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามสภาพปัจจุบันและปัญหาในการจัดการแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย แบบประเมินความเหมาะสมของแนวทางการพัฒนาการจัดการแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย และแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า 1) โดยภาพรวมการจัดการแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมากเช่นเดียวกัน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสภาพปัจจุบันน้อยที่สุดและมีปัญหามากที่สุดคือ ด้านการจัดทำแผนพัฒนา (= 3.62, S.D = 0.97) 2) แนวทางการจัดการแหล่งเรียนรู้ของโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยได้แก่ ผู้บริหารควรส่งเสริมการจัดทำแผนพัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ควรจัดกิจกรรมบูรณาการ การใช้แหล่งเรียนรู้ควบคู่ไปกับการเรียนการสอน โดยผู้บริหารควรนำกระบวนการบริหารคุณภาพตามวงจรเดมมิ่ง (PDCA) ซึ่งประกอบด้วย การวางแผน (Plan) การดำเนินงานตามแผน (Do) การตรวจสอบ (Check) การพัฒนาปรับปรุง (Action) มาใช้ในกระบวนการ การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ ในทุก ๆ ด้านคือ การจัดทำแผนพัฒนา การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ การมีส่วนร่วม การสร้างเครือข่ายแหล่งเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยีในการบริหาร งานสถิติการใช้บริการและการเข้าร่วมกิจกรรม และการประเมินผลการบริหารจัดการและการดำเนินการ

This was a descriptive research study. The purpose was to study the state and problems for the learning resource management of Rittiyawannalai School, and also to propose approaches for developing the learning resource management of Rittiyawannalai School. Partcipaints Included three school directors, nine heads of subject, and 42 teacher representatives from each group totaling 60 respondents. The research tool was a six-rating scaled questionnaire, a five-rating scaled appropriateness of evaluation form, and semi-structured interviews. Data were analyzed by frequency, percentage, average, standard deviation and content analysis.

The research results were as follows: 1) The management of learning resource management at Rittiyawannalai School was found in all seven aspects at a high level; the lowest mean score and highest problems found were for project planning ( = 3.62, S.D = 0.91). 2) The approaches were as follows: learning resources development, in which the administrators should develop planning for learning resources to operate with a systematic plan that corresponds to learning resource objectives that should raise learning quality both inside and outside the school, to enhance learning resources integrated with teaching and learning, management of learning resources by the PDCA cycle (Plan-Do-Check-Act): (Plan) planning for learning resources improvement, (Do) Improve the quality the action plan such as to create communication and public relations, to create participation and networks of learning resources, to usage statistics and participating, (Check) To check for Improvement and summary of the Improvement to development planning, and (Action) if the solution was successful, evaluating and implementing it.