การออกแบบสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ในห้องกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนประถมศึกษา DESIGNING THE LEARNING ENVIRONMENT IN THE LEARNING ACTIVITY ROOM BASED ON CONSTRUCTIONISM TO ENHANCE INSTRUCTIONAL M

Abstract

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่สนับสนุนการเรียนรู้ตามแนวคิด คอนสตรัคชั่นนิสซึ่มในโรงเรียนระดับประถมศึกษาและนาเสนอสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ของห้องกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดคอนสตรัคชั่นนิสซึ่มในโรงเรียนระดับประถมศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษาได้แก่ ครูในโรงเรียนประถมศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ด้านสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ เทคโนโลยีการศึกษา และการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม จานวน 19 ท่าน โดยใช้เทคนิควิธี การวิจัยแบบเดลฟาย รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจานวน 3 รอบ เกี่ยวกับองค์ประกอบด้านสภาพแวดล้อม 5 ด้าน ได้แก่ ลักษณะและขนาดของห้องกิจกรรมการเรียนรู้ อุปกรณ์และสื่อประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ครุภัณฑ์ ระบบไฟฟ้าและระบบปรับอากาศภายในห้องกิจกรรมการเรียนรู้ และการจัดการพื้นที่ภายในห้องกิจกรรมการเรียนรู้

ผลการวิจัยพบว่า 1.จากการศึกษาห้องเรียนที่จัดการสอนตามแนวคิดคอนสตรัคชั่นนิสซึ่ม ส่วนใหญ่มีพื้นที่กิจกรรม และเน้นกิจกรรมแบบกลุ่ม จัดกิจกรรมเชื่อมโยงความสัมพันธ์ด้วยแผนผังความคิด 2.ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นสอดคล้องกับข้อความ 149 ข้อ จาก 188 ข้อ สรุปได้ว่าห้องกิจกรรมการเรียนรู้เป็นพื้นเรียบทาด้วยไม้ขัดเงา ขนาดกว้าง 9 เมตร ยาว 12 เมตร แบ่งพื้นที่เป็น 7 ส่วนคือ พื้นที่กิจกรรม พื้นที่สืบค้น พื้นที่นาเสนอผลงานและแลกเปลี่ยนความคิด พื้นที่ประชุมกลุ่มย่อย มุมให้คาปรึกษา มุมแสดงผลงานและบอร์ดให้ความรู้ และพื้นที่จัดเก็บอุปกรณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้เรียนเป็นลักษณะที่รวมจอภาพกับเคสไว้ด้วยกัน อัตราส่วนของนักเรียนต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เท่ากับ 5:1 ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย อุปกรณ์และสื่อการสอนประกอบด้วยกระดานไวท์บอร์ด โทรทัศน์ กระดานอัจฉริยะ ลักษณะโต๊ะทากิจกรรมของผู้เรียนเป็นโต๊ะญี่ปุ่น ทรงกลม

The purpose of this research was to study the learning environment based on constructionism to enhance instructional management of elementary schools, and to demonstrate the learning environment in the learning activity room based on constructionism to enhance instructional management of elementary schools. The sample consisted of nineteen experts. The methodology used was the Delphi technique. The data were collected by survey instrument and three rounds of Delphi instruments regarding five physical environment factors that should include the feature and size of the room, instructional media, durable articles, electrical systems, air conditioning systems and space management.

The results indicated that: 1. the learning environment was based on constructionism to enhance instructional management, mostly consisting of activity areas and focus group activities, and activities relating to mind mapping. 2. Panelist consensus was obtained for 149 of the original 188 Delphi items. The learning activity room should have a level floor made of polished wood and the room size should be 9x12 meters. Seven zones in the activity room should include an activity area, investigation area, presentation and sharing area, meeting area, counselor area, exhibition corner and bulletin board and storage. Student’s computers should be all-in-one personal computers. The number of students per computer should be 5:1 and should have access to a wireless LAN system; Instructional media should include a whiteboard, television, and interactive board. The activity table should be a sphere-shaped Japanese style table.