การศึกษาการบริหารการศึกษาของโรงเรียนรัฐบาลที่มีเด็กต่างด้าวระดับประถมศึกษา กรณีศึกษา โรงเรียนที่เป็นเลิศ : โรงเรียนวัดศิริมงคล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบริหารการศึกษาสู่ความเป็นเลิศ (Best Practice) ของโรงเรียนวัดศิริมงคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.ศึกษาสภาพและปัญหาการบริหารการศึกษาของโรงเรียนรัฐบาลที่มีเด็กต่างด้าวระดับประถมศึกษา 2. เพื่อศึกษาแนวทางในการบริหารการศึกษาสู่ความเป็นเลิศ (Best Practice)

          ดำเนินการวิจัยโดยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการสังเกต การสัมภาษณ์บุคคล ได้แก่ ผู้บริหาร ครู และผู้ปกครองนักเรียน ศึกษาข้อมูลจากเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประเด็นที่ทำการศึกษา ประกอบด้วยการบริหารการศึกษาทั้ง 4 ด้าน คือ 1. ด้านบริหารวิชาการ 2. ด้านบริหารงบประมาณ 3. ด้านบริหารงานบุคคล 4. ด้านบริหารงานทั่วไป ผลการวิจัยพบว่า โรงเรียนวัดศิริมงคลมีการบริหารเช่นเดียวกับโรงเรียนของ สพฐ.ทั่วไป แต่ประเด็นโดดเด่นที่ทำให้โรงเรียนวัดศิริมงคลมีการบริหารที่เป็นเลิศ คือ 1) ด้านบริหารวิชาการ มีการเตรียมความพร้อมด้านภาษาไทยให้นักเรียนต่างด้าวก่อนที่จะเรียนรวมกับนักเรียนไทย 2) ด้านบริหารงบประมาณ มีการวางแผนการใช้งบประมาณประจำปีไว้ล่วงหน้า มีการบริหารงบประมาณจากภาครัฐและงบประมาณพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเอกชนทั่วไป และจากวัดศิริมงคลและชุมชน 3) ด้านบริหารงานบุคคล มีการรับสมัครครูพิเศษที่มีความรู้ทั้งภาษาไทยและด้านภาษาถิ่น เพื่อช่วยในการเตรียมความพร้อมด้านภาษาไทยให้แก่นักเรียนต่างด้าว โดยมีการใช้แนวทางการบริหารแบบครอบครัว 4) ด้านการบริหารงานทั่วไป มีการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาโดยการขอรับทุนสนับสนุนจากผู้ปกครองตามกำลังทรัพย์ของแต่ละบุคคล แต่เนื่องด้วยผู้ปกครองส่วนใหญ่มีข้อจำกัดในเรื่องค่าใช้จ่าย จึงมีรายได้จากส่วนนี้ไม่มากนัก และในส่วนของงานส่งเสริมกิจการนักเรียน โรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนแต่งชุดประจำถิ่น ของตนเพื่อให้เด็กมีความภูมิใจในความเป็นชาติ เรียนรู้วัฒนธรรมและสร้างการยอมรับการยอมรับความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติ 

This research aims to study the educational administration and the problem of the primary government school that there are migrant student. And to study the method of educational administration to be the best practice.

This is the qualitative research; by participant observation, interview key informants; the school director, teachers and student parents, as well as from documents. There are 4 areas of education administration to be considered; 1) The academic administration 2) The budget administration 3) The human resource administration and 4) The general administration. The research found that Wat Sirimongkol School is managed as same as other schools are in the service of the Office of the Basic Education Commission of Thailand but the distinguished points of the best practice of educational administration of Wat Sirimongkol School are; 1) The academic administration, the school provides Thai language remedial class for migrant student before joining the normal class with Thai student 2) The budget administration, there are the annual plan, and special budget is supported by private sections, Sirimonkol Temple and community in area as well. 3) The human resource administration, the school is recruited the teacher who has skills in language for both of Thai and dialects for helping to improve Thai language skill for migrant student by using family management system. 4) The general administration, there is funding from parents but they have the limited budget and expenses so, there are not much gaining money from them, and there is student activity is dressing traditional dress which propose them to be proud in their nation, to learn other cultural and for understanding the difference of various nations.