กลยุทธ์การบริหารปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกโรงเรียนอนุบาลเอกชนในอำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

Abstract

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกโรงเรียนอนุบาลเอกชนในอำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดลำดับความสำคัญตามความต้องการจำเป็นของการบริหารปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกโรงเรียนอนุบาลเอกชนในอำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี  เพื่อนำเสนอกลยุทธ์ของการบริหารปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกโรงเรียนอนุบาลเอกชนในอำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี  กลุ่มตัวอย่างผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้ปกครองของนักเรียนที่กำลังศึกษาในโรงเรียนเอกชน จำนวน 266 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนี PNI_Modified

ผลการวิจัย พบว่า สภาพปัจจุบันของการบริหารปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกโรงเรียนอนุบาลเอกชนภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ขณะที่ สภาพที่พึงประสงค์ภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยดัชนีความต้องกาพบว่าด้านที่มีความต้องการจำเป็นสูงสุดตามลำดับดังนี้  1) สิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการ 2) หลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน  3) ความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน 4) ชื่อเสียงโรงเรียน จากการวิเคราะห์ จุแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภาวะคุกคามได้กลยุทธ์หลักจำนวน 4 กลยุทธ์ กลยุทธ์รอง 10 กลยุทธ์ และวิธีดำเนินการ 55 วิธีดำเนินการ 

This research aimed to study the current state, the desirable state, the priority needs index for the management of the factors influencing parents’ decision to select private kindergartens in Khian Sa district, Surat Thani province in order to propose the strategies for the management of the factors influencing parents’ decision to select private kindergartens in Khian Sa district, Surat Thani province.    

The selected sample of this research was the parents who have their children studying in private kindergartens. The sample consisted of 266 parents. The research instrument was the questionnaire at 5 rating scale measurement for both authentic stage and desirable stage. The research statistics used in this study were frequency, percentage, mean, standard deviation and Modified Priority Need Index (PNI_Modified) which analyzed by computer programs.

The results showed that authentic state of overall and each aspect was at the medium level while the desirable state of overall and each aspect was at the high level. The priority needs index for the management of the factors influencing parents’ decision was considered from the highest to the lowest the Modified Priority Need Index (PNI_Modified) as follows: 1) Facilities and Services 2) Curriculum and 3) School and Community Relations 4) Reputation. Based on the SWOT analysis, there were 4 main strategies, 10 secondary strategies with 55 approaches.