คุณลักษณะของบุคลากรและองค์กรที่มีผลต่อความต้องการพัฒนาด้านวิชาชีพ ของผู้ตรวจสอบภายในองค์กรภาครัฐของไทย
คำสำคัญ:
คุณลักษณะของบุคลากร, คุณลักษณะขององค์กร, ผู้ตรวจสอบภายใน, ความต้องการพัฒนาด้านวิชาชีพ, องค์กรภาครัฐของไทยบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณลักษณะของบุคลากรและองค์กรที่มีผลต่อความต้องการพัฒนาวิชาชีพของผู้ตรวจสอบภายในองค์กรภาครัฐของไทย โดยศึกษาผู้ตรวจสอบภายในขององค์กรภาครัฐในประเทศไทย ในการเลือกกลุ่มตัวอย่างใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย จำนวน 313คน และเครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการพัฒนาด้านวิชาชีพ ประกอบด้วยคุณลักษณะของบุคลากร ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่งงาน และประสบการณ์ในการทำงาน อีกปัจจัยได้แก่ คุณลักษณะขององค์กร ประกอบด้วย การสนับสนุนของผู้บริหาร กฎระเบียบข้อบังคับ และผลตอบแทน เพื่อนำไปวิเคราะห์สมการถดถอย พบว่า อายุมีผลในเชิงลบกับความต้องการพัฒนาด้านวิชาชีพ ขณะที่ระดับการศึกษามีผลในเชิงบวกกับความต้องการพัฒนาด้านวิชาชีพ รวมทั้งกฎระเบียบข้อบังคับและผลตอบแทนมีผลในเชิงบวกกับความต้องการพัฒนาด้านวิชาชีพ แต่เมื่อแบ่งตามความต้องการพัฒนาด้านวิชาชีพ พบว่า อายุมีผลในเชิงลบ แต่ผลตอบแทนมีผลในเชิงบวกกับการศึกษาต่อ รวมทั้งระดับการศึกษาและการสนับสนุนของผู้บริหารมีผลในเชิงบวกกับการฝึกอบรม/สัมมนา และกฎระเบียบข้อบังคับมีความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับการศึกษาด้วยตนเอง
เอกสารอ้างอิง
กรมบัญชีกลาง. (2560). มาตรฐานการตรวจสอบภายในและจริยธรรมการปฏิบัติงานตรวจสอบภายในของส่วนราชการ. สืบค้นเมื่อ 11 เมษายน 2562, จาก http://www.cgd.go.th
กิติมา สุรสนธิ. (2548). ความรู้ทางการสื่อสาร (Introduction to Communication). พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : จามจุรีโปรดักท์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ : บริษัท สุวีริยาสาส์น จำกัด.
ปรัชญา ชัชธรรมสกุล. (2557). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลของการตรวจสอบภายในในมุมมองของผู้รับการตรวจหน่วยงานกองทัพบก. การค้นคว้าแบบอิสระปริญญาบัญชีมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
พิมพ์พร อังสกุลวงศ์. (2553). การศึกษาความสัมพันธ์ของความคิดเห็นที่มีต่อระบบการจ่ายค่าตอบแทนที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานบัญชีในองค์กร. วิทยานิพนธ์ปริญญาบัญชีมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
เพ็ญธิดา พงษ์ธานี. (2557). ผลของความรู้ ทักษะ จรรยาบรรณ และทัศนคติในวิชาชีพที่มีต่อสมรรถนะของผู้สอบบัญชีภาษีอากร. วารสารสุทธิปริทัศน์. 87(28), 95-121.
ไพฑูรย์ อินอุทัย และประจิต หาวัตร. (2553). การให้ความสำคัญแก่ใบอนุญาตวิชาชีพด้านการตรวจสอบภายใน (CIA) ต่อการปฏิบัติงานในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. วารสารวิชาชีพบัญชี. 6(16), 51-61.
รัตนา บุญชัย. (2553). ปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการในการพัฒนาความรู้ทางการบัญชีของพนักงานบัญชีสหกรณ์ในจังหวัดอุทัยธานี. การค้นคว้าแบบอิสระปริญญาบัญชีมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
ศุภวิชญ์ แก้วปานันท์. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพกับความสำเร็จในอาชีพของผู้สอบบัญชีภาษีอากรในประเทศไทย. การค้นคว้าแบบอิสระปริญญาบัญชีมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สำนักกำกับและพัฒนาการตรวจสอบภาครัฐ. (2559). ผลงานกรมบัญชีกลางด้านการตรวจสอบภายใน. สืบค้นเมื่อ 11 มกราคม 2559, จาก http://www.cgd.go.th.
สำนักงานข้าราชการพลเรือน. (2557). พัฒนาคน...พัฒนาการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ฐานบัณฑิต.
สุฏิกา รักประสูติ. (2558). บทบาทของผู้ตรวจสอบภายในต่อการจัดการความเสี่ยงองค์กร: ปัจจัยสาเหตุและผลลัพธ์. วารสารสุทธิปริกรมบัญชีกลาง. (2560). มาตรฐานการตรวจสอบภายในและจริยธรรมการปฏิบัติงานตรวจสอบภายในของส่วนราชการ. สืบค้นเมื่อ 11 เมษายน 2562, จาก กรมบัญชีกลาง เว็บไซต์: https://www.cgd.go.th /cs/Satellite?Blobcol=urldata&blobkey=id&blobtable=MungoBlobs&blobwhere=1438169209567&ssbinary=true
กิติมา สุรสนธิ. (2548). ความรู้ทางการสื่อสาร (Introduction to Communication).พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: จามจุรีโปรดักท์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ: บริษัท สุวีริยาสาส์น จำกัด.
ปรัชญา ชัชธรรมสกุล. (2557). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลของการตรวจสอบภายในในมุมมองของผู้รับการตรวจหน่วยงานกองทัพบก. ปริญญาบัญชีมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
พิมพ์พร อังสกุลวงศ์. (2553). การศึกษาความสัมพันธ์ของความคิดเห็นที่มีต่อระบบการจ่ายค่าตอบแทนที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานบัญชีในองค์กร. ปริญญาบัญชีมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
เพ็ญธิดา พงษ์ธานี. (2557). ผลของความรู้ ทักษะ จรรยาบรรณ และทัศนคติในวิชาชีพที่มีต่อสมรรถนะของผู้สอบบัญชีภาษีอากร. วารสารสุทธิปริทัศน์, 87(28), 95-121.
ไพฑูรย์ อินอุทัย และประจิต หาวัตร. (2553). การให้ความสำคัญแก่ใบอนุญาตวิชาชีพด้านการตรวจสอบภายใน (CIA) ต่อการปฏิบัติงานในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. วารสารวิชาชีพบัญชี,6(16), 51-61.
รัตนา บุญชัย. (2553). ปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการในการพัฒนาความรู้ทางการบัญชีของพนักงานบัญชีสหกรณ์ในจังหวัดอุทัยธานี.ปริญญาบัญชีมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
ศุภวิชญ์ แก้วปานันท์. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพกับความสำเร็จในอาชีพของผู้สอบบัญชีภาษีอากรในประเทศไทย. ปริญญาบัญชีมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สำนักกำกับและพัฒนาการตรวจสอบภาครัฐ. (2559). ผลงานกรมบัญชีกลางด้านการตรวจสอบภายใน. สืบค้นเมื่อ 11 มกราคม 2559, จาก กรมบัญชีกลาง เว็บไซต์:https://www.cgd.go.th/cs/Satellite ?blobcol=urldata/
สำนักงานข้าราชการพลเรือน. (2557). พัฒนาคนพัฒนาการเรียนรู้.กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ฐานบัณฑิต.
สุฏิกา รักประสูติ. (2558). บทบาทของผู้ตรวจสอบภายในต่อการจัดการความเสี่ยงองค์กร: ปัจจัยสาเหตุและผลลัพธ์. วารสารสุทธิปริทัศน์,29(92), 37-51.
สุมินทร เบ้าธรรม. (2555). ความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพ ความพึงพอใจในอาชีพ และความสำเร็จในอาชีพผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในประเทศไทย. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์, 32(1), 1-17.
อรรถพงศ์ พีระเชื้อ อมลยา โกไศยกานนท์ และรชรินทร์ จักรฤทธิพงศ์. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพงานตรวจสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีภาครัฐในพื้นที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 7. วารสารการจัดการ, 8(1), 43-56.
Hair, F., Black, W., Babin, B., & Anderson, R. (2010). Multivariate Data Analysis.7thed. New Jersey: Pearson Education.
Mulder, P. (2018). POSDCORB theory. Retrieved June 20, 2018, from ToolsHeroWebsite: https://www.toolshero.com/management/posdcorb-theory/
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. 3rd ed.New York: Harper and Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารธุรกิจปริทัศน์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว

