การนำความรู้ด้านหลักการพัฒนาชุมชนไปใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพการพัฒนาชุมชน 2 ของนักศึกษาสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
คำสำคัญ:
หลักการพัฒนาชุมชน, การฝึกประสบการณ์วิชาชีพบทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การนำความรู้ด้านหลักการพัฒนาชุมชนไปใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพการพัฒนาชุมชน 2 ของนักศึกษาสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เป็นการวิจัยในชั้นเรียนของรายวิชา 2534802 การฝึกประสบการณ์วิชาชีพการพัฒนาชุมชน 2 ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาการนำความรู้ด้านหลักการพัฒนาชุมชนไปใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพการพัฒนาชุมชน 2 และศึกษาปัญหาของการนำความรู้ด้านหลักการพัฒนาชุมชนไปใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพการพัฒนาชุมชน 2 ของนักศึกษาสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย กลุ่มประชากรคือนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนวิชา 2534802 การฝึกประสบการณ์วิชาชีพการพัฒนาชุมชน 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 98 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ (1) นักศึกษาสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 88.04 มีอายุในระดับปานกลาง (23–24 ปี) พบมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 86.96 (2) การนำความรู้ด้านหลักการพัฒนาชุมชนไปใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพการพัฒนาชุมชน 2 พบว่าโดยภาพรวมนักศึกษานำหลักการพัฒนาชุมชนไปใช้ในระดับมากที่สุด ( = 4.57, S.D. = 0.55) (3) การนำความรู้ด้านการมีส่วนร่วมในงานพัฒนาชุมชนไปใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพการพัฒนาชุมชน 2 พบว่านักศึกษานำหลักการมีส่วนร่วมในงานพัฒนาชุมชนไปใช้ในระดับมากที่สุด (
= 4.67, S.D. = 0.52) และ(4) การนำความรู้ด้านการนำความรู้วิชาเนื้อหาหลัก ไปใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพการพัฒนาชุมชน 2 พบว่านักศึกษานำหลักการมีส่วนร่วมในงานพัฒนาชุมชนไปใช้ในระดับมาก (
= 4.43, S.D. = 0.59) ส่วนผลการศึกษาปัญหา ของการนำความรู้ด้านหลักการพัฒนาชุมชนไปใช้ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพการพัฒนาชุมชน 2 พบว่า นักศึกษาขาดทักษะการพูดต่อหน้าชุมชน ขาดไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมไปถึงขาดทักษะการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน โดยมีเหตุผลของการเกิดปัญหาดังกล่าวเพราะใช้เวลาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพในสำนักงานมากเกินไป จึงทำให้ขาดความชำนาญในการจัดเก็บข้อมูลและการจัดเวทีวิเคราะห์ข้อมูล นอกจากนั้นในขณะฝึกประสบการณ์วิชาชีพในชุมชน วิธีการเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ชุมชนในการปฏิบัติจริงจะไม่เหมือนกับวิธีการเก็บข้อมูลที่เรียนมา ซึ่งมีสาเหตุมาจากพี่เลี้ยงในสำนักงานมีความคิดและความต้องการแตกต่างกันไป
เอกสารอ้างอิง
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา. วารสารวิชาการ สถาบันการพลศึกษา ปีที่ 3 ฉบับที่ 3 กันยายน – ธันวาคม 2554. หน้า 71 – 85.
ฉัตรทิพย์ นาถสุภา. (2538). วัฒนธรรมไทยกับขบวนการเปลี่ยนแปลงทางสังคม. พิมพ์ครั้งที่ 3.
กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชัยอนันต์ สมุทวณิช. (2543). ทรรศนะ แนวคิด แนวทางในการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้. วารสาร
ราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มกราคม – มีนาคม 2554. หน้า 184 – 189.
ฐิติวรดา แสงสว่างและคณะ. (2551). ความคาดหวัง ความคิดเห็น และความพึงพอใจต่อการ ฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพของนักศึกษา คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุตรดิตถ์: รายงานวิจัย โปรแกรมวิชาการบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุตรดิตถ์.
ฐิรชญา มณีเนตร. (2550). การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อคุณลักษณะด้านการฝึกงานของนักศึกษา ที่พึงประสงค์
ตามความต้องการของสถานประกอบการ: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ณรัชช์อร ศรีทอง. (2558). กระบวนการสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน. กรุงเทพฯ :
สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ : สุวีรยาสาส์น.
ปาริชาติ วลัยเสถียรและคณะ. (2552). กระบวนการ และเทคนิคการทำงานของนักพัฒนา. พิมพ์ครั้งที่ 4.
กรุงเทพฯ : โครงการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข (สรส.)
พรรณราย เทียมทันและอนุวัติ คูณแก้ว. (2552). การวิจัยและพัฒนารูปแบบการฝึก ประสบการณ์วิชาชีพ
ของนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ , มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์.







