การบูรณาการวัฒนธรรมยูเรเชียนในการออกแบบพิพิธภัณฑ์ ทางตอนเหนือของสาธารณรัฐประชาชนจีน
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัยนี้คือ (1) เพื่อศึกษาวิเคราะห์คุณค่าและความสำคัญของความหลากหลายทางวัฒนธรรม ลักษณะพื้นฐาน และสถานะการจัดการของพิพิธภัณฑ์ทางตอนเหนือของจีน การบูรณาการวัฒนธรรมยุโรปและเอเชีย และแนวทางการออกแบบทางศิลปะ และ (2) วิเคราะห์สภาพแวดล้อม ลักษณะรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ Northern China การพัฒนาและการบูรณาการวัฒนธรรมยูเรเชียนสำหรับการออกแบบรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ทางตอนเหนือของจีน
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีการทบทวนวรรณกรรมและใช้วิธีการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ประกอบด้วย ภัณฑารักษ์ นักออกแบบ นักวิชาการด้านวัฒนธรรมยูเรเชียน จำนวน 5 คน เพื่อให้ได้รูปแบบการบูรณาการสำหรับการออกแบบพิพิธภัณฑ์ทางตอนเหนือของจีน
ผลการวิจัยพบว่า (1) วัฒนธรรมยูเรเชียน มีองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันทั้งยุโรปและเอเชีย การบูรณาการวัฒนธรรมยูเรเชียนสะท้อนให้เห็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม รูปแบบสถาปัตยกรรม นิทรรศการ สัญลักษณ์ และลักษณะเฉพาะของภูมิภาคทางตอนเหนือของสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งการรวมองค์ประกอบทางวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน โดยคำนึงถึงความหมายแฝง ลักษณะรูปแบบการจัดแสดงและคุณลักษณะของวัฒนธรรม และ (2) การออกแบบพิพิธภัณฑ์ที่มีความหมายแฝงทางวัฒนธรรมยูเรเชียน สะท้อนให้เห็นสุนทรียภาพของการผสมผสานสไตล์คลาสิคของยุโรปและองค์ประกอบดั้งเดิมของเอเชียเข้าด้วยกัน รวมถึงการแลกเปลี่ยนและอิทธิพลทางวัฒนธรรมของการบูรณาการ การมีปฏิสัมพันธ์ของวัฒนธรรมร่วมและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม เสริมสร้างการรับรู้และเคารพต่อวัฒนธรรมร่วม ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนสื่อสารข้ามวัฒนธรรม ให้เกิดความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรม ตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมในการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมยูเรเชียน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารศิลป์ปริทัศน์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารศิลป์ปริทัศน์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศิลป์ปริทัศน์
เอกสารอ้างอิง
Chen, G. (2006). Role Transformation of the Museum and Professional Talent Training. Shanghai Arts and Crafts, 4-9.
Chen Y. & Wang W. (2016). New Book of Tang and Study of Ethnic Chronicles at home and abroad. Shaanxi Education.
Deng, Y. (2024). Research on the Core Connotation of Chinese Culture from the perspective of Cross-cultural Communication. 10.20024/j.cnki.CN42-1911/I.2024.04.029.
Fu, L. (2021). The effective integration of non-genetic inheritance and digital media art. Sichuan Drama, Art College of Chengdu University of Arts and Sciences.
He Y., Li T., Fanoos A. & Tynjälä P. (2023). Cross-cultural research on early childhood teacher education curriculum design. Research in Comparative and International Education, 18 (4), 620-635.
Kohnen, J. (2012). Leading with Cultural Intelligence: The New Secret to Success. Quality Management Journal, 19(3). https://doi.org/10.1080/10686967.2012.11918076
Luna, E. (2015). The Crossroads of Should and Must: Find and Follow Your Passion. Workman Publishing Company.
Roy, B. (2023). At the Crossroads of Anti-Colonialism, Axis Propaganda and International Communism. Media History, 29(4), 537-553.
Shangguan, S. (2023). Taking the Chinese museum education fever as an example of the theory of social reproduction. Shaanxi Education (higher education), 85-87. 10.16773/j.cnki.1002-2058.2023.12.008,
Stucky, R. (2019). Intercultural Communication and Conflict Resolution. Tsinghua University Press.
Xuan, Y. (2018). Immersive multimedia interactive art installation research based on Synesthesia and Synaesthesia. [Master’s thesis, Xi'an University of Technology, Philosophy and Humanities]. 10.27398/d.cnki.gxalu.2023.000338.
Zhang, T. (2023). On the innovative road of Chinese font design from a cross-cultural perspective. Shanghai Arts and Crafts.
Zhang, X. (2009). Carlos Capa — Fusion art and traditional space montage. Engineering Technology Collection, Tianjin University, Exhibition held March 16 – April 15, 2009