แนวทางการบริหารองค์กรตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหาร องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม
คำสำคัญ:
การบริหารองค์กร, หลักธรรมาภิบาล, องค์การบริหารส่วนตำบลบทคัดย่อ
การสร้างหลักธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในระบบการบริหารราชการไทยมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลักธรรมาภิบาลจะเป็นปัจจัยเสริมให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยมีลักษณะเปิด ประชาชน มีเสรีภาพ มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการบริหารองค์กรตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหาร องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และ2) เพื่อเสนอแนะแนวทางการบริหารองค์กรตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม จำนวน 15 ตำบล ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบน่าจะเป็น จำนวน 135 ราย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า ระดับการบริหารองค์กร ตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน ด้านหลักคุณธรรม มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา ด้านหลักนิติธรรม ด้านหลักความโปร่งใส ด้านหลักความรับผิดชอบ ด้านหลักความคุ้มค่า และด้านหลักการมีส่วนร่วม ตามลำดับ 2) แนวทาง คือ ผู้บริหารต้องเคร่งครัดการใช้ ธรรมาภิบาลทั้ง 6 ด้าน ในการบริหาร
References
กิตติพงศ์ อุรพีพัฒศ.(2556). หลักธรรมาภิบาลกับการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจ กรณีศึกษาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต).มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ทศพร ศิริสัมพันธ์. (2550). ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหารราชการแนวใหม่. กรุงเทพฯ: วิชั่น พริ้นท์
แอนด์ มีเดีย.
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ. (2542). การสร้างธรรมาภิบาลในสังคมไทย. กรุงเทพฯ: วิญญูชน.
พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). (2550). พุทธวิธีการบริหาร (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ:
มหาจุหลงกรณ์ราชวิทยาลัย.
พระมหาสมพงษ์ ชนุตตโม (อ่อนสุข). (2556). การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลขององค์การบริหา
รส่วนตำบล ในอำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตร์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พิชญาสินี จิตติพิชญานันท์. (2559). ประสิทธิภาพการบริหารงานคลังท้องถิ่นตามหลักธรรมาภิบาล กรณีศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดอำนาจเจริญ (วิทยานิพนธ์). มหาวิทยาลัยมหิดล
ไพฑูรย์ สุขผลานันท์ (2558). การศึกษาสภาพการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด (วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี.
มานา อิ่มอุดม. (2558). การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยสยาม.
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี พ.ศ. 2542. (2542, 30 มิถุนายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 116 ตอนที่ 63 ง. หน้า 26-27.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2554). คู่มือคำอธิบายตัวชี้วัดการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2555). หลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ.
สุภัทรมาศ จริยเวชชวัฒนา. (2557). การบริหารจัดการเทศบาลตามหลักธรรมาภิบาลกรณีศึกษาเทศบาลตำบลบ้านฉาง (วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตร์). มหาวิทยาลัยบูรพา.
สุรัส ราชกุลชัย. (2547). การวางแผนและการควบคุมทางการบริหาร. พิมพ์ครั้งที่่ 4. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Best, J. W. (1981). Research in education (4th ed.). New Jersey: Prentice Hall.
Boutros-Ghali, Boutros. (2000). “An Agenda for Democratization” in Global Democracy. Barry Holden (ed.). New York: Routledage.
Diamond, Peter. A. (1998). Optimal Income Taxation: An Example with a U-Shaped Pattern of Optimal Marginal Tax Rates. The American Economic Review, 88(1), 83-95.
Robert A, Dahl. (2000). On Democracy. New Haven and London Yale University.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2021 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และคณาจารย์ท่านอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว