ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คำสำคัญ:
ข้อเสนอเชิงนโยบาย, การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล, การพัฒนาที่ยั่งยืนบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นในการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2) จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และ 3) ตรวจสอบและประเมินข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน รูปแบบการวิจัยเป็นแบบผสานวิธี พื้นที่วิจัย คือ โรงเรียนมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูหัวหน้าฝ่ายวิชาการ ครูหัวหน้างานเทคโนโลยีสารสนเทศ และคณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 1,088 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างและแบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าพิสัย และวิเคราะห์ค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
- สภาพปัจจุบันมีระดับการปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง สภาพที่พึงประสงค์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น เรียงลำดับจากค่ามากไปน้อย ดังนี้ 1) ด้านการบริหารการจัดการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล มีค่า 2) ด้านการบริหารเทคโนโลยีสำหรับสถานศึกษาในยุคดิจิทัล 3) ด้านการพัฒนาครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล และ 4) ด้านการพัฒนาระบบการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล ตามลำดับ
- ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน มี 12 เป้าหมาย 52 แนวทางของนโยบาย 39 กลไกของนโยบาย
- ผลการตรวจสอบและประเมินข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน
References
ชรินรัตน์ จิตตสุโภ. (2561). ข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็กสู่ความเป็นเลิศสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์. (2561). ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารภาครัฐ (วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.
ธนุ วงษ์จินดา. (2556). ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
วชิระ พูลพิทักษ์. (2563). ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อพัฒนาการจัดการศึกษาตามแผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ในจังหวัดนครพนม (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580 (ฉบับประกาศในราชกิจจานุเบกษา). กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขานุการ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2563). สภาวะการศึกษาไทย 2561/2562 การปฏิรูปการศึกษาไทยในยุคดิจิทัล. นนทบุรี: ภาพพิมพ์.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2564). รายงานการศึกษาไทย พ.ศ. 2564 (Education in Thailand 2021). กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักงานศึกษาธิการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. (2563). แผนพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (พ.ศ. 2563-2565). อุดรธานี: สำนักงานศึกษาธิการภาค 10.
สุกัญญา แช่มช้อย. (2560). การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล School Management in Digital Era. พิษณุโลก: พิษณุโลกดอทคอม.
Knezevich, S. J. (1984). Administration of Policy Education. 4th ed. New York: Harper and Row.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.
McNichols, T. J. (1977). Policy making and executive action. New York: McGraw-Hill.
Terry, G. R. (1977). Principle of Management. 7th ed. Homewood: Richard D. Train.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และคณาจารย์ท่านอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว