ซอฟต์พาวเวอร์ มรดกทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ตามรอยชาติพันธุ์ในจังหวัดสระแก้ว
คำสำคัญ:
ซอฟต์พาวเวอร์, ชาติพันธุ์ในจังหวัดสระแก้ว, ส่งเสริมการท่องเที่ยว, มรดกทางวัฒนธรรมบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้นี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานทางประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ในจังหวัดสระแก้ว 2) เพื่อพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยชาติพันธุ์ในจังหวัดสระแก้ว และ 3) เพื่อพัฒนาแนวทางการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ ทางวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวในจังหวัดสระแก้ว รูปแบบการวิจัยเป็นวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีการวิเคราะห์เอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม ใช้แนวคิดซอฟต์พาวเวอร์ทฤษฎีการจัดการมรดกทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเป็นกรอบการวิจัย พื้นที่วิจัย คือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว กลุ่มเป้าหมายผู้ให้ข้อมูลสำคัญคือกลุ่มผู้นำชาติพันธุ์ทั้ง 5 ชาติพันธุ์ ได้แก่ ชาติพันธุ์จีน ชาติพันธุ์เวียดนาม ชาติพันธุ์ญ้อ ชาติพันธุ์ลาว ชาติพันธุ์เขมร จำนวน 5 คน ใช้วิธีคัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิด คือ 1) แบบสัมภาษณ์ 2) ข้อมูลจากเอกสารฐานข้อมูลชาติพันธุ์ 3) การจดบันทึก วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหาแล้วเขียนบรรยายเชิงพรรณนาผลการวิจัยพบว่า 1) พื้นฐานทางประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ในจังหวัดสระแก้วมีทั้งหมด 5 ชาติพันธุ์ ได้แก่ ชาติพันธุ์จีน ชาติพันธุ์เวียดนาม ชาติพันธุ์ญ้อ ชาติพันธุ์ลาว ชาติพันธุ์เขมร อยู่ในพื้นที่อําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เป็นชุมชนที่มีมรดกภูมิปัญญาวิถีชีวิตศิลปวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นยังคงความดั้งเดิมของวิถีชีวิตไว้ มีศักยภาพเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สําคัญของจังหวัดสระแก้วได้ 2) การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยชาติพันธุ์ในจังหวัดสระแก้ว สามารถพัฒนาสถานที่และชุมชนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงชาติพันธุ์เชื่อมโยงได้ 2 ประเภท ได้แก่ 1) ท่องเที่ยวตามรอยอาหารชาติพันธุ์ 2) ท่องเที่ยวตามรอยประเพณีความเชื่อชาติพันธุ์ 3) แนวทางการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ทางวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวในจังหวัดสระแก้ว ได้แก่ 1) การจัดทํานิทรรศการประวัติศาสตร์ 5 ชาติพันธุ์ 2) การจัดเก็บรวบรวมองค์ความรู้ และจัดทำเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ 3) การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว
เอกสารอ้างอิง
กันตภพ บัวทอง, สุภัทรา เขียวศรี และ พรหมภัสสร ชุณหบุญญทิพย์. (2568). แนวทางการยกระดับเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงอาหารของจังหวัดนครพนมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์: กรณีศึกษาชนเผ่าไทแสก บ้านอาจสามารถ. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 17(1), 137–138.
ณัฐฌา กำจรวัฒนสิริ. (2553). ชาวเวียดนามอพยพ บริเวณชุมชนมิตรสัมพันธ์ ถนนมิตรสัมพันธ์ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว (วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
นภสินธุ์ เรือนนาค และ สุเทพ สุสาสนี. (2559). การศึกษาเชิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของชุมชนกับศิลปกรรมในเขตพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา. วารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 11(2), 247–251.
เบญจภัคค์ เจริญมหาวิทย์. (2567). ซอฟต์พาวเวอร์ มรดกทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสารวิชาการอยุธยาศึกษา, 16(1), 84–86.
ภากร ฉัตรเจริญสุข. (2558). คุณค่าและการเปลี่ยนแปลงของวัดจีน ในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย กรณีศึกษา: วัดจีนในกรุงเทพฯ (วิทยานิพนธ์สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศิริกมล สายสร้อย. (2551). หนังสืออ่านเพิ่มเติม วิชา กลุ่มชาติพันธุ์ในอรัญประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เล่มที่ 5 เรื่อง “เวียตนามในอรัญประเทศ”. สระแก้ว: โรงเรียนอรัญประเทศ.
สันฐิตา ร้อยอาแพง. (2563). พฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหารของนักท่องเที่ยวชาวไทย: กรณีศึกษากลุ่มชาติพันธุ์ไทยวน จังหวัดสระบุรี (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
เสริมศิริ นิลดา และคณะ (2560). การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวตามรอยชาติพันธุ์ในจังหวัดเชียงราย. วารสารวิจัยราชภัฏพระนคร (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 12(1), 26–27.
อนพัทย์ หนองคู. (2561). ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจังหวัดสระแก้ว. สระแก้ว: สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว.
Anholt, S. (2007). Competitive identity: The new brand management for nations, cities and regions. London: Palgrave Macmillan.
Boley, B. B., & McGehee, N. G. (2014). The role of social capital in community-based tourism. Tourism Management, 41, 225–237.
Bramwell, B., & Lane, B. (2011). Critical research on the role of the public sector in tourism management. Journal of Travel Research, 50(3), 258–265.
Cohen, E. (2011). The anthropology of tourism: A comparative perspective. New York: Routledge.
Dinnie, K. (2015). City branding: Theory and cases. New York: Palgrave Macmillan.
Frey, B. S., & George, R. (2011). The economics of tourism: A special issue on tourism management and economics. Tourism Management, 32(5), 1024–1030.
Goss, J., & Leinbach, T. R. (1996). Locality and the tourist industry. Tourism Geographies, 1(3), 227–250.
Harrison, D. (2013). Tourism and the transformation of the local: Cultural perspectives. New York: Routledge.
Kotler, P., & Keller, K. L. (2016). Marketing Management (15th ed.). London: Pearson Education.
McKercher, B., & du Cros, H. (2002). Cultural tourism: A handbook for managing tourism in cultural sites. New York: Routledge.
Nye, J. S. (2004). Soft power: The means to success in world politics. New York: PublicAffairs.
UNESCO Institute for Statistics. (2009). UNESCO framework for cultural statistics (FCS) (UIS/TD/09 03). Montréal: UNESCO Institute for Statistics.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และคณาจารย์ท่านอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
