อิทธิพลของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงและแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานฝ่ายผลิต ในโรงงานผลิตรถยนต์แห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ของการศึกษาในงานวิจัยนี้คือ 1) เพื่อวิเคราะห์อิทธิพลของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน 2) เพื่อวิเคราะห์อิทธิพลแรงจูงใจในการปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฎิบัติงาน และ 3) เพื่อวิเคราะห์อิทธิพลของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 295 คน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าความเบ้ ค่าความโด่ง ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ การวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ การวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร

ผลการวิจัยพบว่า ระดับของตัวแปรภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง แรงจูงใจในปฏิบัติงาน และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.262, 4.249 และ 4.241 ตามลำดับ สำหรับผลการวิเคราะห์แบบจำลองสมการโครงสร้าง พบว่า ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงส่งผลในทางบวกต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน, แรงจูงใจในการปฏิบัติงานส่งผลในทางบวกต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงส่งผลในทางบวกต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดยความสำคัญของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพสามารถกระตุ้นแรงจูงใจของพนักงานส่งผลให้คุณภาพของงานดีขึ้น และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนขององค์กรในระยะยาว ค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพลเท่ากับ .687, .494 และ .354 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 ตามลำดับ การวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้างตามสมมติฐานมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ในระดับที่ยอมรับได้ โดยมีค่า CMIN/DF= 2.108,
CFI= .954, GFI=.928, RMR= .006 และ RMSEA= .061