การรับฟังถ้อยคำรับสารภาพของผู้ต้องหาในชั้นจับกุมจากการบันทึกภาพและเสียงด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ผู้แต่ง

  • รัชพล พึงไชย -

คำสำคัญ:

ถ้อยคำรับสารภาพของผู้ต้องหาในชั้นจับกุม

บทคัดย่อ

ถ้อยคำรับสารภาพของผู้ต้องหาในชั้นจับกุมเป็นพยานหลักฐานที่มีคุณค่าเชิงพิสูจน์อย่างมาก เนื่องจากเป็นพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่มีความใกล้ชิดต่อเหตุการณ์การกระทำความผิด จึงเป็นพยานหลักฐานที่ศาลควรจะนำมารับฟังและชั่งน้ำหนักในการพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดี แต่ด้วยกฎหมายการรับฟังพยานหลักฐานของประเทศไทยในปัจจุบัน ในเรื่องของการรับฟังถ้อยคํารับสารภาพของผู้ต้องหาในชั้นจับกุมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 84 วรรคท้าย วางหลักไว้ว่า ห้ามมิให้ศาลรับฟังถ้อยคำรับสารภาพของผู้ถูกจับในชั้นจับกุมเป็นพยานหลักฐาน ไม่ว่ากรณีใดๆ ซึ่งเป็นบทตัดพยานหลักฐานเด็ดขาดที่ห้ามมิให้ใช้ดุลพินิจเป็นอย่างอื่น โดยบทบัญญัติดังกล่าวเกิดจากการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2547 จากเดิมที่วางหลักให้ศาลสามารถใช้ดุลพินิจในการรับฟังถ้อยรับสารภาพของผู้ต้องหาในชั้นจับกุมได้ แต่ด้วยเหตุผลจากการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐในขณะนั้น ทำให้มีการแก้ไขบทบัญญัติดังกล่าวเป็นห้ามมิให้รับฟังถ้อยรับสารภาพของผู้ต้องหาในชั้นจับกุมที่บังคับใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน โดยการแก้ไขบทบัญญัติมาตราดังกล่าว เป็นการแก้ไขเนื้อหาที่ให้สัดส่วนน้ำหนักไปทางหลักความชอบด้วยกระบวนการทางกฎหมาย เป็นเหตุให้เกิดผลกระทบที่เป็นเสียต่อหลักการรับฟังพยานหลักฐานในคดีอาญาและการใช้ดุลพินิจของศาลในการพิจารณาพิพากษาคดีขึ้น ซึ่งผลกระทบต่างๆ จากการห้ามมิให้ศาลรับฟังถ้อยคํารับสารภาพของผู้ต้องหาในชั้นจับกุมนั้น อาจเป็นเหตุให้ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริงมาลงโทษได้ เนื่องจากพยานหลักฐานที่มีในคดีไม่เพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด จึงต้องพิพากษายกฟ้องและปล่อยตัวจำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดไป ซึ่งขัดต่อวัตถุประสงค์เรื่องของการควบคุมอาชญากรรม

            ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 84 วรรคท้าย ในปัจจุบัน ห้ามมิให้รับฟังถ้อยคํารับสารภาพของผู้ต้องหาในชั้นจับกุมเป็นการแสดงให้เห็นว่า บทบัญญัติดังกล่าวให้ความสำคัญกับหลักความชอบด้วยกระบวนการทางกฎหมาย ในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหาในขั้นจับกุมจากการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ มากกว่าการอนุญาตให้สามารถรับฟังพยานหลักฐานดังกล่าวเพื่อนำไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีและนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ตามวัตถุประสงค์ของหลักการควบคุมอาชญากรรม จึงเห็นว่าบทบัญญัติมาตรา 84 วรรคท้ายที่ได้รับการแก้ไขและใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันดังกล่าว ยังมีปัญหาในเรื่องของการให้สัดส่วนน้ำหนักระหว่างการอนุญาตให้ศาลสามารถรับฟังเป็นพยานหลักฐานเพื่อใช้ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง กับการต้องห้ามมิให้รับฟังพยานหลักฐานใดๆ ที่ได้มาจากการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนแม้เพียงเล็กน้อย ซึ่งบทบัญญัติของกฎหมายพยานหลักฐานที่มีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องต้องรักษาสมดุลของทั้งสองหลักการไว้ เพื่อให้ได้มาซึ่งพยานหลักฐานที่มีคุณค่าที่สามารถควบคุมการเกิดอาชญากรรมได้ และการได้มานั้นไม่กระทบสิทธิเสรีภาพของบุคคลในการดำเนินคดีอาญา ดังนั้น เหตุผลสำคัญที่จะนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการแก้ปัญหาเรื่องการรับฟังถ้อยคํารับสารภาพของผู้ต้องหาในชั้นจับกุมเป็นพยานหลักฐาน จึงต้องเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคลในการดำเนินคดีอาญา จากการแสวงหาพยานหลักฐานในชั้นจับกุม โดยในปัจจุบันได้มีกฎหมายที่ใช้บังคับ กำหนดให้มีการนำกล้องที่บันทึกภาพและเสียงมาประยุกต์ใช้ในขณะเจ้าพนักงานผู้จับทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่า คำให้การคํารับสารภาพของผู้ต้องหาเป็นไปโดยความสมัครใจและการจับกุมนั้นเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้ต้องหาในขณะจับกุมซึ่งปัจจุบันได้บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ทำให้ถ้อยคำรับสารภาพที่เป็นพยานหลักฐานที่เกิดจากการบันทึกเป็นวีดีโอ เป็นพยานหลักฐานที่มีความแม่นยำ มีคุณค่า และความน่าเชื่อถือที่สูง ประกอบกับในช่างเวลาที่ได้มาซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าวได้มีการบันทึกภาพและเสียงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้จับ อันเป็นหลักประกันในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องที่ให้การรับวสารภาพนั้น จึงควรที่ศาลจะรับฟังถ้อยคำรับสารภาพดังกล่าวมาเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลยได้ ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอังกฤษก็มีกฎหมายบัญญัติให้สามารถรับฟังถ้อยคำรับสารภาพของผู้ต้องหาในชั้นจับกุมจากการบันทึกภาพและเสียงมาเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขบทบัญญัติมาตรา 84 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้สอดคล้องกับการที่มีกฎหมายกำหนดให้นำเทคโนโลยีมาใช้ในปัจจุบัน มาเป็นเครื่องมือในการแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เพื่อให้ศาลสามารถพิจารณาวินิจฉัยคดีและนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-20

รูปแบบการอ้างอิง

พึงไชย ร. (2025). การรับฟังถ้อยคำรับสารภาพของผู้ต้องหาในชั้นจับกุมจากการบันทึกภาพและเสียงด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์. Pridi Banomyong Law Journal Dhurakij Pundit University, 14(2). สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/LAW_DPU/article/view/281461

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย