การศึกษามโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนในการทำวิจัยในชั้นเรียนของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
คำสำคัญ:
มโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อน, การวิจัยในชั้นเรียนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) เปรียบเทียบมโนทัศน์ในการทำวิจัยในชั้นเรียนด้านความเชื่อเกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียนและด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียนระหว่างนักศึกษาที่เรียนในหลักสูตรที่แตกต่างกัน 2)ศึกษามโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนในการทำวิจัยในชั้นเรียนของนักศึกษา 3)ศึกษาแนวทางการแก้ปัญหามโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนในการทำวิจัยในชั้นเรียนของนักศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษามโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนคือ นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 258 คน เป็นนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต จำนวน 138 คน และหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตสาขาวิชาชีพครู จำนวน 120 คนได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษาแนวทางการแก้ปัญหามโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อน คืออาจารย์คณะครุศาสตร์จำนวน 6 คน ประกอบด้วยผู้สอนในรายวิชาการวิจัยจำนวน 4 คน และอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการเรียนรู้จำนวน 2 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบวัดมโนทัศน์ในการทำวิจัยในชั้นเรียน แบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ด้านคือด้านความเชื่อเกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียน และด้านความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียน มีค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาอยู่ระหว่าง.60 -1.00 มีค่าความเชื่อมั่น .88 และ .84 ตามลำดับ ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .20 -.63 และค่าความยากอยู่ระหว่าง .20-.77 โดยแบบวัดแต่ละด้านจะแบ่งประเด็นย่อยออกเป็น 4 ประเด็น การกำหนดประเด็นปัญหาวิจัย รูปแบบการทำวิจัย ระเบียบวิธีวิจัย และการสะท้อนคิดจากผลการวิจัย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยายและทดสอบความแตกต่างโดยใช้การทดสอบ ที (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนพหุคูณแบบสองทาง (One-way MANOVA) ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1นักศึกษาที่เรียนในหลักสูตรต่างกันมีผลต่อความเชื่อและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05
2.นักศึกษามีมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียน ด้านความเชื่อเกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียนในภาพรวมมีมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนบางส่วน โดยประเด็นที่พบว่ามีความคลาดเคลื่อนมาก คือ ด้านรูปแบบการทำวิจัย ส่วนด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียน พบว่าในภาพรวมนักศึกษามีมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนบางส่วน โดยประเด็นที่พบว่ามีความคลาดเคลื่อนมากคือ ด้านรูปแบบการทำวิจัย
3.แนวทางการแก้ปัญหามโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนในการทำวิจัยในชั้นเรียนของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูคือ 1)ให้นักศึกษาได้ศึกษากรณีตัวอย่างงานวิจัยในชั้นเรียนที่มีรูปแบบที่ถูกต้อง นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 2) ให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียนจากสภาพจริง 3) ให้นักศึกษารุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จในการทำวิจัยในชั้นเรียนมาสร้างแรงบันดาลใจ 4)ช่วงปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบของการวิจัยในชั้นเรียนที่ถูกต้องกับอาจารย์นิเทศก์และครูพี่เลี้ยง จัดให้มีคู่มือรูปแบบการวิจัยในชั้นเรียนที่ถูกต้องให้กับอาจารย์นิเทศ มีการสัมมนาระหว่างปฏิบัติการสอนและหลังปฏิบัติการเกี่ยวกับปัญหาการทำวิจัยในชั้นเรียน มีแบบตรวจสอบรายการเกี่ยวกับรูปแบบและขั้นตอนการทำวิจัยในชั้นเรียนที่ถูกต้องให้นักศึกษาได้ตรวจสอบการทำวิจัยในชั้นเรียนด้วยตนเองเป็นระยะๆ และเพิ่มการทำ PLC แบบออนไลน์ ระหว่างนักศึกษา และอาจารย์นิเทศทุกๆ 1 เดือน หรือ 2 เดือน
เอกสารอ้างอิง
กระบวนการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายสังคม
ออนไลน์เพื่อแก้ไขมโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อนใน
การทำวิจัยในชั้นเรียนของครู. วิทยานิพนธ์
ปริญญามหาบัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เชาน์ประภา เชื้อสาธุชน.(2558).การสำรวจปัญหาการ
ทำวิจัยในชั้นเรียนของนักศึกษาฝึก
ประสบการณ์วิชาชีพครู คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.วารสาร
บัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ 10(2):ก.ค. –
ธ.ค.
ปรีดา เบ็ญคาร.(2548).การส่งเสริมการรับรู้
ความสามารถของตนในกระบวนการ
พัฒนาการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครู
ปริญญานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาการวิจัย
พฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์. มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ.
นารี สกุลกุชพงษ์. (2550). ปัญหาการทำวิจัยในชั้น
เรียนของครูโรงเรียนโสตศึกษา สังกัดสำนัก
บริการงานการศึกษาพิเศษ. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหาร การศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยบูรพา
นงลักษณ์ วิรัชชัย (2538) ๑๐๘ คำถาม การวิจัย การ
วัดละการประเมินผล สถิติ กรุงเทพฯ :
บริษัท บพิธการพิมพ์ จำกัด.
พรพรรณ รัตนะ (2541) มโนทัศน์ที่คลาดเคลื่อน
ทางการวิจัยการศึกษาของนักศึกษาปริญญา
โท คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รัตนะ บัวสนธ์ (2552) การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม
การศึกษา. กรุงเทพมหานคร : คำสมัย
สายชล แซ่จิว. (2550). ปัญหาการทำวิจัยในชั้นเรียน
ของครูในโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองศรี
ราชาจังหวัดชลบุรี งานนิพนธ์การศึกษาหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะ
ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
เสาวนีย์ อังสุขนิรันดร์. (2550). ปัญหาการทำวิจัยใน
ชั้นเรียนของครูผู้สอนในสถานศึกษากิ่ง
อำเภอนิคมพัฒนา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาระยองเขต 1. วิทยานิพนธ์ การศึกษา
มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา,
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา
สุวิมล ว่องวาณิช.(2552) การวิจัยปฏิบัติการในชั้น
เรียน : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ
อภิลักษณ์ แซ่หยิ่ง (2553) ปัญหาการทำวิจัยในชั้น
เรียนของครูในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 2 การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา การบริหารการศึกษา
Bloom, B.S. 1971. Handbook on Formative
and Summative Evaluation of
Student learning. New York; McGraw
– Hill.
Bosland, V.J. 1978 Diagonostics Assessment of
Addition Processes with Identification
and Remediation of Error Patterns.
Ph.D. Dissertation, George peabody College
For teacher. Dissertation Abstracts International. 38(February) : 4696-A.
Lai Huat Ang , Masitah Shahrill . 2014.
Identifying Students’ Specific
Misconceptions in Learning
Probability. International Journal of
Probability and Statistics.
Porter, R. 2000. An Investigation Of High
School Students' Misconceptions In
Stochastics.Ph.D. Dissertation,
Graduate Faculty, Auburn University.