การพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ภาษาไทยโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึมและเมตาคอกนิชันเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณและการกำกับตนเองในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Authors

  • รจนา จันทร์กอง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
  • ชาติชาย ม่วงปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
  • จุฬามาศ จันทร์ศรีสุคต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
  • วัชรีย์ ร่วมคิด มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

Keywords:

ทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึมและเมตาคอกนิชัน, การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ, การกำกับตนเองในการเรียนรู้, ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนายุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ภาษาไทย     โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึมและเมตาคอกนิชันเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  และการกำกับตนเองในการเรียนรู้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6                        2) ศึกษาผลการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ภาษาไทย  โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึมและเมตาคอกนิชัน ประกอบด้วย  2.1) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ                     ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียน   2.2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการกำกับตนเองในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียน  วิธีดำเนินการวิจัยมี 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพและปัญหาการจัดการการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6 จากแนวคิด ทฤษฎีและเอกสารที่เกี่ยวกับการอ่านอย่างมีวิจารณญาณและการกำกับตนเองในการเรียนรู้ ระยะที่ 2 การพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้  ระยะที่ 3 การศึกษาผลการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้  กลุ่มตัวอย่าง  ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านนาแอง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560  ใช้รูปแบบการทดลองกลุ่มเดียวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน (One – group Pretest – Posttest Design) ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณและคุณภาพ  แล้ววิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ  ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบที (t) แบบไม่เป็นอิสระ

ผลการวิจัยพบว่า

  1. ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ภาษาไทยโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึมและเมตาคอกนิชันเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ และการกำกับตนเองในการเรียนรู้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  มี 6 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) ความเป็นมาและความสำคัญ 2) หลักการของยุทธศาสตร์ 3) แนวคิดของยุทธศาสตร์ 4) จุดมุ่งหมายของยุทธศาสตร์ 5) กระบวนการจัดการเรียนรู้ตามยุทธศาสตร์ ได้แก่ 5.1) กระบวนการด้านการจัดการการเรียนรู้              ที่พัฒนาขึ้น โดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีคอนสตรัคติวิซึมและเมตาคอกนิชัน ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่  (1) ขั้นแนะนำจูงใจ  (2) ขั้นมองหาเป้าหมาย   (3) ขั้นสำรวจตรวจตรา  (4) ขั้นไข                      ความกระจ่าง (5) ขั้นสร้างความคิดใหม่ (6) ขั้นสะท้อนผลประเมินความรู้ 5.2) ปัจจัยสนับสนุน               การจัดการเรียนรู้ 6) การวัดและประเมินผลยุทธศาสตร์  โดยผลการประเมินยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 
  2. ผลการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ พบว่า 1) นักเรียนมีความสามารถใน             การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน  และสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 2)นักเรียน             มีความสามารถในการกำกับตนเองในการเรียนรู้  หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน  และสูงกว่าเกณฑ์            ร้อยละ 75   

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ:
โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

โกวิท ประวาลพฤกษ์. (2551). เพิ่มคุณภาพการเรียนรู้ด้วย Backward Design . กรุงเทพฯ:
สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ.

จิรวัฒน์ เพชรรัตน์ และอัมพร ทองใบ. (2556). การอ่านเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต. กรุงเทพฯ:
โอเดียนสโตร์.

ฉวีลักษณ์ บุณยะกาญจน. (2557). จิตวิทยาการอ่าน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ฉวีวรรณ คูหาภินันท์. (2542). เทคนิคการอ่าน Reading Techniques. กรุงเทพฯ :
ศิลปาบรรณนาคาร.

ฉวีวรรณ คูหาภินันท์. (2542). การอ่านและการส่งเสริมการอ่าน Reading and reading
promotion.กรุงเทพฯ: ศิลปาบรรณนาคาร.

ชนาธิป พรกุล. (2554). การสอนกระบวนการคิด ทฤษฎีและการนำไปใช้. พิมพ์ครั้งที่ 2 .
กรุงเทพฯ: : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์และคณะ. (2553). ดัชนีบ่งชี้และเกณฑ์ประเมินคุณภาพ: รายงานการวิจัย
เสนอต่อสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา (องค์การมหาชน).
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สแควร์ปริ๊นซ์ 93 จำกัด.

ดนยา วงศ์ธนะชัย. (2542). การอ่านเพื่อชีวิต. พิษณุโลก: คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
สถาบันราชภัฎพิบูลสงคราม.

ทองดี ดวงรัตน์. (2554). การศึกษาความพร้อมในการส่งเสริมการอ่านภาษาไทย ของโรงเรียน
ปริยัติรังสรรค์ จังหวัดเพชรบุรี. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหาร
การศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ทิศนา แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มี
ประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ทัศนีย์ ศุภเมธี. (2542). การสอนภาษาไทย. กรุงเทพฯ: สถาบันราชภัฏธนบุรี.

นันทวัน นันทวนิช. (2557). การประเมินการรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ของ PISA. สสวท, 42(186),40.

บันลือ พฤกษะวัน. (2557). แนวการพัฒนาการอ่านเร็ว คิดเป็น. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่ง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ประเทิน มหาขันธ์. (2530). การสอนอ่านเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.

ปฐมาธิดา นาใจคง. (2544). ผลการใช้แผนผังทางปัญญาและการกำกับตนเองที่มีทัศนคติและ
ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์
ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พนิตนันท์ บุญพามี. (2542). เทคนิคการอ่านเบื้องต้นสำหรับบรรณารักษ์. นครราชสีมา:
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. สถาบันราชภัฏนครราชสีมา.

วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์. (2555). นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้. พิมพ์ครั้งที่ 2. มหาสารคาม:
สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

ศิวกานท์ ปทุมสูติ. (2550). เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แก้ง่ายนิดเดียว. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ:
นวสาส์นการพิมพ์.

ศุภิสรา ทองโพธิ์. (2550). การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณ
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้ยุทธศาสตร์เมตาคอกนิชัน. วิทยานิพนธ์ปริญญา
ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2556). ผลการประเมิน PISA 20012
การอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ บทสรุปเพื่อการบริหาร. กรุงเทพฯ:
บริษัท แอดวานซ์ พริ้นติ้ง เซอวิส จำกัด.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1. (2557). รายงานผลการทดสอบ
คุณภาพการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2556. อุดรธานี: กลุ่มงานวัดและ
ประเมินผลการศึกษา กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ . (2558). คู่มือการเรียนการสอน การอ่าน คิด
วิเคราะห์ ตามแนวทางประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (PISA). กรุงเทพฯ: โรง
พิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

สุกัญญา ศรีสืบสาย. (2551). การจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการการอ่านและการคิด. พิมพ์ครั้งที่ 2.
กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์.

สุนันทา มั่นเศรษฐวิทย์. (2540). หลักและวิธีการสอนอ่านภาษาไทย. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ:
ไทยวัฒนาพานิช.

อมรวิชช์ นาครทรรพ. (2550). รายงานเรื่องคุณภาพและการประกันคุณภาพการศึกษาใน
วิถีทรรศน์การปฏิรูปการศึกษาไทย. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.

Anderson, N. (1999). Exploring Second Language Reading : Issues and strategies.
Canada : Heinle and Heinle Publisher.

Babbs, P.J. & Moe, A.J. (1983). Metacognition: A Key for Independent Learning from
Text.

Evans, R.W. (1989). A societal problems approach and the teaching history. Social Education. 80 , January, 50.

Gredler, M. (2001). Learning and instruction: Theory into practice. 4th ed. New York:
Prentice Hall.

Schunk, D.H. and Zimmerman, B.J. (eds.). (1994). Self-regulation of learning and
Performance: Issues and Education Application. New Jersey: Lewrence.
76 – 79.

Woolfolk, A.E.(1995). Educational psychology. New Jersey : Prentice-Hall.
Zimmerman, B. J.. (2002). Becoming a self- regulated learner: an overview. Journal of
Theory Into Practice. Spring-Autumn: 64 – 70.

Downloads

Published

2020-01-23