ความสัมพันธ์และความแตกต่างระหว่างอะฮฺลิซ-ซุนนะฮฺและชีอะห์ : ศึกษาประวัติศาสตร์และมุมมองนักวิชาการซุนนีย์และชีอะห์ในโลกปัจจุบัน
คำสำคัญ:
ความแตกต่าง, อะฮฺลิซ-ซุนนะฮฺ, ชีอะห์บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมา ประเภท และหลักความเชื่อของกลุ่มซุนนะฮฺและชีอะห์ที่โดดเด่นในโลกปัจจุบัน เปรียบเทียบความเหมือนและความต่างระหว่างซุนนะฮฺและชีอะห์ และศึกษาความคิดเห็นของนักวิชาการซุนนีย์และชีอะห์ในโลกปัจจุบันเกี่ยวกับความต่างระหว่างอะฮฺลิซ-ซุนนะฮฺและชีอะห์ การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเอกสารทางประวัติศาสตร์ ชั้นปฐมภูมิและทุติยภูมิ จากนั้นเก็บข้อมูลภาคสนามด้วยการสัมภาษณ์เจาะลึก การสนทนากลุ่ม และการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม กลุ่มตัวอย่างในการสัมภาษณ์เป็นนักวิชาการซุนนีย์และชีอะห์ จาก 4 ประเทศ ประกอบด้วยไทย อินโดนิเซีย คูเวต และ กาตาร์ รวมทั้งสิน 26 ท่าน จากนั้นนำข้อมูลมาทำการวิเคราะห์โดยการเปรียบเทียบเหตุการณ์และตีความสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย
ผลการวิจัย พบว่า อะฮฺลิซ-ซุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮฺ คือกลุ่มมุสลิมส่วนใหญ่ที่ยึดถือแนวทางของท่านนบี บรรดาศอหาบะฮฺ และตาบีอีน ซึ่งเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในยุคสมัยราชวงศ์อุมาวียะฮฺและอับบาซียะฮฺ กลุ่มอะฮฺลิซ-ซุนนะฮฺ แบ่งเป็น3 ประเภทใหญ่ๆ คือ กลุ่มที่เน้นหลักการศรัทธา(อากีดะฮฺ) กลุ่มที่เน้นหลักการปฏิบัติ(ฟิกฮฺ) และกลุ่มที่เน้นหลักการรายงานหะดีษ(รุว้าต) ส่วนชีอะห์ คือกลุ่มที่สนับสนุนและเชื่อว่าอะลี บิน อะบี ฏอลิบ และลูกหลานของท่านมีสิทธิในการเป็นผู้นำสูงสุดแก่มุสลิม ซึ่งความเชื่อนี้มีมาตั้งแต่สมัยของท่านนบี(ซ.) แต่ชีอะห์ที่เป็นรูปธรรมที่มีแนวคิดและแนวปฏิบัติเฉพาะเกิดขึ้นหลังจากหุเซน บิน อะลี ถูกสังหาร ส่วนประเภทของชีอะห์มีมากถึง 73 กลุ่มย่อย จาก 5 กลุ่มใหญ่ คือ อัล-กัยซานียะฮ อัซ-ซัยดียะฮ อัล-อิมามียะฮ อัล-ฆอลียะฮ และอัล-อิสมาอีลียะฮ
ส่วนความแตกต่างระหว่างอะฮฺลิซ-ซุนนะฮฺกับชีอะห์ พบว่า หลักการศรัทธาของอะฮฺลิซ-ซุนนะฮฺ เรียกว่า “รูก่นอีหม่าน” มี 6 ประการ ส่วนชีอะห์เรียกว่า “อุศูลุ้ดดีน” มี 5 ประการ หลักศรัทธาสำคัญที่แตกต่างคือ เรื่อง “ผู้นำสูงสุด”(อัลอีมามะฮฺ) หลักศรัทธาอื่นๆแตกต่างที่ชื่อเรียกและประเด็นปลีกย่อย เกี่ยวกับหลักปฏิบัติ อะฮฺลิซ-ซุนนะฮฺเรียกว่า“รูก่นอิสลาม”มี 5 ประการ ส่วนชีอะห์ เรียกว่า“ฟุรูอุ้ดดีน” มี 10 ประการ หลักปฏิบัติที่เหมือนกันคือ ละหมาด ซะกาต ฮัจญ ซึ่ง 3 ข้อนี้แตกต่างกันเฉพาะข้อปลีกย่อย ส่วนหลักปฏิบัติที่แตกต่างกัน คือ การกล่าวปฏิญาณตน(ชะฮาดะฮฺ)ไม่นับเป็นหลักปฏิบัติหรือรูก่นอิสลามของชีอะห์แต่นับเป็น“ฏอรูรีย้าต”คือความจำเป็นที่รับรู้กัน แต่คำสรรเสริญต่อ อะลี บิน อะบีฏอลิบ ไม่ใช่คำปฏิญาณเป็นเพียงคำเพิ่มที่ถูกอนุญาตเท่านั้น นอกจากนี้หลักปฏิบัติของชีอะห์ได้กำหนดเพิ่ม อัลคุมส์(บริจาคทรัพย์แก่ผู้นำสูงสุด) อัลญิฮาด(ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ) อัลอัมรุบิลมะอฺรู้ฟ(ใช้ทำความดี) อันนะฮยุอะนิลมุนกั้ร(ห้ามทำความชั่ว) อัตตะวัลลาอฺ(รักและเชื่อฟังผู้นำ) และอัตตะบั้รรออฺ(ไม่เชื่อฟังต่อผู้ปฏิเสธอิหม่าม)
เอกสารอ้างอิง
ชัยคุล อิสลาม อิบนุ ตัยมียะฮฺ . 2008. มันฮาญุ อัล-ซุนนะฮฺ อัล-นะบะวียะฮฺ ฟี นักฏี กะลาม อัล-ชีอะห์.มหาวิทยาลัยอิหม่าม อัล-สุอูด ซาอุดีอารเบีย
ซัยยิด อับดุล เราะซู้ล อัล-มูซะวีย์. 2000. อัล-ชีอะห์ ฟี อัล-ตารี้ค .มักตับ อัล-มัดบูลีย์
ซอและห์ อัล-วิ้รดานีย์ .มปป. ฟิร็อก อะฮฺลิซ ซุนนะฮฺ ญะมาอ้าต อัล-มาฏี วะ ญะมาอ้าต อัล-ฮาฏิ้ร .มัรกัส อัล-อับฮ้าซ อัล-อากีดียะฮฺ กรุงไคโร
ญะฟัร อัล-ซุบฮานี. 1421. อัล-ชีอะห์ ฟี เมากิบี อัล-ตารี้ค.มุอัสสะสะฮฺ อิหม่าม อัล-ซอดิก
รอฆิบ อัล-ซุรญานีย์. 2009. อุศู้ล อัล-ชีอะห์ วะ มุอฺตะกอด้าติฮิม อับรอ อัล-ตารี้ค. (จากอินเตอร์เน็ต)
www.islamstoyry.com
มุฮัมหมัด สะลีม อัล-เอาวา .2006. อัล-อะลาเกาะห์ บัยนะ อัล-ซุนนะฮฺ วัล-ชีอะห์. สะฟี้ร อัล-เดาลียะฮ์ ลิล- นัชรีย์
ศอลิห อัล-วิ้รดานีย์ .มปป..ฟิร็อก อะฮฺลิส-ซุนนะฮฺ ญะมาอ้าต อัล-มาฏี วะ ญะมาอ้าต อัล-ฮาฏิ้ร .มัรกัส อัล-อับฮ้าซ อัล-อากีดียะฮฺ กรุงไคโร
ศอลิห บิน อับดุรเราะห์มาน อัล-ดะคี้ล .มปป..คอศออิ้ส อะฮฺลิส-ซุนนะฮฺ วัล-ญะมาอะฮ์ ดีรอซะฮ์ วะ บะยาน . ดุษฎีนิพนธ์สาขาวิชาดะอฺวะฮฺและอุศุลุดดีน มหาวิทยาลัย อุมมุ้ลกุรอ ประเทศซาอุดีอารเบีย
สภายุวมุสลิมโลก wamy .1999.อัล-เมาซูอะฮฺ อัล-มุยัสสะเราะห์ ฟี อัล-อัดยาน วัลมาซาฮิบ อัล-มุอาศอเราะห์ .มักตะบะฮฺ อัล-อิรช้าด ซอนอาอฺ
สะอี้ด อิสมาอีล.1989. ฮากีกอตุล คีล้าฟ บัยนา อุละมาอฺ อัล-ชีอะห์ วา ญุมฮู้ร อุละมาอฺ อัล-มุสลิมีน.สภายุวมุสลิมโลก wamy
หะซัน บิน มูซา อัล-นูบัฆตีย์ และสะอัด บิน อับดุลเลาะห์ อัล-กุมมีย์. 1992. ฟิร็อก อัล-ชีอะห์. ด้าร อัล-รอช้าด ลิล ฏอบะอฺ
อะบี มันซู้ร อัล-บัฆดาดีย์. 1970 . อัล-ฟัรกู บัยนา อัล-ฟิร็อก . มักตะบะฮฺ อิบนุ ซีนา กรุงไคโร อียิปต์
อะบุล ฟะติฮ อะห์หมัด อัล-ซะฮฺร้อสตานีย์. 1993.อัล-มิลัล วัล นิฮัล . ด้าร อัล-มะอาริฟ ลุบนาน
อะบุล หะซัน อัล อัชอะรีย์. 2000.มะกอล้าต อัล-อิสลามียีน วัล-อิคติล้าฟ อัล-มุซ้อลลีน.อัลมักตะบะฮฺ อัล-อัสรียะฮฺ
อิฮฺสาน อีลาฮีย์ ซอฮี้ร . 1972. อัล-ชีอะห์ วะ อัล-ซุนนะฮฺ. อิดาเราะห์ ตัรญุมาน อัล-ซุนนะฮฺ กรุงลาโฮร์ ปากีสถาน
อับดุล มะลิก อิบนุ ฮีชาม . 1990 .อัล-สีเราะห์ อัล-นะบะวียะฮฺ .ด้ารุ้ลกิต้าบ อัล-อะรอบีย์
อับดุลฮาดี อับดุลฮามี้ด ศอลิห . 2016. อะคอวีย์ ตะอ้าล นะตะฟาฮัม หิว้าร บัยนา ดะอี้ญ วะ ญะอฺฟัร. มักตะบะฮฺ คูเวต
อัล–กูลัยนีย์ .2005. อุศู้ล อัล-กาฟีย์ ด้าร อัล-มุ้รตะฏอ ลิ อัล-ฏิบาอะฮฺ เบรุต
อัล-ชี้ค มุฮัมหมัด หุเซน อ้าล กาชิฟ อัล-ฆิฏ้ออฺ .1952.อัศลุ ชีอะห์ วะ อุศูลุฮา . ฏ้อบอะ อะลาอุดดีน อ้าล ญะอฺฟัร. เมืองกุม อิหร่าน
อัล-ชี้ค มะญีด อัล-ศออิฆ . 1435. อัล-ชีอะห์ รุว้าด อัล-อัดลุ วะ อัล-สลาม. มุอัสสะสะฮฺ อัล-บะล้าฆ เบรุต ลุบนาน
อัล-ชี้ค อัล-ศอดู้ก .1993. อัล-เอียะตีกอดาต ฟี ดีนนี อัล-อิมามียะฮฺ. ด้ารุล มุฟีด ลิตฏิบาอะฮฺ วันนัชรี วัตเตาซีอฺ เบรุต ลุบนาน
อัล-ซัยยิด อะบุล ฟัฏลฺ บิน อัล-ริฏอ อัลบุรกอีย์ อัลกุมมีย์ . 2013. สะวานิฮฺ อัล-อัยยาม อัยยา มิน ฮายาตีย์.ด้าร อัล-อะกีดะฮ์ ลิลนัชรี วัตเตาซีอฺ.