การพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ และแนวคิดการเสริมพลังการทำงาน เพื่อพัฒนาความสามารถการเป็นนักวิจัย ด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการวิจัยในชั้นเรียนของครูปฐมวัย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนายุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์และแนวคิดการเสริมพลังการทำงาน เพื่อพัฒนาความสามารถการเป็นนักวิจัยของครูปฐมวัย 2) ศึกษาผลการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์และแนวคิดการเสริมพลังการทำงาน เพื่อพัฒนาความสามารถการเป็นนักวิจัยของครูปฐมวัย ประกอบด้วย 2.1) ศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถการเป็นนักวิจัยของครูปฐมวัย ด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ระหว่างก่อนและหลังการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ 2.2) ศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถการเป็นนักวิจัยของครูปฐมวัย ด้านการวิจัยในชั้นเรียน ระหว่างก่อนและหลังการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ 2.3) ศึกษาความพึงพอใจของครูนักวิจัยระดับปฐมวัย ที่มีต่อยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์และแนวคิดการเสริมพลังการทำงาน เพื่อพัฒนาความสามารถการเป็นนักวิจัยของครูปฐมวัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้  เป็นครูผู้สอนปฐมวัย ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมศึกษาที่เปิดสอนระดับปฐมวัย ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546  ปีการศึกษา 2558  จำนวน  20  คน ซึ่งเป็นครูในศูนย์เครือข่ายสุวรรณคูหา 3 อำเภอสุวรรณคูหา  จังหวัดหนองบัวลำภู   สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 2 กลุ่มเป้าหมายนี้ได้มาโดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ซึ่งเป็นศูนย์เครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ผู้ศึกษารับผิดชอบ ดูแล อำนวยความสะดวกด้านการบริหารจัดการศึกษาตลอดจนด้านการจัดการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการอบรม เป็นแผนการจัดการอบรมตามยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้  จำนวน  4  หน่วย  15  แผน  ใช้เวลาในการอบรม  32  ชั่วโมง  2) แบบทดสอบความสามารถการเป็นนักวิจัย ด้านความรู้ ความเข้าใจ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการวิจัยในชั้นเรียนเป็นแบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ  4 ตัวเลือก จำนวน  50  ข้อ  3) แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ 4) แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้  5)แบบสอบถามความพึงพอใจของครูปฐมวัยที่มีต่อยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์และการเสริมพลังการทำงาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีแบบกลุ่มเดียวและการทดสอบทีแบบไม่อิสระ ผลการวิจัยพบว่า 

1. ผลการพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการเรียนรู้ โดยบูรณการทฤษฎีคอนสตัคชั่นนิสซึม และทฤษฏีการเชื่อมต่อ เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพครูของนักศึกษา สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะครุศาสตร์ ในระดับปริญญาตรีประกอบด้วย 5 ส่วน คือ 1) จุดมุ่งหมายของยุทธศาสตร์ 2) แนวคิดทฤษฎีพื้นฐาน 3) หลักการของยุทธศาสตร์ 4) องค์ประกอบของยุทธศาสตร์ด้านกระบวนการเรียนรู้ประกอบด้วยขั้นตอนการเรียนรู้ 5 ขั้น ได้แก่ 5.1) ขั้นทำความรู้จักและเข้าใจตนเอง 5.2) สร้างทีมและทำงานเป็นทีม 5.3) ลงมือปฏิบัติงานจริง ขั้นตอนดำเนินกิจกรรม มี 4 ขั้นตอน 5.3.1) ขั้นประสบการณ์ 5.3.2) ขั้นนำเสนอ 5.3.3) ขั้นอภิปรายและสรุป 5.3.4) ขั้นบันทึกผลการเรียนรู้     5.4) ขั้นประยุกต์ใช้ 5.5) ขั้นการสะท้อนผล 
2. ผลการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์และแนวคิดการเสริมพลังการทำงาน เพื่อพัฒนาความสามารถการเป็นนักวิจัยของครูปฐมวัย ดังนี้

                2.1 ความสามารถการเป็นนักวิจัยของครูปฐมวัย ด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ หลังการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้สูงก่อนการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้

                  2.2 ความสามารถการเป็นนักวิจัยของครูปฐมวัย ด้านการวิจัยในชั้นเรียน หลังการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้สูงก่อนการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ 

                2.3 ครูนักวิจัยระดับปฐมวัยมีความพึงพอใจของที่มีต่อยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์และแนวคิดการเสริมพลังการทำงานอยู่ในระดับดีมาก