การพัฒนาสื่ออินโฟกราฟิก เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย จังหวัดยะลา

ผู้แต่ง

  • อัญชริกา จันจุฬา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา

คำสำคัญ:

อินโฟกราฟิก, การรับรู้และการจดจำ, นักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาสำหรับนักเรียนให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อสร้างการรับรู้และจดจํา ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน ด้วยสื่ออินโฟกราฟิก 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนที่มีต่อสื่ออินโฟกราฟิก เพื่อสร้างการรับรู้และจดจํา  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านนิบงพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ที่ศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 30 คน ได้จากการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ สื่ออินโฟกราฟิก วิชาภาษาอังกฤษ เรื่อง Signs and Notices แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อสร้างการรับรู้และจดจํา  และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อสื่ออินโฟกราฟิก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และการทดสอบ(t-test แบบ Dependent) ผลการวิจัยพบว่า

      1) สื่ออินโฟกราฟิกวิชาภาษาอังกฤษ เรื่อง Signs and Notices ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 82.88/83.22  

      2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อสร้างการรับรู้และจดจําของกลุ่มตัวอย่าง หลังการเรียนด้วยสื่อ         อินโฟกราฟิกวิชาภาษาอังกฤษ เรื่อง Signs and Notices สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01    

      3) ความพึงพอใจของนักเรียนมีต่อสื่ออินโฟกราฟิก วิชาภาษาอังกฤษ เรื่อง Signs and Notices ในระดับ

มาก   

เอกสารอ้างอิง

ฉวีลักษณ์ บุณยะกาญจน. (2557). จิตวิทยาการอ่าน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

บล็อกโอแจ๊สซี. (2557). ทำไม Infographic จึงเป็นอนาคตของ Online Marketing. สืบค้นเมื่อ 22 มกราคม 2563, จาก http://ojazzy.tumblr.com/tagged

บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์, สุกรี รอดโพธิ์ทอง, ชัยเลิศ พิชิตพรชัย และ โสภาพรรณ แสงศัพท์. (2544). ความรู้เกี่ยวกับสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษา. กรุงเทพฯ : ศูนย์พัฒนาหนังสือกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ.

ปาณิสรา ศิลาพล และกอบสุข คงมนัส. (2559). ผลการใช้อินโฟกราฟิกร่วมกับกระบวนการเรียนแบบสืบเสาะที่มีต่อความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะศึกษาศาสตร์ ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา.

พัทน์ ภัทรนุธาพร. (2556). ว่าด้วยอินโฟกราฟิกการสื่อสารข้อมูลผ่านกราฟฟิก. สืบค้น 15 ตุลาคม 2563, จาก http://www.slideshare.net/patpataranutaporn/infographic-23318901.

ระวิ แก้วสุกใส และคณะ. (2556). “เครือข่ายสังคมออนไลน์ : กรณีเฟสบุ๊ค (Facebook) กับการพัฒนาผู้เรียน”. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, (5), 197-215.

สุภาพร นะมามะกะ และคณะ (2562). “การพัฒนาสื่อการสอนอินโฟกราฟิกแบบภาพนิ่ง เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1” วารสารเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ECT Journal14 (16), 1-10.

สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานส่งเสริมซอฟต์แวร์แห่งชาติ. (2550). อินโฟกราฟิกคืออะไร. (เอกสารเผยแพร่ความรู้). กรุงเทพฯ: สำนักเทคโนโลยีและสารสนเทศ กระทรวงศึกษาธิการ.

Gagné, R.M. (1985). The conditions of learning. New York:Holt, Rinehart & Winston.

Hassan, HeshamGalal. (2016). Designing Infographics to support teaching complex sciencesubject: A comparison between static and animated Infographics. Iowa: Iowa StateUniversity.

Mohammadi, Najwa Al. (2017). Effectiveness of Using Infographics as an Approach for Teaching Programming Fundamentals on Developing Analytical Thinking Skills For High School Students in the City of Makkah in Saudi Arabia. Makkah: University of Jeddah.

Pınar N. K. and Buket A. (2014). A New Approach to Equip Students with Visual Literacy Skills:Use of Infographics in Education. Ankara :Hacettepe University.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-12-30