ผลของการใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสถานการณ์สองบทบาทที่มีต่อมโนทัศน์ฟิสิกส์และการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
Keywords:
รูปแบบการเรียนรู้แบบสถานการณ์สองบทบาท, มโนทัศน์ฟิสิกส์, การนำความรู้ไปใช้Abstract
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์ เพื่อ (1) ศึกษามโนทัศน์ฟิสิกส์ของนักเรียนมัธยมศึกษา ตอนปลายโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสถานการณ์สองบทบาท (2) เปรียบเทียบมโนทัศน์ฟิสิกส์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายระหว่างกลุ่มที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสถานการณ์สองบทบาทกับกลุ่มที่เรียนโดยใช้การเรียนการสอนแบบทั่วไป (3) ศึกษาความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสถานการณ์สองบทบาท และ (4) เปรียบเทียบความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายระหว่างกลุ่มที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสถานการณ์สองบทบาทกับกลุ่มที่เรียนโดยใช้การเรียนการสอนแบบทั่วไป กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 42 จำนวน 2 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ แบบวัดมโนทัศน์ฟิสิกส์ซึ่งมีค่าความเที่ยง 0.98 และแบบวัดการนำความรู้ไปใช้ซึ่งมีค่าความเที่ยง 0.97 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ยร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบค่าที
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ (1) นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยมโนทัศน์ฟิสิกส์ เรื่อง คลื่นกล คิดเป็นร้อยละ 81.29 สูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (2) นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยการนำความรู้ไปใช้ เรื่อง คลื่นกล คิดเป็นร้อยละ 70.00 สูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05