ผลของการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์โดยใช้รูปแบบการสืบสอบของอัลเบอร์ตาเลิร์นนิงที่มีต่อความสามารถในการใช้ความรู้และความใฝ่เรียนรู้ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น EFFECTS OF SCIENCE INSTRUCTIONAL INQUIRY MODEL OF ALBERTA LEARNING ON ABILITY IN USING KNOWLEDGE
Keywords:
อัลเบอร์ตาเลิร์นนิง, การใช้ความรู้, ความใฝ่เรียนรู้, ALBERTA LEARNING, USING KNOWLEDGE, AVIDITY FOR LEARNINGAbstract
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความสามารถในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสืบสอบของอัลเบอร์ตาเลิร์นนิง (2) เปรียบเทียบความสามารถในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ระหว่างนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสืบสอบของอัลเบอร์ตาเลิร์นนิงกับนักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบทั่วไป (3) เปรียบเทียบความใฝ่เรียนรู้ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสืบสอบของอัลเบอร์ตา เลิร์นนิง (4) เปรียบเทียบความใฝ่เรียนรู้ระหว่างนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสืบสอบของอัลเบอร์ตาเลิร์นนิงกับนักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบทั่วไป กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 2 ห้องเรียน โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 กรุงเทพมหานคร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ (1) แบบวัดความสามารถในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ (2) แบบวัดความใฝ่เรียนรู้ (3) แบบสังเกตความใฝ่เรียนรู้ และ (4) แบบสัมภาษณ์ความใฝ่เรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลด้วย การหาค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ยร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบค่าที และวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ใช้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับความใฝ่เรียนรู้ของนักเรียน
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ (1) นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่เรียนด้วยรูปแบบการสืบสอบของอัลเบอร์ตาเลิร์นนิง มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละความสามารถในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เท่ากับ 57.49 ซึ่งจัดอยู่ในระดับปานกลาง (2) นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่เรียนด้วยรูปแบบการสืบสอบของอัลเบอร์ตาเลิร์นนิงมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์สูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (3) นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่เรียนด้วยรูปแบบการสืบสอบของอัลเบอร์ตาเลิร์นนิงมีคะแนนเฉลี่ยความใฝ่เรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน (4) นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่เรียนด้วยรูปแบบการสืบสอบของอัลเบอร์ตาเลิร์นนิงมีคะแนนเฉลี่ยความใฝ่เรียนรู้สูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
The purposes of this research were to (1) study students’ ability in using science knowledge after learning through the inquiry model of Alberta Learning, (2) to compare students’ ability in using science knowledge between group learning through the inquiry model of Alberta Learning and group learning through the conventional method, (3) to compare students’ learning avidity before and after learning through the inquiry model of Alberta Learning, and (4) to compare students’ learning avidity between group learning through the inquiry model of Alberta Learning and group learning through conventional method. The samples were two classes of ninth-grade students from an extra-large size school under the Secondary Educational Service Area Office 2 in Bangkok. The research instruments were (1) scientific ability test, (2) learning avidity test, (3) learning avidity observation form, and (4) avidity for learning interview questions form. The collected data were analyzed by means of arithmetic mean, mean of percentage, standard deviation, and t-test. Data collected from interviews were analyzed and used as additional information on students’ learning avidity.
The research findings are summarized as follows: (1) After learning through the inquiry model of Alberta Learning, the percentage mean scores of lower secondary school students on scientific ability knowledge was 57.49, and rated at a moderate level. (2) The mean scores of students’ ability in using science knowledge after learning though the inquiry model of Alberta Learning was higher than that of the control group at a 0.05 level of significance. (3) The mean scores of students’ avidity for learning after learning through the inquiry model of Alberta Learning were higher than mean scores before learning through this model. (4) The mean scores of students’ avidity for learning after learning through the inquiry model of Alberta Learning were higher than that of the control group at a 0.05 level of significance.