การสอนโดยวิธีการอ่านออกเสียงแบบมีปฏิสัมพันธ์เพื่อพัฒนาความรู้ ด้านคำศัพท์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ผู้แต่ง

  • ณิชกร สงวนสัตย์
  • ปราณภา โหมดหิรัญ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.

คำสำคัญ:

การสอนโดยวิธีการอ่านออกเสียงแบบมีปฏิสัมพันธ์, การอ่านออกเสียง, ความรู้ด้านคำศัพท์

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้านคำศัพท์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยวิธีการสอนโดยการอ่านออกเสียงแบบมีปฏิสัมพันธ์ กลุ่มตัวอย่างของงานวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 11 คน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ฝ่ายประถม (โปรแกรมหลักสูตรนานาชาติ) ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ดำเนินการเก็บข้อมูลในระหว่างการสอนโดยวิธีการอ่านออกเสียงแบบมีปฏิสัมพันธ์เป็นเวลา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที โดยมีเครื่องมือวิจัยคือแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบหลังเรียน และแผนปฏิบัติการการสอนโดยวิธีการอ่านออกเสียงแบบมีปฏิสัมพันธ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ การทดสอบค่าที (pair sample t-test) ค่าเฉลี่ยเลขคณิต คะแนนสูงสุด คะแนนต่ำสุด ความถี่ของข้อมูล และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่าผู้เรียนมีคะแนนผลการทดสอบหลังเรียนเพิ่มมากขึ้นภายหลังจากได้รับการสอนโดยวิธีการอ่านออกเสียงแบบมีปฏิสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สรุปผลการวิจัยได้ว่า การสอนโดยวิธีการอ่านออกเสียงแบบมีปฏิสัมพันธ์ช่วยพัฒนาความรู้ด้านคำศัพท์ของผู้เรียน

ประวัติผู้แต่ง

ณิชกร สงวนสัตย์

นิสิตมหาบัณฑิตสาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ (หลักสูตรนานาชาติ)

ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปราณภา โหมดหิรัญ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.

อาจารย์ประจำสาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ(หลักสูตรนานาชาติ)
ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-03-26

รูปแบบการอ้างอิง

สงวนสัตย์ ณ., & โหมดหิรัญ ป. (2019). การสอนโดยวิธีการอ่านออกเสียงแบบมีปฏิสัมพันธ์เพื่อพัฒนาความรู้ ด้านคำศัพท์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 13(2), 149–161. สืบค้น จาก https://so01.tci-thaijo.org/index.php/OJED/article/view/180113