ความต้องการจำเป็นของการบริหารวิชาการโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษากรุงเทพมหานครตามแนวคิดทักษะความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน

ผู้แต่ง

  • ชัญญา บุญเจริญ นิสิตมหาบัณฑิตสาขาวิชาบริหารการศึกษา ภาควิชานโยบาย การจัดการและความเป็นผู้นำทางการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ธีรภัทร กุโลภาส สาขาวิชาบริหารการศึกษา ภาควิชานโยบาย การจัดการและความเป็นผู้นำทางการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

DOI:

https://doi.org/10.14456/ojed.2020.21

คำสำคัญ:

ความต้องการจำเป็น, การบริหารวิชาการ, ทักษะความคิดสร้างสรรค์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นในการบริหารวิชาการโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานครตามแนวคิดทักษะความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน โดยใช้กรอบแนวคิดการบริหารวิชาการและทักษะความคิดสร้างสรรค์ ใช้วิธีการวิจัยเชิงบรรยาย การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษากรณีโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (M) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น (PNImodified) ผู้ให้ข้อมูลที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารและครูโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร กลุ่มโรงเรียนรัตนโกสินทร์ จำนวน 65 คน

ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันของการบริหารวิชาการโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานครตามแนวคิดทักษะความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (M = 2.938) และสภาพที่พึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.740) โดยองค์ประกอบที่มีความต้องการความจำเป็นสูงที่สุด คือ ด้านการวัดและประเมินผล (PNImodified = 0.706) รองลงมา คือ ด้านการบริหารและพัฒนาหลักสูตร (PNImodified = 0.630) โดยผลการวิจัยนี้จะเป็นฐานข้อมูลให้โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร ทราบถึงความต้องการจำเป็นในการพัฒนาการบริหารวิชาการตามแนวคิดทักษะความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน เพื่อใช้ในการสร้างแนวทางพัฒนาต่อยอดโครงการที่เพิ่มทักษะความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนต่อไป

เอกสารอ้างอิง

เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. (2553). ความคิดเชิงสร้างสรรค์. ซักเซสมีเดีย.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กมล ภู่ประสริฐ. (2554). การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา. ทิปส์พับบลิเคชั่น.

กิติมา ปรีดีดิลก. (2532). การบริหารและการนิเทศการศึกษาเบื้องต้น. อักษรพิทักษ์.

ชลาธิป ชาญชัยฤกษ์. (2558). Think outside the box. สถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. http://www.culi.chula.ac.th/salc/images/Eng%20today/Eng.-57%20_Think%20outside%20the%20box.pdf

นิลวรรณ วัฒนา (2556). การศึกษาสภาพการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดชลบุรี [สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

เบญจพร อยู่เจริญ. (2551). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยสภาพแวดล้อมทางการเรียนและปัจจัยส่วนบุคคลกับความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร กลุ่มบูรพา [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2553). การบริหารงานวิชาการ. ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพฯ.

เมธวิน ปิติพรวิวัฒน์. (2561, 27 มิถุนายน). 21st-century skill: ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21. http://medium.com/base-the-business-playhouse/21st-century-skill-ทักษะแห่งศตวรรษที่-21-898985d417ce

ระภา เอี่ยมสุธี (2557). การพัฒนากิจกรรมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการเล่านิทานประกอบงานศิลปะที่ส่งเสริมความความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัย [สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต].มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีการสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. ตถาตา.

วิจารณ์ พานิช. (2558). การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ เรื่อง การประเมินพัฒนาการด้านกระบวนการคิดวิเคราะห์สร้างสรรค์. สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน. http://www.qlf.or.th/Home/Contents/1027.

วสันต์ สุทธาวาส. (2060, 18 มกราคม). การวัดความคิดสร้างสรรค์ในเด็ก. http://www.edsiam.com/ความคิดสร้างสรรค์/

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท). (2553). รูปแบบการสอนที่พัฒนากระบวนการคิดระดับสูงวิชาวิทยาศาสตร์. โรงพิมพ์คุรุสภา.

สมพร หลิมเจริญ. (2552). การพัฒนาหลักสูตรเสริมเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สุวิมล ว่องวาณิช. (2558). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น (พิมพ์ครั้งที่ 3). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร. (2562). รายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2562. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

Barbot, B., Besançon, M., & Lubart, T. I (2011). Assessing creativity in the classroom. The Open Education Journal, 4(1). 48-56. http://dx.doi.org/10.2174/1874920801104010058

Conbach, L. J. (1984). Essential of psychology and education. McGraw Hill.

Davis, G. A. (2003). Identifying creative students, teaching for creative growth. In N.

Conlangelo & G. A. Davis (Eds.), Handbook of gifted education (pp. 311–324). Pearson Education.

Fisher, R., & Williams, M. (Eds.). (2004). Unlocking creativity: Teaching across the curriculum. Routledge.

Guilford, J.P. (1967). The nature of human intelligence. McGraw Hill.

Jellen, H.G., & Urban, K.K. (1986). Assessing creative potential via drawing production: The test for creative Thinking-Drawing Production (TCT-DP). In A.J. Cropley, K.K. Urban, H. Wagner & W. Wieczerkowski (Eds.), Giftedness: A continuing worldwide challenge (pp. 163–169). Trillium.

Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Education and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Torrance, E. P. (1964). The Minnesota studies of creative thinking. In C. W. Taylor (Ed.), Widening horizons in creative (pp. 125-144). JohnWiley & Sons.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-09-16

รูปแบบการอ้างอิง

บุญเจริญ ช., & กุโลภาส ธ. (2020). ความต้องการจำเป็นของการบริหารวิชาการโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษากรุงเทพมหานครตามแนวคิดทักษะความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 15(2), OJED1502014 (12 pages). https://doi.org/10.14456/ojed.2020.21

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย