กลยุทธ์ของผู้ปกครองในการเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของเด็กวัยอนุบาลโรงเรียนอนุบาลถักทอรัก
DOI:
https://doi.org/10.14456/ojed.2020.31คำสำคัญ:
กลยุทธ์ของผู้ปกครอง, การเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเอง, เด็กวัยอนุบาลบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์การวิจัยคือ เพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์ของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเห็นคุณค่าในตนเองของเด็กวัยอนุบาล ใน 3 ด้าน ได้แก่ การให้ความรู้ การมีส่วนร่วม การเสริมแรงทางบวก ตัวอย่างในการวิจัยคือ ผู้ปกครองเด็กวัยอนุบาล ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนอนุบาลถักทอรัก จำนวน 168 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ปกครองใช้กลยุทธ์ในการส่งเสริมการเห็นคุณค่าในตนเองของเด็กวัยอนุบาลโดยภาพรวมปฏิบัติอยู่ในระดับมาก (M = 4.07 ) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ทุกด้านปฏิบัติอยู่ในระดับมาก (3.72 ≤ M ≤ 4.38) โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการเสริมแรงทางบวก (M = 4.38) ซึ่งมีประเด็นย่อยที่มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดคือ การสื่อสารอย่างให้เกียรติ (M = 4.51) รองลงมา คือ ด้านการให้ความรู้ (M = 4.10) โดยมีการอบรมสั่งสอนเกี่ยวกับการใช้ชีวิต (M = 4.19) เป็นประเด็นย่อยที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด และด้านที่มีการปฏิบัติต่ำที่สุด คือ ด้านการมีส่วนร่วม (M = 3.72) โดยการทำกิจกรรมร่วมกันกับสมาชิกในครอบครัว (M = 4.25) เป็นประเด็นย่อยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด
เอกสารอ้างอิง
จินดารัตน์ โพธิ์นอก. (2557, 14 มีนาคม). องค์ความรู้ภาษา-วัฒนธรรม(องค์ความรู้ภาษาไทย). เดลินิวส์. https://www.dailynews.co.th/article/222665
จินตนา สงวนแก้ว. (2556). การเห็นคุณค่าในตนเอง. ถามครู. http://taamkru.com/th/การเห็นคุณค่าในตนเอง/
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น. สุวีริยาสาส์น.
ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์. (2561). เลี้ยงลูกอย่างไรให้ได้ EF (พิมพ์ครั้งที่ 6). สายธุรกิจโรงพิมพ์.
ผู้จัดการออนไลน์. (2560, 21 กันยายน). เก่งเต็มเมือง แต่คิดไม่เป็น วิกฤตเด็กปฐมวัย ความสิ้นหวังการศึกษาไทย. https://mgronline.com/live/detail/9600000097087
มาลิณี จุโฑปะมา. (2553). การเห็นคุณค่าในตนเองนั้นสำคัญไฉนและจะสร้างได้อย่างไร. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 2(2), 13-16.
วรรณี แกมเกตุ. (2555). วิธีวิทยาการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 3). โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
แววดาว ดวงจันทร์. (2551). การใช้กิจกรรมทักษะชีวิตเพื่อพัฒนาความรู้สึกเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 [วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ศุภางค์ สองเมือง. (2554). กลไกการปรับตัวทางสังคมของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนราชประชานุ-เคราะห์ 42 จังหวัดสตูล [วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยทักษิณ.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2561). ปลูกฝัง Self Esteem ความภาคภูมิใจในตนเองให้ลูก. ศูนย์ข้อมูล สสส. (Resource Center).
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเพื่อการขับเคลื่อน หลักสูตร การจัดการเรียนรู้การวัดผลและประเมินผล. กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2561). สมรรถนะการศึกษาไทยในเวทีสากล ปี 2560 (IMD 2017). 21 เซ็นจูรี่.
สุรางค์ โค้วตระกูล. (2559). จิตวิทยาการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 12). โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Colquhoun, L. K. & Bourne, P. A. (2012). Self-esteem and academic performance of fourth. graders in two elementary schools in Kingston and St. Andrew. Jamaica. Asian Journal of Business Management, 4(1), 36-57.
Lyness, A. (2018). Your child's self-Esteem. KidsHealth from Nemours. https://kidshealth.org/en/parents/self-esteem.html.
Parenting SA. (2010). Self-esteem: Parent easy guide. https://parenting.sa.gov.au/easy-guides/self-esteem-parent-easy-guide
Pintoa, A., Veríssimoa, M., Gatinhoa, A., Santosa, A. J. & Vaughnb, B. E. (2015). Direct and indirect relations between parent–child attachments, peer acceptance, and self-esteem for preschool children. Attachment & Human Development, 17(6), 586-598. https://doi.org/10.1080/14616734.2015.1093009
Saad, N. (2016). Raising confident kids 10 ways to foster self-esteem and avoid typical parenting mistakes. Best of Parenting Publishing.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
